Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 ตุลาคม 2548
เงินฝากไหลทะลักเข้าตราสารหนี้ บัวหลวงธนรัฐยอดเฉียด1หมื่นล.             

 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด
โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง

   
search resources

กสิกรไทย, บลจ.
บัวหลวง, บลจ.
Funds




3 บลจ.สุดปลื้ม กองทุนตราสารหนี้อายุ 1 ปีระดมเงินฝากแบงก์ล้นพอร์ต ค่ายบัวหลวง ปิดขายกอง บัวหลวงธนรัฐ 10/49Ž รับทรัพย์ 9,200 ล้านบาทเต็มมูลค่า เตรียมส่งกองใหม่ปลายปีนี้ ด้านกสิกรไทย ดูดเงินเข้ากองทุน รวงข้าวธนรัฐ 8/50 อีกกว่า 3,800 ล้านบาท ขณะที่บีโอเอ ปิดจอง 2 กองทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

ภาพรวมตลาดกองทุนตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรหรือตั๋วเงินคลัง พันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ยังคงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม แม้สัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยหลายฝ่ายประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่ง ประเทศไทย ที่จะมีขึ้นภายในเดือนตุลาคมนี้ จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะสั้น (อาร์/พี) 14 วันอีกครั้ง และใน การประชุมในคราวหน้าก็จะประกาศขยับตัวขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบขยับตัวขึ้นตาม

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวกองทุนตราสารหนี้ ระยะสั้นยังคงได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่อง จากผลตอบแทนที่ได้รับถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ขณะเดียวกันการลงทุนผ่านกองทุนยังได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี ซึ่งยิ่งเป็นอีกแรงหนุนที่สำคัญทำให้คนที่มีเงินฝากสนใจลงทุนผ่านกองทุนรวม และประเด็นที่น่าสนใจ คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มี นโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐ หากจะเปรียบเทียบกับความเสี่ยงในการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์แล้ว แม้จะมีความเสี่ยงแต่ก็อยู่ในสถานะที่รับได้ เพราะผู้ที่ออกตราสารส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง หรือรัฐวิสาหกิจ

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกสำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/49 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 สามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 9,200 ล้านบาท ซึ่งเต็มจำนวนเงินทุนที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยหลังจาก ระดมทุนในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะนำไปจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในวันที่ 6 ตุลาคม 2548 และเริ่มลงทุนให้แก่กองทุนตามนโยบายที่ระบุไว้ทันที เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของท่านผู้ถือหน่วย ลงทุนทุกท่าน

ทั้งนี้ หลังจากได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/49 แล้ว บริษัทกำลังพิจารณาจัดตั้งกองทุนอายุ1 ปีอีกในช่วง ที่เหลือของปี โดยจะดูจังหวะที่เหมาะสมต่อประโยชน์ของผู้ลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนสำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีเป็น 15,000 ล้านบาทจากมูลค่ากองทุนที่จดทะเบียนเดิม 5,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2548 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการผูกติดกับกองทุน เป็นระยะเวลานานและต้องการซื้อขายได้ทุกวันพร้อมรับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยในขาขึ้น

โดยกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีเป็นกองทุนที่ มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือหากเป็น ตราสารหนี้ภาคเอกชนจะต้องที่มีคุณภาพเยี่ยมโดย ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A- ขึ้น ไปเท่านั้น สำหรับผลตอบแทนที่ผ่านมานับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2548 รวม 207 วัน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 2.29% ต่อปี

ด้านรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 8/50 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยได้ยอด ขายถึง 3,831.22 ล้านบาท จากมูลค่าจดทะเบียนโครงการทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 8/50 มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี 10 เดือน รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 4 งวด เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ที่รัฐบาลออกหรือค้ำประกัน เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ พันธบัตรกองทุนเพื่อ การฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน โดยมีระยะเวลาลงทุน ในกองทุนประมาณ 1 ปี

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีโอเอ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ปิดขาย หน่วยลงทุนสำหรับกองทุนเปิดพันธบัตรทวีค่า 3 และกองทุนเปิด พันธบัตรเพิ่มค่า 11 (WTF11) เมื่อ วันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่าสามารถระดมทุนรวมกันได้ประมาณ 2,050.38 ล้านบาท โดยแบ่ง เป็นกองทุนเปิดพันธบัตรทวีค่า 3 ได้ยอดขาย 746.66 ล้านบาท ส่วนกองทุนเปิดพันธบัตรเพิ่มค่า 11 ได้รับยอดขาย 1,303.72 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us