|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังจากที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ประสบความสำเร็จจากการได้จัดแคมเปญขายทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลของบสท.มาแล้วถึง 3 ครั้ง และกำลังจะจัดงานครั้งที่ 4 ในเดือนพย.นี้ ภายใตแคมเปญ"เปิดคลังสมบัติ ทำเลค้าขายทั่วไทย"
การจัดงานทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายกลางขึ้นไป เพราะส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่นำมาให้ประมูลนั้นจะเป็นที่ดินแปลงใหญ่ที่ผู้ประมูลซื้อไปจะต้องนำไปพัฒนาต่อ หรืออาจจะนำไปให้เช่า ทั้งในรูปแบบของอาคารสำนักงาน โกดัง โรงแรม อพาร์ตเมนท์ เป็นต้น
มาคราวนี้ บสท.หันมาเอาใจบรรดาผู้ประกอบการรายย่อย และรายกลางหรือเอสเอ็มอีบ้าง โดยงัดเอาทรัพย์สินขนาดไม่ใหญ่มาให้เจ้าของกิจการรายย่อยได้มีโอกาสได้เลือกซื้อทรัพย์ราคาถูกบ้าง
เชาวรัตน์ เชาวน์ชวานิล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาสินทรัพย์ บสท.กล่าวว่า ทรัพย์สินที่จะนำมาให้พ่อค้าแม่ขายได้ร่วมประมูลครั้งนี้ ถูกคัดสันมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยเลือกซื้อ ประกอบด้วย อาคารพาณิชย์ ที่ดินเปล่า และที่ดินเปล่าพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่สามารถนำมาเป็นโชว์รูมได้ จำนวนมากถึง 700 รายการ มูลค่ารวมเกือบหมื่นล้านบาท
ที่สำคัญทำเลยังอยู่ในย่านค้าขายอีกด้วย อาทิ บริเวณสี่แยกคลองตัน ,ริมถนนสามเสน ,เชิงสะพานข้ามคลองรอบกรุง ใกล้สี่แยกบางลำภู รวมถึงบริเวณสวนสยาม ซึ่งทุกทำเลล้วนเหมาะที่จะนำไปประกอบอาชีพค้าขายได้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีโชว์รูมรถยนต์และศูนย์บริการ โชว์รูมสินค้า ปั๊มน้ำมัน ตลาด ศูนย์อาหารภายในอาคารสำนักงาน โรงแรม และสนามไดร์ฟกอล์ฟอีกด้วย
ทั้งนี้ ราคาทรัพย์ที่นำมาให้ประมูลในครั้งนี้ มีตั้งแต่ราคา 1-2 ล้านบาท และราคาสูงกว่า 20 ล้านบาท การจัดงานนี้ก็เหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยทางบสท.จะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถ ชมรายการทรัพย์สินผ่านเว็บไซต์บสท.ได้ที่ www.tamc.or.th หรือของรับซีดีรายการทรัพย์สินได้ที่สำนักงานบสท. เพื่อเลือกชมทรัพย์สินที่ต้องการจะประมูลได้ก่อนวันประมูล
เชาวรัตน์ กล่าวว่า ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลจะต้องลงทะเบียนโดยตรงกับบสท. ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ และจะประมูลในเดือนพ.ย. ด้วยวิธียื่นซองประมูล และจะเปิดซองต่อหน้าคณะกรรมการและผู้เข้าร่วมประมูล โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล
สำหรับเงื่อนไขการจ่ายเงินนั้น ผู้ชนะการประมูลจะต้องวางเงินในวันทำสัญญา 10% ของราคาที่ชนะการประมูล หลังจากนั้นอีก 30 วัน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 10% ส่วนที่เหลืออีก 80% จ่ายภายใน 90 วัน หลังจากวันทำสัญญา
และเพื่อสร้างความสะดวกให้กับผู้ชนะการประมูล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ทางบสท.ได้ติดต่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เพื่อปล่อยสินเชื่อเป็นพิเศษแก่ผู้ซื้อทรัพย์สินของบสท.โดยธอส.จะปล่อยกู้ในอัตราสูงถึง 90%
|
|
|
|
|