Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์30 กันยายน 2548
เซ็นชะ Repositioning แล้วจะอยู่จะอยู่ได้ไหม             
 


   
www resources

โฮมเพจ อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)

   
search resources

อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย), บจก.
Green Tea
Marketing




เซ็นชะกำลังปรับตัวเพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 3 ในตลาดชาเขียว หลังจากถูกเพียวริคุ ชาขาวจากค่ายกระทิงแดงเบียดขึ้นมาเป็นอันดับสามร่วมกันส่วน "แชมป์" และ "รองแชมป์" ไม่ต้องพูดถึงเป็นของโออิชิ และยูนิฟ เซนชะ ได้ออกสู่ตลาดในช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว (เมษายน 47) ชูจุดขายความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ (เขาให้ดูจากสัญชาติบริษัทแม่ อายิโนะโมโตะ ที่เป็นญี่ปุ่น) มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่นักศึกษามหาวิทยาลัยและคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเริ่มวางตลาดรสชาติดั้งเดิมก่อน เป็นชาเขียวแท้ๆ ตามแบบต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัท ตั้งเป้ายอดขายช่วงแนะนำตัวไว้ประมาณ 20% ของมูลค่าตลาดรวม

หลังสิ้นสุดการแข่งขันโอลิมปิคได้ไม่นาน เซนชะได้ดึงตัวนักเทควันโด้เหรียญทองแดงที่กำลังโด่งดังเป็นกระแสอยู่ในขณะนั้น อย่าง "น้องวิว - เยาวภา บุรพลชัย" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ชาเขียวพร้อมดื่ม เซนชะ ยูสุ ฮันนี่

ชาเขียวรสใหม่ รสชาติที่สองของเซนชะ

เนื่องจากน้องวิวมีบุคลิกหวานซ่อนเปรี้ยว การเซ็นสัญญากับชาเขียวเซนชะ ของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ เซลล์ ประเทศไทย จำกัด นั้นมีระยะ 1 ปี แต่ทว่าความนิยมที่มวลชนมีให้แก่น้องวิวนั้นสั้นกว่าอายุสัญญาเสียอีก

ประเด็นหลักของ เซนชะ คือ ต้องการให้แบรนด์เป็นที่รับรู้ (Awareness) ในวงกว้างและเร็ว รวมถึงสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับองค์กรและตัวผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ต้องการให้ตำแหน่งสินค้ามีความชัดเจนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ วัยรุ่นอายุ 13-19 ปี โดยโฆษณาชุด Fighting ... สื่อถึงการต่อสู้ให้ได้มาซึ่ง "สิ่งที่ต้องการ" และ "สิ่งที่ดีกว่า"

กล่าวโดยสรุป เซ็นชะนั้นสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงแรกที่วางตลาด (จนไปถึง 11%) หลังจากนั้นส่วนแบ่งตลาดก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 6 - 7%บางเดือนเหลือเพียง 5% ... เท่ากับเพียวริคุ

อายิโนะโมโตะ เจ้าของ "เซ็นชะ" เห็นว่าหากปล่อยไว้เฉย ๆ คงไม่ได้การณ์ จึงปรับปรุงผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ ทั้งปรับรสชาติเดิมให้กลมกล่อมถูกใจผู้บริโภคเป้าหมายมากขึ้น ปรับบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยวัยรุ่นขึ้น รวมทั้งออกรสชาติใหม่

ทั้งหมดอยู่ภายใต้แนวคิด "เซนชะ ปรับใหม่ อร่อยแค่ไหน ต้องลอง"

"ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมงบกว่า 100 ล้านบาท ปรับแนวทางการทำตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคชาเขียวให้หวานขึ้น เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สีสันสดใส ทันสมัย พร้อมออกรสแอปเปิลฟูจิ" พิเชียร คูสมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

งบ 100 ล้านบาทจะถูกใช้ทำการตลาดในช่วงไตรมาส 4 ผ่านสื่อ ต่าง ๆ ออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
งบดังกล่าวถือเป็นงบจำนวนที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ที่ใช้งบรวมไม่ถึง 100 ล้านบาท

กิจกรรมส่งเสริมการขายนั้นจะเป็นไปอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้ผู้บริโภคส่งชิ้นส่วนมาชิงโชคทองคำ พร้อมจี้รูปชาเขียว 50 สตางค์ 24 รางวัล ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ต.ค.-ธ.ค.2548 รวมทั้งกิจกรรม "เซนชะคาราโอเกะ โรดโชว์" สัญจรใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ

ผู้บริหารของอายิโนะโมโตะคาดการณ์ว่าการปรับแนวทางการทำตลาดครั้งนี้ จะทำให้ชาเขียวเซนชะ มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 10% ในสิ้นปีนี้ โดยยังรักษาตำแหน่งเบอร์ 3 รองจากยูนิฟ เบอร์สอง ที่มีส่วนแบ่งกว่า 20%และโออิชิ ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง 60% (จากมูลค่าตลาดรวม 6,800 ล้านบาท)

ขณะเดียวกันบริษัทได้เตรียมขยายฐานลูกค้าออกไป โดยจะส่งออกไปสู่ประเทศแถบอินโดจีน ในปลายปีนี้บริษัทเตรียมที่จะส่งออก"เซนชะ"ไปจำหน่ายยัง ประเทศในแถบอินโดจีน เพราะลำพังตลาดในประเทศ ไม่คุ้มค่าในการผลิต จึงต้องขยายฐานตลาด เพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อินโดจีนนั้นมีพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่ใกล้เคียงกับคนไทย แต่ อาจปรับรสชาติใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเทศ

เซนชะจะรักษาตำแหน่งที่ 3 ในตลาดได้หรือไม่?

บทวิเคราะห์

เซนชะ คือชาเขียวจากค่ายใหญ่ที่เข้าสู่ตลาดเป็นรายที่สาม เข้ามาในตลาดขณะที่การแข่งขันในตลาดชาเขียวยังไม่รุนแรงมากมายเท่าไหร่นัก เพราะชาเขียวพร้อมดื่มยังเป็นสินค้าที่ยังใหม่ในตลาดเมืองไทย คู่แข่งขันรายใหญ่ยังไม่ลงสู่ตลาด ยังรีรอยืนอยู่ด้านนอก คอยดูความแรงของตลาดชาเขียวพร้อมดื่มว่าจะเป็นเพียงแค่แฟชั่นหรือ Trend

หากเป็นแนวโน้มหรือตลาดเครื่องดื่มของตนเองทำท่าว่าจะหดตัวไปเรื่อยๆก็คงจะต้องกระโจนลงมาลุยเต็มๆเป็นแน่ ในช่วงเวลานั้นการแข่งขันของชาเขียวพร้อมดื่มจึงจำกัดอยู่แต่เฉพาะ 3 รายใหญ่เท่านั้น แม้จะมีชาเขียวพร้อมดื่มในตลาดอีกหลายยี่ห้อในตลาด ทว่าไม่มีน้ำหนักแต่อย่างใด

ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มคือการขับเคี่ยวอย่างเอาเป็นเอาตายระหว่างโออิชิและยูนีฟเป็นหลักเท่านั้น

โออิชิเนื่องจากกำลังการผลิตค่อนข้างต่ำกว่าในระยะแรก ประกอบกับความไม่พร้อม ทำให้ยูนีฟสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดได้ อย่างไรก็ตามตำแหน่งผู้นำตลาดนั้นค่อนข้างเปราะบาง เพราะตัน ภาสกรนที แห่งโออิชิ ไม่ได้คาดคิดว่าตนเองจะอยู่ในตำแหน่งที่สองได้นานนัก เป้าหมายของโออิชิก็คือการก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย

ตันเคยกล่าวไว้ว่า "เมื่อผมเห็นโฆษณายูนีฟชุดตัวหนอน ผมขนลุก เพราะโฆษณาดีจริงๆ ผมบอกกับตัวเองว่าต้องขึ้นเป็นที่หนึ่งให้ได้"

หลังจากนั้นเขาลงมาลุยตลาดเต็มตัว ขยายกำลังการผลิต ออกรสชาติใหม่ๆ สร้างช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ และเอาชนะขั้นเด็ดขาดได้ด้วยโปรโมชั่น รวยฟ้าผ่า 30 ฝา 30 ล้าน

น่าเสียดายที่ยูนีฟไม่สามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้ด้วยเหตุผลหลายประการ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือไม่ Sense & Response ทำให้ปรับตัว ปรับกลยุทธ์ไม่ทัน สูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างไม่คาดฝัน

เซ็นชะ อยู่ในอันดับ 3 ณ วันนี้ตำแหน่งก็ไม่แน่นอนแล้ว เพราะคู่แข่งใหญ่ๆที่เพรียบพร้อมเข้าสู่ตลาดแล้ว สิ่งที่เซ็นชะที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือทำในสิ่งที่ยูนีฟไม่ทำคือรีบปรับกลยุทธ์และปรับตำแหน่งทางการใหม่ ยูนีฟนั้นพลาด ก็ยังเหลือส่วนแบ่งตลาดอีกเยอะ แต่ถ้าเซ็นชะพลาดก็หมายความว่าไม่เหลืออะไรเลย

การ Repositioning ทั้งตัว Product ตลอดจนใช้แผน IMC ครั้งนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะสิ่งที่เซนชะคิด แบรนด์อื่นก็กำลังจะทำเหมือนกัน งานนี้อายิโนะโมะโต๊ะ เหงื่อหยด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us