"ชนัฏ เรืองกฤตยา" ส่งไม้ต่อธุรกิจอสังหาฯ หลังลูกชายคนโต "ชานนท์ เรืองกฤตยา" บุกเบิกอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ฯได้อย่างยิ่งใหญ่ ถึงคิวลูกชายคนเล็ก "ณัฐดนัย เรืองกฤตยา" สานต่อโครงการระดับบิ๊กภายใต้ชื่อ ทอสคานา วัลเลย์ บนเนื้อที่ถึง 2,500 ไร่ รูปแบบบ้านเดี่ยวพ่วงสนามกอล์ฟ อนาคตผุดคอนโดฯโลว์ไรท์ ชี้ใช้เวลาพัฒนาโครงการถึงลูกถึงหลานไม่ต่ำกว่า 12 ปี

การกลับมาของนายชนัฏ เรืองกฤตยา ผู้บุกเบิกและพัฒนาสนามกอล์ฟกรีน วัลเล่ย์ อันเลื่องลือซึ่งแน่นอนในช่วงกว่า 8 ปีที่ผ่านมา ตระกูลเรืองกฤตยา ได้ฝ่าฟันอุปสรรคและวิกฤตจากเศรษฐกิจ ทั้งการตัดขายสนามกอล์ฟกรีนวัลเล่ย์ให้แก่กลุ่มซัมมิทและการปรับโครงสร้างหนี้กับภาคสถาบันการเงินลุล่วง แต่สำหรับวันนี้ ถือเป็นจังหวะและโอกาสเหมาะที่ทายาทของตระกูลเรืองกฤตยา จะเดินรอยตามในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

"หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจมาได้ ตนได้มีการดำเนินโครงการกรีน วัลเล่ย์เชียงใหม่และที่ระยองอย่างต่อเนื่องเพราะยังมีแลนด์แบงก์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่การเข้าไปดำเนินธุรกิจเหมือนช่วงที่ผ่านมาคงไม่ใช่แล้ว โดยจะพยายามที่จะวางมือ และทำหน้าเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอยู่เบื้องหลังเท่านั้น ตอนนี้ก็พยายามให้นายณัฐดนัย เรืองกฤตยา ลูกชายคนเล็ก เป็นผู้เข้ามาเรียนรู้งานและดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ กรีนวัลเล่ย์ จากก่อนหน้านี้ พี่ชายคนโตนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประสบความสำเร็จในการแยกไปจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์" นายชนัฏ เรืองกฤตยา อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนวัลเล่ย์ จำกัด เจ้าของสนามกอล์ฟวินด์มิลล์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาบริษัท ทอสคานา วัลเล่ย์ (Toscana Valley) จำกัด กล่าว

ขณะเดียวกัน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการนำที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) บริเวณเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา จำนวน 2,500 ไร่ ซึ่งสะสมมากว่า 10 ปี โดยที่ดินดังกล่าวอยู่เลยจากโครงการคีรีมายาประมาณ 4 กิโลเมตร มาดำเนินการพัฒนาเป็นโครงการทอสคานา วัลเล่ย์ขึ้นมา และจะทุ่มเทให้แก่โครงการดังกล่าวก่อนจะวางมืออย่างจริงจัง

สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการ ทอสคานา วัลเล่ย์ จะแบ่งการลงทุนเป็นเฟสๆแรกพัฒนาบนเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ซึ่งอยู่ในบริเวณส่วนกลางของที่ดิน ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวจำนวน 50 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท ขณะนี้มีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาเจรจาประมาณ 8 ราย โดยระยะเวลาของการก่อสร้างประมาณ 2 ปี แต่หากรวมทั้งโครงการแล้วต้องใช้เวลาในการพัฒนายาวนานถึง 12 ปี คาดว่าเนื้อที่พัฒนาดังกล่าว สามารถสร้างบ้านเดี่ยวหรูได้จำนวน 500 แปลงๆละ 500 ตารางวาขึ้นไป ซึ่งมีแบบบ้านให้เลือกประมาณ 7 แบบ

"โครงการขนาดใหญ่อย่างนี้ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป คาดว่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการปลายปี 49 นอกจากจะเปิดโซนบ้านเดี่ยวหรูแล้ว ยังมีสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุมให้บริการแก่ลูกค้า เพียงแต่แนวคิดต้องสร้างชุมชนให้เกิดภายในโครงการก่อน"

นายณัฐดนัย เรืองกฤตยา ในฐานะรองประธานบริษัท ทอสคานา วัลเล่ย์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ได้เข้ามาดูแลกิจการของบริษัทในบางช่วง คาดว่าจะเข้ามาเต็มตัวภายในต้นปี 2549 โดยจะทุ่มเทให้แก่โครงการดังกล่าว เนื่องจากมีขนาดใหญ่และท้าทายความสามารถ ของตนเอง ซึ่งแนวทางของการพัฒนา ภายในโครงการจะมีบ้านเดี่ยว, สนามกอล์ฟจะเริ่มการก่อสร้าง 4 หลุมแรกก่อน,โรงแรมมีทั้งหมด 40 ห้อง และคอนโดมิเนียม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานไปยังแหล่งผลิตกระเบื้องหลังคาที่ด่านเกวียน เพื่อสนับสนุนกระเบื้องเพื่อติดตั้งส่วนบนของตัวบ้านเดี่ยว ซึ่งคาดว่าต้องใช้กระเบื้องจำนวนมหาศาล และยังเป็นการช่วยเหลือชุมชนให้มีรายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์โครงการ จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อโรดโชว์ข้อมูลให้แก่ลูกค้าชาว ต่างชาติให้รู้จักมากขึ้น อาทิ ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย และประเทศแถบยุโรป เป็นต้น

สำหรับมุมมองต่อตลาดอสังหาฯ นายชนัฏ ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงมายาวนาน ฝากเตือนนักพัฒนารุ่นใหม่ในวงการว่า ผู้ประกอบการทุกๆราย ต้องช่วยกันประคับประคองธุรกิจให้มากขึ้น อย่าไปบุกตลาดมากจนเกินไป เพราะช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา สอนทุกคนให้รับบทเรียนกันมาแล้ว ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเหมือนในอดีตคงไม่ซ้ำรอยเดิมอย่างแน่นอน