รักษาตัวรอดจากอันตรายของการเป็นผู้นำ
Ronald Heifetz และ Marty Linsky 2 อาจารย์จาก Harvard ผู้เป็นที่ปรึกษาระดับสูง
เข้าใจความเสี่ยงที่พ่วงติดมากับความเป็นผู้นำดี แต่พวกเขาเห็นว่า การเป็นผู้นำมีคุณค่าคุ้มกับ
ความเสี่ยงนั้น เพราะเป้าหมายของการเป็นผู้นำมีความหมายมาก กว่าแค่เพียงการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
หรือการได้รับรางวัลทางวัตถุ ผู้นำที่แท้จริงต้องการคุณค่าที่สูงกว่านั้น
ต้องการ แก้ไขความขัดแย้งที่ยังไม่มีใครแก้ได้ และการสามารถเปลี่ยน แปลงชีวิตของคนจำนวนมาก
แต่การเป็นผู้นำอาจนำอันตรายมาสู่คนที่เป็นผู้นำได้ หากเขาเสนอความคิดริเริ่มที่ไม่มีใครชอบ
เสนอทางแก้ปัญหาที่เป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้ง ตั้งคำถามเชิงตำหนิ ติเตียนต่อพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับค่านิยม
หรือขอให้คนอื่นๆ ยอม ทนกับความจริงอันโหดร้าย
เพื่อช่วยให้คนที่เป็นผู้นำสามารถเอาตัวรอดได้ตลอดรอดฝั่ง Heifetz และ
Linsky ได้มอบกำลังใจ แก่ผู้ที่กำลังเสี่ยงที่จะเสนอ ความคิดใหม่ๆ ที่ท้าทายผู้คนให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ด้วยบทเรียน ที่ทั้งสองรวบรวมมาจากลูกศิษย์ที่ Harvard และลูกค้าที่มาขอคำปรึกษาจากทั่วโลก
ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ผู้นำสามารถ เข้าใจและใช้ประโยชน์จากประสบการณ์จริงเหล่านั้นได้ความท้าทายอันตราย
ตอนแรกของ Leadership on the Line กล่าวถึงความท้าทายและหลุมพรางของการเป็นผู้นำ
และเล่าเรื่องราวหลายเรื่อง ที่แสดงให้เห็นว่า หลายครั้งผู้นำจะถูก "กำจัดออกไปจากเกม"
และนี่ก็คืออันตรายที่คนเป็นผู้นำต้องเสี่ยง เรื่องราวของผู้นำหลาย คนที่ถูกลอบสังหารคืออุทาหรณ์อย่างดี
ปัญหาบางอย่างเป็นเพียงปัญหาทางเทคนิค ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยความรู้และกระบวนการแก้ปัญหาที่มีอยู่
แต่ยังมีอีกหลายปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหาแบบมาตรฐาน เพราะเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ
(Adaptive Challenge) ปัญหาประเภทนี้จำเป็นต้องมีการทดลองวิธีการแก้ปัญหาใหม่
การค้นพบทางออก ใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่าง
Heifetz และ Linsky เขียนไว้ว่า ถ้าไม่ยอมเรียนรู้ที่จะทำวิธีใหม่ๆ อันได้แก่
การเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยมตลอดจนการกระทำ ก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาประเภท
Adaptive Challenge ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนถาวรต้องเริ่มจากการเปลี่ยน
แปลงจากภายใน แต่เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนยอมเปลี่ยนแปลง เพราะพวกเขายังมองไม่เห็นหรือไม่มั่นใจว่า
หากพวกเขายอมเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ผลที่ได้จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้จริง
ผู้เขียนยังชี้ด้วยว่า สาเหตุแห่งความผิดพลาดของผู้นำที่พบบ่อยที่สุดคือ
การที่ผู้นำแก้ปัญหาประเภท Adaptive Challenge ด้วยวิธีเดียวกับที่ใช้แก้ปัญหาเชิงเทคนิค
ในการแก้ปัญหา Adaptive Challenge ผู้นำจะต้องทำให้คนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทุกคนลดระดับความคาดหวังที่ไม่สอด
คล้องกับความเป็นจริงลง มากกว่าที่จะพยายามสร้างความพอใจ ให้แก่พวกเขา ด้วยการใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยกระบวนการแบบมาตรฐาน
ผู้เขียนชี้ว่า ผู้นำจะต้องทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหา "เลิกคิดพึ่งพิงคนอื่น
แต่ให้เชื่อมั่นในศักยภาพความคิดริเริ่มในการแก้ปัญหาที่มีอยู่ในตัวพวกเขาเอง"
ผู้นำที่จะทำเช่นนี้ได้ จะต้องทุ่มเทความพยายาม เวลา ตลอดจนมีทักษะการสื่อสาร
อย่างมีศิลปะและการสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น
ลดความเสี่ยงของการเป็นผู้นำ
ตอนที่ 2 ของหนังสือเสนอแนวทาง 5 ประการที่จะช่วยให้ผู้นำไม่ถูกกำจัดออกจากเกม
1. ขึ้นไปยืนบนระเบียงแล้วมอง ไปรอบๆ ขั้นแรกนี้คุณต้องมองให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทั้งหมด
เหมือนขึ้นไปยืนอยู่บนระเบียง จากนั้น จึงค่อยตัดสินใจกำหนดการกระทำอย่างมีแผนการที่รัดกุม
มองภาพรวมและวางแผนก่อนลงมือทำทุกครั้งโดยไม่ลืมความยืดหยุ่น จงรักษาวิจารณญาณให้มั่นคงท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง
และกล้าเผชิญหน้ากับความเสี่ยง ความกลัวและความขัดแย้ง
2. ประสานประโยชน์ เน้นรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคน แสวงหาแนวร่วม เอาใจใส่ใกล้ชิดคนที่มีความเห็นตรงข้ามเป็นพิเศษ
แสดงความรับผิดชอบ ทำตัวเป็นตัวอย่าง และยอมรับความสูญเสียหากมีเกิดขึ้น
3. ประสานความขัดแย้ง จัดการกับความแตกต่าง ความ โกรธแค้น และความขัดแย้ง
โดยมุ่งจะลดระดับความรุนแรงของความรู้สึกเหล่านั้น สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยพอที่จะรองรับการแสดงความขัดแย้งได้
ควบคุมระดับของความขัดแย้ง รักษาความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหา และช่วยให้ทุกคนมองเห็นภาพอนาคตที่จะดีกว่าปัจจุบัน
หากทุกคนยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง
4. มอบหมายงานกลับไป มอบหมายให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยว ข้องกับปัญหาเป็นผู้คิดหาหนทางแก้ไขปัญหาเอง
โดยผู้นำจะแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าทุกฝ่ายมีความเข้าใจ
สถานการณ์ตรงกัน คุณต้องรักษาความสงบเยือกเย็นไว้เพื่อวางแผนกำหนดก้าวต่อไปของคุณ
5. รักษาความสงบเยือกเย็น การนิ่งเฉยเมื่อถึงเวลาที่ควร จะลงมือหรือการลงมือเมื่อยังไม่ถึงเวลาอันสมควร
ล้วนสามารถทำลายความคิดริเริ่มในการแก้ปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นได้
หนังสือเล่มนี้จบลงด้วยการกล่าวถึงแง่มุมที่สำคัญต่างๆ ของการใช้ความเป็นผู้นำ
และวิธีจัดการกับความเปลี่ยนแปรที่เกิด ขึ้นในจิตใจของคุณโดยไม่สูญสิ้นความหวัง
ซึ่งได้แก่การไม่ลืมที่จะเอาใจใส่ความต้องการส่วนตัวของคุณ และไม่ลืมว่าการเป็นผู้นำเป็นความท้าทายทั้งทางกาย
ทางใจ ทางอารมณ์ และทางสติปัญญา