Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์30 กันยายน 2548
บิ๊กค่ายรถรวมหัวตรึงสินเชื่อเช่าซื้อรถ ค่ายรถเล็กอ่วมแบกต้นทุนต่อถึงสิ้นปี             
 


   
www resources

โฮมเพจ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

   
search resources

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, บจก.
Automotive
Loan




-โตโยต้า-อีซูซุ-ฮอนด้า ยับไม่มีทีท่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่จนถึงสิ้นปี
-เหตุราคาน้ำมัน และค่าครองชีพสูงทำให้แนวโน้มยอดรถหดตัว ประกอบกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ยังสูงต่อเนื่อง
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดปีนี้ตลาดรวมของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท

ค่ายรถยนต์ใหญ่ตรึงราคาดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่จนถึงสิ้นปี ทำให้ค่ายรถยนต์ขนาดกลางและเล็ก รวมถึงรถมือ 2 ต้องคงดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารเริ่มทยอยปรับขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ป้ายแดงส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 2.5-2.65%

ก่อนหน้านี้มีบริษัทรถยนต์หวังจะปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตั้งแต่กลางปี 2548 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากบริษัทรถยนต์รายใหญ่ทั้งโตโยต้า อีซูซุ และฮอนด้า ซึ่งมีบริษัท ลิสซี่งของตัวเองยังมีการปรับขึ้น และบางช่วงมีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินผ่อนลงอีก ทำให้บริษัทรถยนต์อื่น ไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ ซึ่งทำให้บริษัทที่ไม่มีลิสซิ่งของตนเองต้องทนแบกภาระต่อไป โดยก่อนหน้านี้คาดการณ์กันว่าบริษัทรถยนต์หลายๆ แห่งจะตรึงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไว้ถึงแค่เดือนตุลาคมนี้

แต่จากตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่เริ่มชะลอตัว และผู้บริโภคเริ่มมีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมัน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้แหล่งข่าวในวงการรถยนต์รายหนึ่งมองว่า บริษัทรถยนต์ใหญ่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไปจนถึงสิ้นปี 2548 นี้

ขณะเดียวกันสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ เต้นรถยนต์มือ 2 ส่วนใหญ่ต้องดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อของรถมือ 2 ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4-5.5%

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า การเช่าซื้อรถยนต์ในอีกไม่กี่เดือนที่เหลือของปีนี้ ยังเป็นตลาดของผู้ซื้อหรือผู้กู้ยืมต่อไป แม้ว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระบบเศรษฐกิจการเงินจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน แต่การแข่งขันที่รุนแรงจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นได้ไม่มากนักและปรับขึ้นได้ช้า เมื่อเทียบกับต้นทุนการระดมเงินฝากใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังจากที่ทรงตัวในระดับต่ำตลอดปี 2547-ต้นปี 2548

ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สำหรับรถใหม่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2.9%ต่อปี สำหรับเงื่อนไขการผ่อนปกติ คือ วางเงินดาวน์ประมาณ 20% และผ่อนชำระไม่เกิน 48 เดือน ซึ่งคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยสุทธิ เพียงประมาณ 5.5% เท่านั้น นับเป็นอัตราที่ถูกมากเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ห รือMLR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่กำหนดไว้ 6.0% ในขณะที่มีแนวโน้มว่าต้นทุนการเงินเพิ่งอยู่ในช่วงแรกเริ่มของการปรับตัวสูงขึ้นเท่านั้น และยังห่างไกลจากอัตราเงินเฟ้ออีกหลายเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ ความต้องการซื้อรถยนต์จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ เป็นประมาณ 210,000 คัน ในจำนวนนี้คาดว่าเป็นการซื้อด้วยเงินสดประมาณ 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% ซื้อด้วยเงินผ่อน โดยปัจจัยน้ำมันราคาแพงมีผลให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนพฤติกรรมซื้อรถที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กลง และคาดว่าจะผลให้ความต้องการสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถโดยรวมปรับตัวลดลงตาม

มีการประเมินมูลค่าตลาดรวมของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท โดยจากข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 2548 แบ่งเป็นการให้สินเชื่อโดยบริษัทเงินทุนทั้งระบบ 205,920 ล้านบาท ในจำนวนนี้กว่า 80% เป็นของเจ้าตลาดรายใหญ่ 3 อันดับแรก ได้แก่ ธนชาต 102,911 ล้านบาท ทิสโก้ 42,433 ล้านบาท และเกียรตินาคิน 21,218 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจึงกระจายไปยังบริษัทเงินทุนอื่น

สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ปล่อยโดยบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ประเมินว่ามีมูลค่าตลาดรวมร่วม 300,000 ล้านบาท นำโดย จีอีแคปปิตอลออโตลีส 80,000 ล้านบาท สยามพาณิชย์ลีสซิ่ง สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดลิสซิ่ง และบริษัทลิสซิ่งของผู้ค้ารถยนต์รายใหญ่ ได้แก่ โตโยต้าลีสซิ่ง ไทยออโต้เซลล์ ซึ่งเป็นลีสซิ่งของค่ายอีซูซุ และฮอนด้าลีสซิ่ง บริษัทลิสซิ่งที่เป็นบริษัทลูกของผู้ค้ารถยนต์รายใหญ่เหล่านี้ มียอดจำหน่ายรถยนต์รวมกันกว่า 70% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในตลาด โดยบริษัทลีสซิ่งเหล่านี้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของตนเองประมาณ 1 ใน 4 ของยอดขาย ส่วนที่เหลือจึงกระจายไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรายอื่นที่มีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 20 ราย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us