|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังเบนคิวซื้อกิจการมือถือซีเมนส์ยันลูกค้ายังได้รับการบริการอย่างดี พร้อมเตรียม เปิดตัวโปรดักต์ใหม่ 4 รุ่นไตรมาสหน้า "สุวรรณี สิงห์ฤาเดช" ย้ายไปดูแลเอนเตอร์ไพรส์ เน็ตเวิร์กโดยมีภารกิจแรกที่ต้องทำคือ เพิ่มรายได้ เพิ่มยอดขาย ขยายชั่นแนล
สุวรรณี สิงห์ฤาเดช Vice President Enterprise Networks บริษัท ซีเมนส์ จำกัด กล่าวว่า ได้เข้ามานั่งในตำแหน่งผู้บริหารซีเมนส์ ดูแล เอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์กควบกับตำแหน่งเดิมที่ดูด้านโมบายแล้วตั้งแต่ 3 เดือนที่ผ่าน โดย ส่วนหนึ่งเป็นการปรับทีมงานหลังซีเมนส์ตกลงขายกิจการโทรศัพท์มือถือให้กับเบนคิว โดยหลังจากวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไปคนของเบนคิวก็จะเป็นผู้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือของซีเมนส์อย่างเต็มตัว
เบนคิวเข้าซื้อกิจการโทรศัพท์มือถือของ ซีเมนส์เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2005 ที่ผ่านมา ส่วน หนึ่งของสัญญาระบุว่าเบนคิวจะใช้โลโก้ซีเมนส์ในการทำตลาดได้ 5 ปี ขณะที่ เจอรี่ หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เบนคิว คาดว่าในประเทศที่แบรนด์เบนคิวยังไม่ติดตลาดหรือไม่เป็นที่รู้จักก็ยังจะใช้แบรนด์ซีเมนส์ไปก่อนแต่ไม่เกิน 18 เดือน
แม้จะอยู่ในระหว่างการโอนงานด้านการขายแต่ซีเมนส์ก็ยังเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ออกมาคือ CX75 และ A 70 พร้อมมีแผนเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ประมาณไตรมาสหน้าอีก 4 รุ่นคือ C75, SL75, S75 และ M75 พร้อมให้ความมั่นใจกับลูกค้าเรื่องการบริการหลังการขายโดยจะมีบริษัทที่เข้ามาดูแลลูกค้าต่อคือ SEMICTEX
ปัจจุบันซีเมนส์มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 16% หรือประมาณอันดับ 5 ในตลาด ด้วยจำนวน เครื่องในตลาดโลกประมาณ 8 ล้านเครื่อง
สุวรรณี กล่าวว่า หลังเบนคิวเข้ามาดูแลมือถือซีเมนส์เต็มตัว ตนก็จะย้ายมาเป็นผู้บริหารในส่วนเอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์ก โดยในส่วนของเอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์กของซีเมนส์จะเน้นหนักในธุรกิจที่เกี่ยวกับคอมมูนิเคชัน อย่างระบบโทรศัพท์ PABX, ดาต้าเน็ตเวิร์ก, VOIP, คอลเซ็นเตอร์, โฮเทล โซลูชัน
ภารกิจแรกที่สุวรรณีต้องทำทันทีที่เข้านั่งในตำแหน่งผู้บริหารใหม่เอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์ก คือ การเพิ่มยอดขาย เพิ่มรายได้ รวมถึงการเพิ่ม ช่องทางการขายของส่วนนี้ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จากปี 2547 ที่ผ่านมา ส่วนเอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์กมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท
ผู้บริหารซีเมนส์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนใช้เวลา กับการทำงานในซีเมนส์มาประมาณ 10 ปี เริ่มจากจุดยากสุดคือการสร้างแบรนด์ เพราะที่ผ่านมาคนจะรู้จักชื่อซีเมนส์ แต่คนไม่รู้ว่า เรามีแบรนด์ มือถือทำตลาดด้วย มาถึงปี 2001 ซึ่งเป็นปีที่ซีเมนส์บูมอย่างมาก เป็นผลต่อเนื่องมาจากการทำตลาดและการออกตัวของโปรดักต์ในช่วงเวลา ที่เหมาะสม โดยในช่วงนั้นซีเมนส์เป็นรายแรกที่เปิดตัวในตลาดโลวเอนดเป็นรายแรก ด้วยแนวคิดที่ว่า ให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการเท่านั้น ฟังก์ชันที่ไม่ต้องการใช้ก็ไม่ควรมี ทำให้สามารถทำตลาดนี้ได้อย่างดี
กับความแตกต่างของการทำงานด้านเครื่อง ลูกข่ายกับงานด้านเน็ตเวิร์ก สุวรรณี กล่าวว่า แตกต่างกันอย่างมาก เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์มือถือเป็นตลาดแมส มองไปทางไหน ทุกคนก็เป็นลูกค้าของเราได้ อาจจะมีการแยกเซกเมนต์การทำตลาดลูกค้าไปตามกลุ่มบ้างตามความเหมาะสม แต่เน็ตเวิร์ก เป็นการทำตลาดตามแอ็กเคานต์ไม่ได้ทำตลาดถึงตัวคน มุ่งไปที่องค์กร หรือการใช้ตามบ้าน การทำตลาดลูกค้าประเภทนี้ต้องสร้างความเข้าใจในแบรนด์ ตัวสินค้า เพราะลูกค้าพวกนี้จะไม่ได้ซื้อสินค้าบ่อย ซื้อระบบ PABX ไปแล้วหนเดียว อีก 5-10 ปีถึงคิดซื้อใหม่ และจะออกมาหาข้อมูลเมื่อต้อง การซื้อเท่านั้น ไม่เหมือนโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนกันทุกไตรมาส
"ความยากในการทำงานจะเป็นคนละแบบ ซึ่งที่ผ่านมาตนมีประสบการณ์ในวงการไอทีมาก่อนก็สามารถเอามาปรับใช้ได้"
กับบทบาทใหม่ในเอนเตอร์ไพรส์เน็ตเวิร์ก สุวรรณี คือ เพิ่มยอดขาย เพิ่มรายได้ และขยายช่องทางการตลาดใหม่มากยิ่งขึ้น โดยอาศัยชื่อเสียงของซีเมนส์ซึ่งมีชื่อเสียง ในตลาดโลกในธุรกิจนี้ไม่แพ้การทำตลาดโทรศัพท์มือถือ ว่าจะสามารถขยายตลาดได้มากขึ้นเช่นกัน โดยจะชูจุดขายของโปรดักต์ซีเมนส์ที่จับตลาดกลุ่มคนที่ต้องการสินค้าไฮเทคโนโลยีที่มีความไว้วางใจได้เป็นหลัก
|
|
|
|
|