Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 ตุลาคม 2548
เกียรตินาคินยื่นขอเทรดกลุ่มแบงก์ ตั้งเป้าสินทรัพย์-เงินฝากสิ้นปีโต10%             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเกียรตินาคิน

   
search resources

สุพล วัธนเวคิน
Banking
ธนาคารเกียรตินาคิน




ธนาคารเกียรตินาคิน ยื่นตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอย้ายเข้าเทรดกลุ่มธนาคาร หลังเปิดทำธุรกรรมวันแรกวานนี้ คาดสิ้นปีนี้สินทรัพย์มีไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท และเงินฝาก 5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวจากครึ่งแรก 10% ผู้บริหารประกาศขอเป็นธนาคารขนาดเล็กที่มีการเติบโตดีกว่าแบงก์ใหญ่ มุ่งทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ

นายสุพล วัธนเวคิน ประธานกรรมการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์อย่างเป็นทางการวันแรก ว่า วานนี้ (3 ต.ค.) ธนาคารได้ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอย้ายหลักทรัพย์จากการซื้อขายในหมวดบริษัทเงินทุน เป็นหมวดธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วันจะสามารถย้ายเข้าไปซื้อขายในหมวดธนาคารพาณิชย์ได้

"การปรับฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์ จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารได้มากขึ้น สังเกตจากสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้เต็มเพดานที่สัดส่วน 44% ตามที่ได้ยื่นไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)"

สำหรับประเด็นการเข้ามาครอบงำธุรกิจสถาบันการเงินของนักลงทุนต่างชาตินั้น นายสุพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเมื่อเทียบกับธุรกิจ อื่น เพราะมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขมาก รวมทั้งจะต้องขออนุญาตจากธปท. และธนาคารเกียรตินาคินเองไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยเงินลงทุนหรือพันธมิตรจากต่างประเทศ

ด้านแผนการดำเนินงานนั้น ธนาคารคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีสินทรัพย์รวมไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 64,000 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 10% ซึ่งขยายตัวเท่ากับเงินฝากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาท จากครึ่งแรกมีเงินฝากอยู่ที่ประมาณ 47,000 ล้านบาท

หลังการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ธนาคารจะเน้นความเป็นธนาคารขนาดเล็กแต่มีการเติบโตที่ดีกว่าธนาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อหรือสินเชื่ออุปโภคบริโภค คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของสินเชื่อรวม สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 25% และส่วนที่เหลือสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และสินเชื่ออื่นๆ

ธนาคารยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 5-7% ของตลาดรวม หรืออยู่อันดับ 6 โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อรถยนต์เก่าเป็นหลัก หรือ มีสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนรถใหม่มีสัดส่วนอยู่ 30%Ž

สำหรับแผนการขยายสาขาในปีนี้ ธนาคารจะมีสาขารวมสำนักงานใหญ่ ทั้งสิ้นรวม 17 แห่ง และในปีหน้าจะเพิ่มอีก 3-4 แห่ง และในปี 2550 จะเพิ่มเป็น 42 แห่ง โดยสาขาส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯ จะมี 7 แห่ง โดยจะขยายตัวหัวเมืองที่สำคัญ

ขณะที่การระดมเงินฝาก ธนาคาร จะเน้นเงินฝากที่มีอายุประมาณ 2 ปี วงเงินเฉลี่ยแต่ละบัญชี 1 ล้านบาท เพื่อรองรับสถาบันประกันเงินฝากจัดตั้งขึ้นในอนาคต รวมถึงเงินฝากลูกค้า ขนาดใหญ่ โดยธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 0.5% ทั้งนี้ใน 3 ปีข้างหน้าธนาคารจะมีสัดส่วนของบัญชีออมทรัพย์ 20% ส่วนอีก 80% เป็นบัญชีเงินฝากประจำ ซึ่งจะสอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us