เทสโก้โลตัส ยันไทยยังเป็นตลาดหลัก พร้อมทุ่มงบลุยขยายเครือข่ายไม่หยุด วางแผนปีนี้และปีหน้าผุดสาขาใกล้เคียงกัน โค้งท้าย ปีนี้ลุยปูพรมเพียบทุกรูปแบบไม่ต่ำกว่า 20 สาขา พร้อมทั้งเร่งเครื่องเพิ่ม ปริมาณสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่โตพรวด 60% รับยุคเศรษฐกิจชะลอตัว ตั้งเป้า เพิ่มอีก 1,000 เอสเคยูในปีหน้า
นายเจฟฟ์ อดัมส์ ประธานกรรมการบริหารเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มเทสโก้ โลตัสยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านค้าปลีกในประเทศไทย เนื่องจากมีเงิน ทุนพร้อม แต่จะเปิดสาขามากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับใบอนุญาตที่ จะได้มาจากทางภาครัฐด้วย ซึ่งที่ผ่านมา 11 ปีที่ดำเนินกิจการในไทยได้ลงทุนไปแล้วหลายหมื่นล้านบาท และในปีนี้ยังใช้เงินลงทุนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท และคาดว่าปีหน้าก็จะลงทุนในงบประมาณใกล้เคียงกันนี้
โดยในปี 2547 เทสโก้โลตัสได้ซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทคู่ค้าหรือซัปพลายเออร์ คิดเป็นเงิน รวมประมาณ 60,000 ล้านบาท จากคู่ค้ากว่า 2,200 ราย ซึ่งเป็นบริษัทคนไทยกว่า 96% รวมทั้งมีการจ้าง พนักงานทั่วประเทศกว่า 23,300 คน ได้จ่ายค่าจ้างพนักงานกว่า 13,000 ล้านบาท และมีปริมาณลูกค้าเดินเข้าสโตร์รวมไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคนต่อเดือน
สำหรับกรณีกรมโยธาธิการที่อยู่ระหว่างการแก้ไขผังเมืองนั้นซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่นั้นโดยเฉพาะกรณีการลดระยะห่างที่ให้ค้าปลีก รายใหญ่เปิดสโตร์ได้จากตัวเมืองเหลือเพียง 2 กิโลเมตร จากเดิม 15 กิโลเมตร นายเจฟฟ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด รู้จากข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะตัดสินใจอย่างไร นักลงทุนต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ปัญหาทุกวันนี้คือเรื่องพลังงานน้ำมันค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะราคาสูงขึ้น ทำให้คน ต้องประหยัด ไม่ต้องการขับรถไปไกลจากเมืองมากเพื่อซื้อของจะเสียค่าใช้จ่ายมาก เพราะฉะนั้นหากสามารถตั้งค้าปลีกในเขตใกล้ชุมชนได้ก็เป็นการดี
ทั้งนี้แผนการเปิดสาขาใหม่ๆ ของเทสโก้โลตัสจากนี้ถึงสิ้นปีนี้ประกอบด้วย รูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ขนาดใหญ่ 3 แห่งคือ ชัยภูมิ (เปิดบริการวันนี้), บางพลี อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะเปิดเดือนพฤศจิกายน และสาขาหัวหิน อยู่ระหว่างก่อสร้างคาดเปิดสิ้นปีนี้ ส่วนรูปแบบร้านคุ้มค่าจะเปิดสาขาที่อำเภอแม่สายอยู่ ระหว่างการก่อสร้างคาดเปิดเดือนพฤศจิกายนนี้ รูปแบบ ตลาดสดโลตัสจะเปิดอีกประมาณ 3-4 สาขา และรูปแบบเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสจะเปิดอีกประมาณ10-15 สาขา
ปัจจุบันเทสโก้โลตัสมีสาขาที่เปิดบริการแล้วแบ่งเป็นซูเปอร์เซ็นเตอร์ 53 สาขา (นับสาขาชัยภูมิ ด้วย), รูปแบบร้านคุ้มค่า 12 สาขา, รูปแบบตลาดสด โลตัส 5 สาขาคือ พงษ์เพชร นครสวรรค์ มหาสารคาม คาเธ่ย์ และพาต้าปิ่นเกล้า รูปแบบเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส 96 สาขา โดยแบ่งเป็นที่อยู่ในปั๊มเอสโซ่ 56 สาขา และนอกปั๊มเอสโซ่ 40 สาขา (ทั้งหมดนี้อยู่ในกรุงเทพฯ 90 สาขา, เชียงใหม่ 5 สาขาและหัวหิน 1 สาขา)
อย่างไรก็ตาม นายเจฟฟ์กล่าวย้ำด้วยว่า แม้ว่าเทสโก้โลตัสจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในไทย แต่ก็ยังคงไม่มีการนำรูปแบบค้าปลีกใหม่ๆเข้ามาเปิดตลาดในไทยอีกในระยะอันใกล้นี้ เนื่องจากเท่าที่มีอยู่ทั้ง 4 รูปแบบนี้ก็เหมาะสมและเพียงพอกับความต้องการและพฤติกรรมของตลาดแล้ว อีกทั้งสาขาเก่าที่เปิดมานานแล้วก็มีการรีโนเวตตลอดเวลา โดยเฉพาะในปีนี้และปีหน้า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในสโตร์ให้กับผู้บริโภคก็มีความเหมาะสมทั้งสินค้าแบรนด์เนมและเฮาส์แบรนด์ของเทสโก้โลตัสเอง
สำหรับผลิตภัณฑ์เฮาส์แบรนด์ของเทสโก้โลตัสนั้น ในปีหน้ามีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าอีก โดยจะ ขยายเข้าสู่สินค้าประเภทฮาร์ดไลน์ เช่น กีฬา ของเล่น ที่นอน ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ เป็นต้น และจะขยายในส่วนที่มีอยู่แล้วอีกเช่น เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ความงาม โดยเฉพาะสกินแคร์ที่เทสโก้โลตัสเพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ได้รับการตอบรับพอสมควร โดยมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณสินค้าอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 เอสเคยูในปีหน้า จากเดิมที่ในปีนี้เพิ่มมาประมาณ 1,100 เอสเคยู รวมขณะนี้มีสินค้าเฮาส์แบรนด์แล้ว 1,400 เอสเคยู
กลุ่มเฮาส์แบรนด์ที่ทำรายได้ดีส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม น้ำปลา ข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารสัตว์ น้ำมันปรุงอาหาร เป็นต้น โดยยอดขายเฮาส์แบรนด์ในช่วงต้นปีนี้ถึงขณะนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 60%
ล่าสุดเทสโก้โลตัสฉลองครบรอบ 11 ปีในไทยด้วยการใช้งบประมาณมากกว่า 37 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ เพื่อเฉลิมฉลองวาระดังกล่าว รวมทั้งจัดรายการโปรโมชัน สินค้าเดี่ยวๆ ราคาลดพิเศษและสินค้าแพกพิเศษในราคาคุ้มค่า รวมมูลค่ารางวัลกว่า 8.6 ล้านบาท
|