|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บลิส-เทล หันมองรายได้จาก ตลาดเครื่องมือสอง ที่ทำกำไรได้มากกว่าการขาย เครื่องใหม่ เปิดแคมเปญ "U can turn" มือถือเครื่องเดิมเปลี่ยนเครื่องใหม่ลด 40% คาดทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในโค้งสุดท้ายเพิ่มเป็น 25% ทั้งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บลิส-เทลกลับมาเล่นในตลาดเครื่องมือสอง ได้อีกครั้ง พร้อมแผนขยายอีกกว่า 1,000 สาขาใน 3 ปีด้วยเงินลงทุนประมาณ 4-500 ล้านบาท
นางสาวประกายดาว เขมะจันตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล กล่าวว่าในครึ่งปีหลังนี้ บลิส-เทลจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดเครื่องมือสองมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีใครมาให้ความสำคัญในตลาดนี้ บลิสเทลเป็นรายแรกที่จับตลาดก่อน โดยมองว่าการทำตลาดเครื่องมือสองจะมีกำไรอย่างน้อย 10% หรือบางเครื่องสามารถทำกำไรได้ถึง 25% ขณะที่การทำตลาดเครื่องใหม่มีกำไรเพียง 7-8% เท่านั้น
"บลิส-เทล เคยทำตลาดเครื่องมือสองเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการขายส่งให้ดีลเลอร์อย่างมาบุญครองหรือผู้ทำตลาดในต่างประเทศที่สนใจเข้ามาสั่งซื้อโดยแจ้งความต้องการว่าต้องการซื้อเครื่องมือสอง โดยเฉพาะเป็นจำนวนล็อตใหญ่"
6 เดือนที่ผ่านมาบลิส-เทลทำตลาดมือถือได้ประมาณ 6 แสนเครื่อง ตั้งเป้าสิ้นปี 2548 ที่ 1.3-1.4 ล้านเครื่องเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% ที่ขายได้ประมาณ 1.15 ล้านเครื่องคิดเป็นรายได้ 6 เดือนแรกประมาณ 4,300 ล้านบาท กำไรประมาณ 80 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้สิ้นปีที่ 10,000 ล้านบาท
เพื่อกระตุ้นตลาดเครื่องมือสอง บลิส-เทล เปิดแคมเปญใหม่ "U can turn" ให้ลูกค้าสามารถนำมือถือเครื่องเดิมที่ซื้อกับบลิส-เทล มาเปลี่ยนเครื่องใหม่ด้วยส่วนลด 40% ของราคาเครื่องเดิม ซึ่งต้องมีอายุการใช้งานนับจากวันที่ซื้อไม่เกิน 6 เดือนเช่นถ้าซื้อเครื่องแรกราคา 1 หมื่นบาทใช้ไม่เกิน 6 เดือน จะได้ส่วนลด 4 พันบาทในการซื้อเครื่องใหม่ และหากเป็นเครื่อง ที่อายุการใช้งานไม่เกิน 9 เดือนจะได้ส่วนลด 30% แคมเปญนี้มีจนถึงสิ้นปี
ปัจจุบันมือถือรุ่นใหม่ๆ มีความถี่ในการออก สู่ตลาดเร็วมากยิ่งขึ้นเฉลี่ย 20 รุ่นต่อเดือนทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนเครื่องเร็วขึ้นเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งบลิส-เทลพบว่ายอดขายเครื่องเปล่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆคิดเป็น 90% จากยอดการขายทั้งหมดในแต่ละเดือนที่ประมาณ 110,000 เครื่องแคมเปญ "U can turn" คาดว่า จะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดในโค้งสุดท้ายของ บลิส-เทลเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 18-20% ด้วยจำนวนชอปที่มีอยู่กว่า 340 สาขาทั่วประเทศ ซึ่ง บลิส-เทลมีแผนจะขยายสาขาให้เพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 1,000 สาขาภายใน 3 ปี หรือขยายตาม การเพิ่มขึ้นของโลตัสเอ็กซ์เพรส ซึ่งคาดว่าจะต้อง ใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 4-5 ล้านบาท รวม เงินลงทุนในช่วง 3 ปีประมาณ 400-500 ล้านบาท
แคมเปญใหม่ของบลิส-เทลนี้มองในแง่ซัปพลายเออร์ตัวเครื่องแล้วอาจไม่ชอบใจนักเพระไม่ได้ทำให้ขายเครื่องใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น แต่บลิส-เทล ทำแล้วมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการซื้อเครื่องครั้งแรก และกับการซื้อครั้งที่ 2 แม้จะมีส่วนลดก็ตาม
นอกจากนี้เครื่องเก่าที่รับคืนจากลูกค้า บลิส-เทลก็สามารถเอามาทำตลาดได้อีก เท่ากับเป็นการเปิดตัวในตลาดเครื่องมือสองอีกครั้ง โดยมีผู้ซื้อที่รออยู่แล้วคือ 1. ส่งออกเครื่องไปต่างประเทศให้กับลูกค้าเป็นล็อตใหญ่ อย่างในประเทศอินเดีย หรือบางประเทศที่ยังไม่พัฒนามากนัก 2. ตลาดเครื่องมือสองอย่างมาบุญครอง และ 3. เครื่องมือสองเป็นช่องทางในการทำตลาดเองในรูปแบบของการเปลี่ยนหน้ากากใหม่และขายให้กับลูกค้าที่ต้องการ
"ตลาดเครื่องมือสองเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ แม้วันนี้ยังประมาณรายได้ได้ยาก โดยคาดว่าจะเห็นรายได้ตั้งแต่ปี 49 ไปแล้ว เพราะกว่า ลูกค้าที่ซื้อเครื่องในวันนี้ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็ประมาณต้นปี 49 ไปแล้ว"
|
|
|
|
|