"Behind the great woman at work, there is often a great man at home. He is the new trophy husband" -Fortune

ขณะที่ Carly Fiorina ประธาน และ CEO ของ Hewlett-Packard วัย 48 ได้รับเลือกจาก Fortune ให้เป็น "สุดยอดผู้หญิงเก่งที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกธุรกิจ" (The Most Powerful Woman 2002) เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเธอก็คือ Frank สามีวัย 52 ซึ่ง early retire ลาออกจากบริษัท ที่ AT&T's corporate unit เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่ Carly มาอยู่ HP โดย Frank ทำหน้าที่เป็น Big Daddy ที่คอยเป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้แก่ลูกสาวทั้งสอง และเมียของเขา

"ฉันเป็นคนโชคดีมหาศาล ที่ได้แต่งงานกับเขา แต่การที่สื่อบรรยายว่า เขาเป็นพ่อบ้านอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน มันไม่ยุติธรรมสำหรับเขาเลย" Carly กล่าวปกป้องสามีที่มักถูกนำมาเปรียบเทียบกับเธอเสมอ

แนวโน้มพ่อบ้านยุคใหม่มีมากขึ้น ที่ได้รับผลกระทบจากการ early retire เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและการหย่าร้างมีมากขึ้น รวมถึงพ่อบ้านที่ต้องการหาความหมายใหม่ในวิถีชีวิตและงานที่ไม่สังกัด Time & Space แบบเดิม แต่สามารถ สร้างเนื้องานได้ดีกว่าเดิม ด้วยอำนาจธุรกิจใหม่ที่จับต้องได้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ฤาว่านี่คือแรงกดดันให้เกิด Strategic thinking ใหม่ของ พ่อบ้านยุคนี้

ปรากฏว่าจำนวนพ่อบ้านแบบ full time นี้มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาถึง 2 ล้านคน โดยเห็นจากปรากฏการณ์ At-home Dad Network ที่เริ่มก่อตั้งในปี 1994

"Men Who Change Diapers, Change The World" นี่คือคติพจน์ของพ่อบ้านที่เชื่อว่ามือที่เปลี่ยนผ้าอ้อมสามารถสร้างโลกได้ คติพจน์นี้ปรากฎใน ATHOMEDAD.COM ทุกครั้งที่เปิด

กิจกรรมของกลุ่มพ่อบ้านเหล่านี้ จะแบ่งเป็น Playgroups ที่จะสร้างสรรค์รายการตั้งแต่เรื่องความรู้ เบื้องต้นในการดูแลใส่ใจกับเด็กเล็กเด็กโต การจัดกิจกรรมทัศนศึกษาแก่เด็กๆ เช่น ชมพิพิธภัณฑ์ เที่ยวสวนสัตว์ ฯลฯ ตลอดจนการละเล่นกีฬา เช่น เบสบอล ฟุตบอล และรายการ "Dad's Night Out" สำหรับยามว่างของคุณพ่อ

แต่สำหรับ Frank ชื่อของเขาถูกอ้างอยู่ในเว็บไซต์นี้ในฐานะพ่อบ้านที่เป็นสามีของผู้หญิงเก่งและรวย เขาเก็บตัวเงียบๆ โดยไม่เคยแสดงตนในสื่อ เพียงเพื่ออวดความมีส่วนร่วมในชื่อเสียงและความสำเร็จของเมียอย่าง Carly แต่อย่างใด

Carly แต่งงานกับ Frank เมื่อ 18 ปีที่แล้ว โดยทั้งคู่เคยผ่านชีวิตสมรสมาแล้ว สามีคนแรกของเธอคือ Todd Bartlem พบรักกันขณะเรียนปริญญาตรี สาขาประวัติศาสตร์และปรัชญา ที่มหาวิทยาลัย Stanford หลังจากแต่งงาน Carly ลาออกจากงานบริษัทบ้านจัดสรร เพื่อเดินทางติดตามสามีไปทำงาน ที่อิตาลี ระหว่างนั้นเธอสอนภาษาอังกฤษแก่นักธุรกิจ อิตาเลียน

หลังจากกลับมา ที่อเมริกา ชีวิตสมรสครั้ง แรกจบลงภายใน 2-3 ปีแรก เธอตัดสินใจเรียนต่อ MBA จนได้เกียรตินิยม ที่ University of Maryland และเริ่มทำงานฝ่ายขายที่บริษัท AT&T สาขา North Virginia ก่อนจะย้ายไป Washington D.C. ที่ซึ่งเธอพบกับ Frank นักขายดาวรุ่งขณะนั้น ซึ่งเชื่อมั่นในตัวเธอและขอแต่งงาน โดย Frank มีลูกสาวติดมาด้วยสองคน และเธอเองก็เอาหลานสาวมาเลี้ยง หนึ่งคน ซึ่งชอบเรียกเธอว่า C.C.

ภายใต้เงื่อนไขอันเหมาะสมระหว่างสามีภรรยา Carly สามารถทุ่มเทเวลากับการศึกษาและงานได้มากขึ้น โดยเธอได้ปริญญาโท MBA อีกใบ จาก MIT's Sloan School และมีอิสระในการทำงาน โดยไม่ห่วงหน้าพะวงหลังกับชีวิตครอบครัวในบ้านที่ Frank ช่วยจัดการเป็นธุระให้เรียบร้อย

ตลอดเวลา 23 ปีแห่งการทำงานหนักที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ AT&T, บริษัท Lucent Technologies และบริษัท Hewlett-Packard เส้นทางชีวิตอันมุ่งมั่นของ Carly รุ่งโรจน์จนเป็นที่ยอมรับว่า เธอเป็นผู้หญิง เก่ง โดยเฉพาะบทบาทอันโดดเด่นในฐานะ CEO ของ Hewlett-Packard เพียง 3 ปีที่เข้ามา Carly ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่และรายได้ใหม่ให้กับ Hewlett-Packard องค์กรเก่าแก่ที่สุดถึง 63 ปี ใน Silicon Valley นี้ได้อย่างเร้าใจ แม้จะต้องต่อสู้ปะทะกันกับกลุ่มอำนาจเก่าของ Walter Hewlett ซึ่งเป็นทายาท ผู้ก่อตั้งที่คัดค้านการควบรวมกิจการระหว่าง HP กับ Com paq มูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตาม

สงคราม Proxy Battle นี้ ยืดเยื้อนานกว่า 9 เดือนและจบลงด้วยชัยชนะของ Carly ท่ามกลางแรงกดดันอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับเธอ ซึ่งบางครั้งในอินเทอร์เน็ต ก็มีข้อความที่เขียนเสียดสี ผู้หญิงอย่างเธอว่า "Back to kitchen, Carly" ยิ่งกว่านั้นยังปรากฎข้อความว่า "Pack it in, babe. You stink" ในคอลัมน์ น.ส.พ. New York Observer อีกด้วย

ความเป็นสตรีเหล็กของเธอนั้น ได้รับมรดกนักสู้มาจากแม่ของเธอ Madelon ที่เสียชีวิต 8 เดือน ก่อนทันเห็นลูกสาวเป็น CEO ของ HP ขณะที่พ่อของเธอ Joseph Sneed เป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ในซานฟรานซิสโก

ชื่อเป็นทางการของ Carly คือ Cara Carleton ที่ตั้งชื่อเป็นที่ระลึกถึงลูกชายลูกสาวของตระกูลนี้ที่ตายไปในสงครามกลางเมือง สำหรับ Carly ถือว่าเป็นคนที่ 9 ที่ใช้ชื่อนี้และนำเกียรติภูมิมาสู่ตระกูล

Carly สามารถเป็นผู้นำองค์กรเก่าแก่อย่าง Hewlett-Packard ที่มีมูลค่ายอดขายไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเครือข่ายถึง 160 ประเทศ ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ากว่า 1,000 ล้านราย ภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ตอบแทนเธอด้วยอัตรารายได้เงินเดือนปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่โบนัสที่เธอรับปีละ 3 ล้านดอลลาร์และมูลค่าหุ้นที่ถืออีกราว 90 ล้านดอลลาร์

รายได้มหาศาลขนาดนี้ เธอและสามีได้ซื้อบ้านใหม่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ Los Altos Hills ซึ่งอยู่ตอนเหนือของ Silicon Valley โดยกิจวัตรประจำวันที่เธอชอบทำทุกเช้าคือ ตื่นนอน ตอนตีสี่ ที่อากาศปลอดโปร่ง และเงียบสงัดต่อการใช้ความคิด ให้อาหารนกป่าในละแวกบ้านเธอ ขณะที่ Frank ทำหน้าที่สามีที่เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน

ทั้งคู่โปรดปรานกีฬาเล่นเรือ และมีเรือยอชต์ ลำใหญ่ยาว 52 ฟุตที่ชื่อ "Alchemy" ด้วย

ขณะที่ Carly เป็นที่รู้จักทั่วโลก ในฐานะสตรีผู้ทรงอำนาจบริหารใน "HP World" Frank กลับสลับบทบาทเป็นเพียงพ่อบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ และอยู่เคียงข้างลูกเมียเสมอ ไม่ว่าทุกข์หรือสุข แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับผู้หญิงเก่งที่โชคดีอย่าง Carly Fiorina