Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 ตุลาคม 2548
ชี้อสังหาฯปี49จัดสรรแข่งเดือด             
 


   
search resources

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม
Restaurant




"นายกสมาคมอสังหาฯ" ทำนายปี 49 ตลาดแข่งดุแต่ไม่ถึงขั้นเล่นสงครามราคา เหตุต้นทุนก่อสร้างขึ้นไม่หยุด ขณะรายใหญ่ถึงกลางเร่งผลิตซัปพลายเพิ่มหลังซัปพลายหดหวังรักษาระดับการเติบโต เชื่อซัปพลายใหม่ ราคาเท่าเดิมแต่ขนาดบ้านเล็กลง ระบุปัจจัยลบรอบด้านส่งผลต่อความเชื่อมั่นขั้นรุนแรงระยะแรก ชี้ตลาดปัจจุบันอยู่ช่วงปรับตัวทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย มั่นใจปลายปีตลาดปรับตัวดีขึ้นเหตุอยู่ในช่วงฤดูขาย

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ในปี 2549 การแข่งขันใน ตลาดจะเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เพราะ ผู้ประกอบการจะมีการพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนซัปพลายที่ลดลงไปค่อนข้างมากในช่วงปี 2548 ซึ่งมีจำนวนซัปพลายที่ลดลง เพราะผู้ประกอบการชะลอการผลิตสินค้าไป ในขณะที่ตลาดมีการระบายสินค้าออกไปแล้วบางส่วนทำให้ซัปพลายที่มีอยู่ลดจำนวนลง แต่จำนวนดีมานด์ยังมีอยู่ ทำให้ผู้ประกอบการเร่ง พัฒนาสินค้าออกมาป้อนตลาดเพื่อรักษาระดับความต่อเนื่องของยอดขาย บริษัท

ทั้งนี้ การพัฒนาที่อยู่อาศัยออกสู่ตลาดในปี 49 คาดว่าจะมีระดับคงที่จากปีนี้ แต่จากที่มีการพัฒนาสินค้าออกมาในช่วงปี 49 เพื่อรักษาความต่อเนื่องของยอดขายนี้เอง จะทำให้เกิดการเร่งทำยอดขายมากขึ้น ส่งผลต่อการแข่งขันทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อแย่งชิงลูกค้า แต่การแข่งขันจะไม่รุนแรงเท่ากับปี 2546 ซึ่งมีการลดราคาสินค้าขายสู้กันเพื่อระบาย สต๊อกที่มีอยู่ในมือจำนวนมากเป็นการลดต้นทุนจาก ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ใช้พัฒนาโครงการ

อย่างไรก็ตามแม้ว่าการแข่งขันจะมีความรุนแรงขึ้น แต่ปัจจัยในเรื่องต้นทุนการก่อสร้างที่ยังมีแนวโน้ม ว่าจะปรับสูงขึ้นรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอีกเพื่อรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มขึ้นสูงเกินไป จะทำให้กำลังซื้อของลูกค้า ลดลง จะส่งผลให้ที่อยู่อาศัยที่จะถูกพัฒนาออกมาในตลาด ปี 49 มีขนาดที่ลดลงในขณะที่ราคายัง เท่าเดิม หรืออาจจะมีบางรายที่ยังคงขนาดบ้านเท่าเดิม แล้วหันไปปรับขึ้นราคาสินค้าแทนเพื่อรักษาอัตรากำไรไว้

ส่วนแนวโน้มของประเภทที่อยู่อาศัยที่จะมีการขยายตัวในปีหน้านั้น คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยในระดับ 1-3 ล้านบาทจะเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ที่สุด เพราะเป็นตลาดที่ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ยังมีกำลังซื้ออยู่มาก โดยเฉพาะ ตลาดคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ ส่วนบ้านเดี่ยวระดับ 3- 5 ล้านคาดว่ายังขยาย ตัวอยู่แต่อัตราการขยายตัวจะไม่มากเท่ากับตลาดแรกที่กล่าวข้างต้น สำหรับที่อยู่อาศัยราคาแพงยังชะลอตัวลง เนื่องจากกลุ่ม ลูกค้าในตลาดนี้จะเป็นนักธุรกิจ ซึ่งค่อนข้างระมัดระวังตัวในการใช้จ่าย เพราะเศรษฐกิจของประเทศยังมีความ ผันผวนจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย

นายสมเชาว์กล่าวว่า อย่างไรก็ดีในปี 2549 เชื่อว่าอัตราการเติบโตของตลาดอสังหาฯจะขยายตัวไม่เกิน 5-10% เนื่องจากตลาดเริ่มมีการปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป การปรับตัวของผู้ประกอบการและผู้บริโภคนั้น เนื่องสืบมาจากการชะลอตัวของตลาดตั้งแต่ในช่วงปลายปี 47 ต่อเนื่องมาเกือบทั้งปีของปี 2548 เนื่องจากผลกระทบจากต้นทุนการก่อสร้าง การขนส่ง อาทิ การขึ้นราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการบริหารต้นทุนและใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อรักษายอดขายและกำไรจากการขายให้อยู่ในระดับที่ขยายตัว

ขณะที่ผู้บริโภคในตลาดมีการชะลอกำลังซื้อลง เพราะขาดความ เชื่อมั่นจากสถานการณ์ตลาดที่มีการ ปรับตัวและแปรผันอยู่ต่อเนื่องตลอดเวลา โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และสถานการณ์เงินเฟ้อ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ และขาดความเชื่อมั่นในกำลังซื้อและการผ่อนส่งของลูกค้าเอง ส่งผลให้ ผู้ประกอบการต้องชะลอการผลิต สินค้าออกสู่ตลาดซึ่งเห็นได้จาก ในช่วงปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการ รายใหญ่และ รายกลางรวมถึงรายเล็ก ชะลอการเปิดตัวโครงการออกมา แต่อย่างไรก็ตามก็ ยังมีผู้บริโภคส่วนหนึ่ง ที่มีการตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ซัปพลายในตลาดลดลงไปจำนวนหนึ่ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us