|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในมาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพของรัฐบาล โดยให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่อยู่ในประเทศไทย ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่ได้รับเป็นจำนวน 190,000 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
และการได้รับยกเว้นดังกล่าว ผู้เสียภาษีสามารถเลือกใช้สิทธิหักจำนวนเงิน 190,000 บาทออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ได้รับ และนำเงินได้หลังใช้สิทธิมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามปกติ โดยผลจากมาตรการนี้จะทำให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่มีเงินได้เฉลี่ย 31,600 บาทต่อเดือนได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผลกระทบต่อรายได้รัฐบาลนั้น มาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี แต่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในสังคมไทยดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล
FTAภาคการเงินสรุปไม่ลงตัว
นริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยถึงการเจรจาความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินภายใต้เขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐอเมริกา ว่า การเจรจากันในครั้งนี้ยังมีประเด็นหลัก ๆ ที่ยังไม่อาจหาข้อยุติได้ อย่าง มาตรการระงับการโอนเงินกรณีประเทศประสบปัญหาดุลการชำระเงิน มาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจมหภาคที่คณะเจรจาฝ่ายไทยเน้นย้ำให้ต้องมีการระบุในข้อบทหลัก เนื่องจากมีความจำเป็นต่อประเทศขนาดเล็กที่ต้องดำเนินมาตรการเหล่านี้เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
ฝ่ายไทยได้ยื่นร่างความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยฝ่ายสหรัฐ ได้รับร่างความตกลงดังกล่าวไว้พิจารณา ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ของร่างความตกลงดังกล่าว และเปรียบเทียบกับร่างฯ ที่ฝ่ายสหรัฐ ได้เคยนำเสนอต่อฝ่ายไทยในการเจรจาครั้งแรกที่มลรัฐฮาวาย และในขั้นต้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะยังไม่มีการพิจารณาประเด็นเรื่อง Positive List หรือ Negative List ที่ยังมีความต่างกันระหว่างสองฝ่ายในการใช้เป็นแนวทางยกร่างข้อตกลงฯ และฝ่ายไทยได้เน้นให้ฝ่ายสหรัฐ ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้แนวทางในการเจรจาฯ ในทุกกรอบการเจรจาว่าจะต้องเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย จึงจะสามารถยอมรับข้อตกลงดังกล่าวได้
|
|
|
|
|