|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ประชา" สั่ง สพท.เร่งศึกษาจัดโซนนิ่งด้านการท่องเที่ยว แนะก๊อบปี้จากประเทศจีน หวังมาปรับใช้พัฒนาพื้นที่โดยรอบแหล่งท่องเที่ยว ขยายผลแนวคิดในโครงการ 1 ภูมิภาค 1 แหล่งท่องเที่ยว เหตุต้องการดึงเอกชนเข้ามาลงทุน พร้อมโปรยยาหอมให้สิทธิพิเศษบีโอไอ
นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยหลังการประชุม คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ดททท.) ว่า ตามที่ได้มอบนโยบายการทำงานด้านการ ท่องเที่ยวให้แก่สำนักงานปลัด และสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวที่ต้อง การให้ภายในปี 2549 ประเทศไทยจะต้องมีแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเป็นแม่เหล็ก ดึงนักท่องเที่ยวภาคละ 1 แห่ง
ล่าสุดมีแนวคิดเพื่อนำมาเป็น ส่วนขยายของการพัฒนาดังกล่าวว่า จะกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย(โซนนิ่ง) ในบริเวณรอบแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละแห่งเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่พัก และธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยโครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อผลักดันให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆของประเทศได้อย่างยั่งยืน สามารถรองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ไปดำเนินการศึกษาพร้อมจัดวางรูปแบบจัดพื้นที่ทำโซนนิ่ง โดยจะหารือร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและภาษีเป็นจุดดึงดูดให้นักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่ในโซนนิ่ง
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 1 ภูมิภาค 1 แห่ง เบื้องต้นจะมี 4 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ จะผลักดัน สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมผลักดันให้เขาพนมรุ้งเป็นจุดขายแห่งใหม่ ภาคตะวันตก จะพัฒนาบริเวณ สะพานข้ามแม่น้ำแคว และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบ พื้นที่, ภาคใต้ แบ่งเป็นภาคใต้ตอนบนคือ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย หรือโครงการริเวียร่า คือ ประจวบฯ ชุมพร เพชรบุรี ส่วนภาคใต้ตอนล่างคือ จ.ภูเก็ต สำหรับภาคกลาง นอกจากกรุงเทพฯ ยังมี จ.อยุธยา ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี
นายประชา กล่าวว่า การทำงานของ สพท. คือเข้าไปจัดทำโซนนิ่ง และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน อาทิ ถนน ไฟฟ้า ประปา ห้องสุขา ป้ายบอกทาง ขณะที่ในส่วนของภาคเอกชน ที่รัฐบาลจะให้การส่งเสริมด้านการลงทุน จะเป็นกลุ่มธุรกิจบริการ อาทิ โรงแรมที่พัก รถเช่า ร้านอาหาร ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น(แมนเมด) เพื่อเพิ่มสีสันและจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว ได้นำรูปแบบแนวคิดการจัดโซนนิ่งด้านการท่องเที่ยวมาจากประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนจะเป็นผู้ลงทุน พร้อมจัดโซนนิ่ง ระบุว่าพื้นใดควรก่อสร้างอะไร โดยจะทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน และเมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัว รัฐจะค่อยๆ ถอนตัวออกไป ปล่อยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมองว่าประเทศไทยมีความเป็นไป ได้ที่จะดำเนินการในรูปแบบนี้เช่นกัน หากประสบผลสำเร็จ จะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ที่ต้องการดึงการท่องเที่ยวเข้าจังหวัด แต่ยังขาดจุดขายที่ชัดเจน
สำหรับวาระการประชุมบอร์ดในครั้งนี้ได้พิจารณาเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ รูปแบบการประเมินผลการทำงานของ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางจุฑามาศ ศิริวรรณ ตามสัญญาว่าจ้าง ที่จะต้องประเมินผลงานทุกๆ 6 เดือน โดยจะนำวงเงินงบประมาณที่ใช้ มาเทียบกับผลงานที่ได้รับ เพื่อใช้ประกอบการประเมินผลงาน เพราะต้องการให้ มีการใช้เงินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนั้นในส่วนแผนการตลาดปีงบประมาณ 2549 ที่ ททท. ได้เสนอมาให้พิจารณา ค่อนข้างพอใจ แต่ได้สั่งการให้ ททท.กลับไปทำเพิ่มเติมในส่วนของระยะเวลาการทำงาน และผลที่เป็นยอดนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้รับ โดยต้องทำเป็นตัวเลขชัดเจน กำหนดขอบเขตระยะเวลาแน่นอน และมีเจ้าภาพดูแลจัดการและตามงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหาดป่าตองและกมลา โดยขณะนี้ได้ออกแบบผังการปรับปรุงแล้วเสร็จทั้งสองหาด โดยเตรียมเปิดการประมูลการจัดจ้างลักษณะพิเศษ เพื่อย่นระยะเวลาตามขั้นตอนของระเบียบราชการบางส่วนลง อย่างไรก็ตาม ททท.ได้เร่งพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าเฟสแรกจะเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ รวมถึงพื้นที่ที่ใช้จัดงานรำลึกวันสึนามิ ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ และจะเสร็จสมบูรณ์ครบทุกเฟสภายในเดือนมกราคมนี้ จากกำหนดการเดิมเป็นเดือนมีนาคม ซึ่งต้องการให้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
|
|
|
|
|