"โตเซน" ได้ทีขย่ม ตลาดชาเขียว ปรับลดราคาเหลือ 15 บาทตอบรับนโยบายรัฐบาลช่วยประชาชนบริโภคสินค้าในราคาที่เป็นธรรม "ปรีชา" เผยหากสินค้ารายการใดต้องการลดราคาขอให้บอกมา จะช่วยโปรโมตให้

นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังผู้บริหารบริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่าย ชาเขียวยี่ห้อ "โตเซน" เข้าหารือวานนี้ (29 ก.ย.) ว่า ทางผู้บริหารยูโรเปี้ยน ฟู้ด ได้แจ้งความประสงค์ที่จะปรับลดราคาชาเขียวลงจากขวดละ 20 บาทเหลือ 15 บาท ทั้งชาเขียวรสดั้งเดิม ขนาด 600 ซีซี และชาเขียว สูตรคอลลาเจน ขนาด 500 ซีซี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป เนื่องจาก สนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนบริโภคสินค้าราคายุติธรรมในภาวะค่าครองชีพแพงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

"เขาบอกว่าบริษัทมีจิตสำนึกต่อสังคม โดยยอมลดกำไรลงมา เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน หรือเป็นการลดกำไรระยะสั้นเพื่อให้เป็นกำไรระยะยาว ซึ่งหากผู้ผลิตรายใดมีความประสงค์ ที่จะปรับลดราคาสินค้าก็ให้ แจ้งหรือมาหาผมได้ผมจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย เพราะเวลานี้ต้องช่วยกันลดค่าครองชีพให้ประชาชนให้ได้บริโภคสินค้าในราคาไม่แพง" นายปรีชากล่าว

พลเรือตรีพิศิษฐ์ กลั่นเฟื่อง ประธานที่ปรึกษา บริษัท ยูโรเปี้ยน ฟู้ด จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อยืนยันที่จะปรับลดราคาจำหน่ายลงจากขวดละ 20 บาทเหลือ 15 บาท หลังจากได้ประชุมพนักงานแต่ละฝ่าย ต่างก็ยืนยันว่าสามารถที่จะปรับลดต้นทุนในกระบวนการผลิตลงได้ บริษัทจึงเห็นว่าน่าจะปรับลดราคาจำหน่ายลงได้อีกเพื่อเป็นการสนองนโยบาย รัฐบาล

นายสมชาย เวชากร กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ยูโรเปี้ยนฟู้ด กล่าวว่า ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ บริษัทจะเปิดตัวชาเชียวสูตรผสมคอลลา-เจนอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% เป็นอันดับ 3 รองจากโออิชิที่มี 60% และยูนิฟที่มีประมาณ 20% จากมูลค่าการตลาดรวมที่มีประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี

"ตัน" ชี้ราคา 15 บาทขายยาก

นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับผู้ประกอบการจำหน่ายชาเขียวรายอื่นๆ เช่น ยูนิฟ ก็พร้อม ที่จะเข้าชี้แจงต้นทุนต่อกรมการค้าภายใน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากกรมการค้าภายในจึงยังไม่ได้ชี้แจงต้นทุนไปให้ แต่ถ้าหากว่าปรับลดราคาลงเหลือขวดละ 15 บาททั่วประเทศคงจะขายลำบาก เพราะมีต้นทุนค่าขนส่งเป็นภาระค่อนข้างมาก

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้แจ้งไปยังผู้ผลิตชาเขียวให้ส่งต้นทุนการผลิตย้อนหลัง 2 ปีเพื่อมาคำนวณต้นทุนสินค้า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าราคาจำหน่ายไม่เป็นธรรม เพราะเบื้องต้น กรมการค้าภายในมีข้อมูลว่า ต้นทุน ในการผลิตขวดเพียง 4-5 บาท ต้นทุนในการผลิตน้ำชาอีกเล็กน้อย แต่ที่ผู้ผลิตจำหน่ายในราคาสูงถึง 20 บาทต่อขวดเพราะบวกค่าการตลาดลงไปด้วย