บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท (PL066A, PL079A, PL08OA, PL081A) ที่ระดับ "A-" พร้อม คงแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ในขณะเดียวกันได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 700 ล้านบาทที่ระดับ "A-/Stable" เช่นเดียวกัน โดยอันดับเครดิต สะท้อนความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่า ในภาวะที่การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความ เสี่ยงที่ดีและกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดซึ่ง ทำให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีได้ใน ช่วงที่บริษัทมีการขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่า อันดับ เครดิตยังพิจารณาถึงสัดส่วนการกู้ยืมของบริษัทที่ดีขึ้นภายหลังจากการเพิ่มทุนตามแผนซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือนกันยายน 2548 อย่างไรก็ ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาวะการ แข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าดำเนินงานรถยนต์ซึ่งอาจ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" นั้นสะท้อนศักยภาพของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และมีผลประกอบการในระยะปานกลางตามที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกับการรักษาคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงมี อัตราการขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่าและกำไรในระดับที่น่าพอใจในช่วง 9 เดือนแรกของงวดบัญชีปี 2548 (ตุลาคม 2547-มิถุนายน 2548) ณ เดือนมิถุนายน 2548 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่ารวมเพิ่มขึ้น 5,762 ล้านบาท จาก 4,995 ล้านบาท ณ เมื่อเดือนกันยายน 2547 บริษัทยังมีรายได้ที่ขยายตัว 8.6% เป็น 1,155 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของงวดบัญชีปี 2548 จาก 1,063 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทลดลงเล็กน้อยเป็น 77.82% จาก 77.98% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 และ ลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ 71% หลังจากที่บริษัท เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 150 ล้านบาทในช่วงต้นเดือน กันยายน 2548 โดยมีการเสนอขายหุ้นในราคา 2.30 บาทต่อหุ้น
เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ 700 ล้านบาทในครั้งนี้ ไปชำระคืนตั๋วแลกเงินระยะสั้นที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม 2548 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยให้แก่บริษัทจากการที่โครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทมี ความสอดคล้องกันมากขึ้น แม้ว่าหุ้นกู้ที่ออกใหม่จะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคง อยู่ในระดับที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้
|