Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 กันยายน 2548
โอ.ที.เอ็ม.ชี้นาฬิกาแฟชั่นชะลอ นำเข้าอีก2แบรนด์ปั้นยอดโค้งท้าย             
 


   
search resources

Watches
โอ.ที.เอ็ม.เมเนจเมนท์,บจก.




โอ.ที.เอ็ม.ชี้เศรษฐกิจพ่นพิษตลาดนาฬิกาแฟชั่นชะลอตัว ทุ่ม 5 ล้านบาท อัดการตลาดครบเครื่องช่วงไฮซีซัน หวังโกยยอดขายโค้งท้าย ตบเท้านำเข้านาฬิกา 2 แบรนด์ดัง เปิดตัวรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น หวังสิ้นปีโตตามเป้า 15-20% กวาดรายได้ 400 ล้านบาท

นายภาณุ ณรงค์ชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอ.ที.เอ็ม.เมเนจเมนท์ จำกัด ผู้นำเข้านาฬิกาแฟชั่น เปิดเผยว่า ภาวะตลาดนาฬิกาแฟชั่นมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้อัตราการเติบโตเริ่มชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะโตได้ 15-20% เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกถึงสาม มีปัจจัยลบหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ทำให้กลุ่มลูกค้าอาจจะเปลี่ยนไปซื้อนาฬิกาที่ถูกลงบ้าง โดยเฉลี่ยราคา 3,000-4,000 บาท

ส่วนไตรมาสสี่ต้องดูถึงสภาพตลาดกันอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น คนจะออกมาจับจ่าย ใช้สอย เพราะยอดขายนาฬิกาแฟชั่นช่วงไตรมาสสี่มีถึง 50% จากยอดขายรวม อีกทั้งยังเริ่มมีปัจจัยบวกเป็นตัวผลักดัน อาทิ ดุลการค้าไม่ขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ ราคาน้ำมันเริ่มคงที่คนเริ่มยอมรับราคาได้ ปัญหาภัยแล้งไม่มี

แผนการตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายได้ทุ่มงบ 50% หรือ 5 ล้านบาท จากงบการตลาดรวมทั้งปี 10 ล้านบาท จัดรายการส่งเสริมการขายเต็มรูปแบบ ทั้งลด แลก แจก แถม นอกจากนี้ยังได้นำนาฬิกา รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นเข้ามาจำหน่าย และเตรียมเปิดตัวนาฬิกานำเข้า Lambretta,Paul Smith, Kenneth Cole ในเดือนตุลาคม และไฮไลต์ปีนี้ คือ การเปิดตัวนาฬิกา Tommy Hilfiger ในปลายปีนี้
"ปีนี้การทำตลาดนาฬิกาแฟชั่นต้องออก แรงผลักดันยอดขายมากขึ้น อีกทั้งในช่วง 8 เดือน ที่ผ่านมาสงครามราคาหรือการทำโปรโมชัน ณ จุดขาย มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในช่วง ไตรมาสสุดท้ายเราจึงทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้าย และผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 15-20% ซึ่งเป็นเป้าที่เติบโตมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมานี้"
นายวราฤทธิ์ เปล่งวาณิช กรรมการบริหาร บริษัท โอ.ที.เอ็ม.เมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า โครงสร้างการดำเนินธุรกิจนำเข้านาฬิกาแบ่งออกเป็น 2 บริษัท คือ บริษัท โอ.ที.เอ็ม.เมเนจเมนท์ นำเข้านาฬิกาทั้งหมด 9 แบรนด์ และบริษัท ไทม์ เดคโค จำกัด นำเข้านาฬิกา 5 แบรนด์ นอกจากนี้ยังเปิดร้านจำหน่ายนาฬิกากว่า 20 แบรนด์ ภายใต้ชื่อ ไทม์ เดคโค ซึ่งในสิ้นปีนี้มีทั้งหมด 8 แห่ง และปีนี้เตรียมเปิดเพิ่มเป็น 10 แห่ง ที่ เซ็นทรัล เวิลด์พลาซา ฯลฯ โดยใช้งบลงทุน 3-4 ล้านบาทต่อสาขา

สำหรับผลประกอบการปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้รวมทั้งสองบริษัท 400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก โอ.ที.เอ็ม.เมเนจเมนท์ 50-70 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นของบริษัทไทม์ เดคโค จำกัด 330-350 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us