Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์29 กันยายน 2548
ตรวจแถวคลัง : ครม.อนุมัติมาตรการภาษีผู้สูงอายุ             
 


   
www resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

   
search resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
Auditor and Taxation




คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในมาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพของรัฐบาล โดยให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่อยู่ในประเทศไทย ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่ได้รับเป็นจำนวน 190,000 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป

และการได้รับยกเว้นดังกล่าว ผู้เสียภาษีสามารถเลือกใช้สิทธิหักจำนวนเงิน 190,000 บาทออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ได้รับ และนำเงินได้หลังใช้สิทธิมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามปกติ โดยผลจากมาตรการนี้จะทำให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่มีเงินได้เฉลี่ย 31,600 บาทต่อเดือนได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผลกระทบต่อรายได้รัฐบาลนั้น มาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี แต่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในสังคมไทยดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล

FTAภาคการเงินสรุปไม่ลงตัว

นริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยถึงการเจรจาความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินภายใต้เขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐอเมริกา ว่า การเจรจากันในครั้งนี้ยังมีประเด็นหลัก ๆ ที่ยังไม่อาจหาข้อยุติได้ อย่าง มาตรการระงับการโอนเงินกรณีประเทศประสบปัญหาดุลการชำระเงิน มาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจมหภาคที่คณะเจรจาฝ่ายไทยเน้นย้ำให้ต้องมีการระบุในข้อบทหลัก เนื่องจากมีความจำเป็นต่อประเทศขนาดเล็กที่ต้องดำเนินมาตรการเหล่านี้เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ฝ่ายไทยได้ยื่นร่างความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยฝ่ายสหรัฐ ได้รับร่างความตกลงดังกล่าวไว้พิจารณา ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ของร่างความตกลงดังกล่าว และเปรียบเทียบกับร่างฯ ที่ฝ่ายสหรัฐ ได้เคยนำเสนอต่อฝ่ายไทยในการเจรจาครั้งแรกที่มลรัฐฮาวาย และในขั้นต้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะยังไม่มีการพิจารณาประเด็นเรื่อง Positive List หรือ Negative List ที่ยังมีความต่างกันระหว่างสองฝ่ายในการใช้เป็นแนวทางยกร่างข้อตกลงฯ และฝ่ายไทยได้เน้นให้ฝ่ายสหรัฐ ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้แนวทางในการเจรจาฯ ในทุกกรอบการเจรจาว่าจะต้องเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย จึงจะสามารถยอมรับข้อตกลงดังกล่าวได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us