ดีแทค-ทีเอออเร้นจ์ ฟันธงกสทต้องปลดล็อกสัญญาร่วมการงานแน่ หลังจากไม่สามารถรับภาระค่าธรรมเนียมต่างๆแทนเอกชนได้ "วิชัย เบญจรงคกุล" ชี้ปีหน้าจะเห็นการเจรจา ซึ่งหลักการของดีแทคต้องตกลงเรื่องสิทธิในการบริหารโครงข่ายอย่างรอบคอบ

นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิ-เคชั่น หรือดีแทคกล่าวว่า หากบริษัท กสท โทรคมนาคม ต้องการยกเลิกสัญญาร่วมการงานกับดีแทค ก็เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะประเด็นสิทธิในการใช้โครงข่ายจะตกลง อย่างไร ให้ซื้อคืนในระดับราคาเท่าไหร่ เพราะดีแทคลงทุนโครงข่ายไปแล้วหลายหมื่นล้านบาท ส่วนภาระใหม่ตามเงื่อนไขของกทช.นั้นต้องเจรจา กันด้วยหลักการเป็นธรรมและเท่าเทียม

"เงื่อนไขใหม่ของกทช.และเงื่อนไขเดิมตามสัญญาร่วมการงาน ทำให้คู่สัญญาสับสน และเมื่อความชัดเจนมีมากขึ้น สัญญาก็ไม่น่าจะคงอยู่ต่อไป"

เขาเชื่อว่า ภายในปีหน้าจะเริ่มเห็นการเจรจา ของคู่สัญญาร่วมการงาน เพื่อยกเลิกสัญญาระหว่างกัน เพราะเงื่อนไขของกทช.บังคับให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น อย่างเช่น กสท ได้ทำหนังสือถึง ดีแทค ให้จ่ายค่าธรรมเนียมเลขหมายปีละ 12 บาท ต่อเลขหมายแทนกสท ซึ่งดีแทคเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันดีแทคมีภาระค่าแอ็คเซ็สชาร์จที่ต้องจ่ายให้ทีโอทีในระบบโพสต์เพดเลขหมายละ 200 บาทต่อเดือนและในระบบพรีเพดเลขหมายละ 18% หากต้องมาจ่ายค่าเลขหมายให้กทช.ก็เท่ากับต้องเสีย 2 ต่อ

เนื่องจากค่าแอ็กเซ็สชาร์จ เป็นการตกลงระหว่างดีแทคกับทีโอที เพื่อใช้เลขหมายนำหน้าด้วย 01 โดยไม่ได้มีสูตรคำนวณตามหลักวิชาการ อะไรเลย เป็นแค่ตกลงกันว่า 200 บาท รับไหวหรือ ไม่ เพราะกสทไม่มีโครงข่ายภายในประเทศ จำเป็น ต้องอาศัยเลขหมายของทีโอที รวมทั้งการให้บริการโทรศัพท์มือถือตอนนั้น ลูกค้าดีแทคต้องเสียค่าโทรศัพท์ทั้งรับสายเข้าและโทร.ออก ต่างจาก เอไอเอส ทำให้ดีแทคต้องยอมเสียเลขหมายละ 200 บาทให้ทีโอทีเพื่อใช้เลขหมายนำหน้าด้วย 01 เหมือนเอไอเอส

"ดีแทคทำหนังสือตอบกลับไปแล้วว่าค่าธรรมเนียมเลขหมายไม่ใช่ภาระของบริษัท ในขณะที่เอไอเอสนั้น ทีโอทียอมจ่ายค่าเลขหมายให้กทช."

ด้านนายอธึก อัศวานนท์ รองประธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่นกล่าวว่าทีเอออเร้นจ์ ก็ได้รับหนังสือจากกสทเพื่อขอให้รับภาระค่าเลขหมาย เช่นเดียวกัน แต่ได้ทำหนังสือกลับไปแล้วว่าเป็นภาระของกสทที่ต้องจ่ายค่าเลขหมาย เพราะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กทช. ซึ่งเมื่อดูจากค่าธรรม-เนียมตามเงื่อนไขใหม่ของกทช. แล้ว กสทควรต้องหาทางปลดล็อกสัญญาร่วมการงานออกเสีย

เขาขยายความว่า ปัจจุบันแม้ยังไม่มีการใช้อินเตอร์คอนเน็กชัน ชาร์จ แต่กสทก็มีภาระที่ติดลบแล้วจากค่าธรรมเนียมของกทช. เพราะกสทต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 3% ค่าธรรมเนียม USO 4% ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย ซึ่งรายได้ดังกล่าวรวมค่าแอ็กเซ็สชาร์จที่กสทไม่ได้รับเงิน แต่ต้องรวมเป็นรายได้ด้วย เท่ากับ กสทจะต้องจ่ายให้กทช.เพิ่มในส่วนของรายได้ที่ไม่ได้รับ ซึ่งปัจจุบันรายได้แอ็กเซ็สชาร์จที่ทีโอทีได้รับจากเอกชนภายใต้คู่สัญญาร่วมการงานของกสท นับหมื่นล้านบาทต่อปี