|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ของ "บลจ.ไทยพาณิชย์"มีลุ้น บริษัทเตรียมพิจารณาจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 เผยเป็น กองทุน LTF กองที่ 3 หลังจากก่อนหน้า บลจ. กสิกรไทย และ บลจ.วรรณ นำร่องประกาศปันผลไปแล้ว
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) แจ้งว่า บริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายเงิน ปันผลจากผลประกอบการสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 ทั้งนี้ หากบริษัทจัดการมีมติจ่ายเงิน ปันผล บริษัทจะหยุดทำการรับซื้อหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้าเป็นการชั่วคราว ในระหว่างวันที่ 3-11 ตุลาคม 2548 และจะเริ่มเปิดทำการรับคำสั่งซื้อหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า ในวันที่ 12 ตุลาคม 2548 เป็นต้นไป โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 12 ตุลาคม 2548
ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) ณ วันที่ 26 กันยายน 2548 ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.28% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 5.97% ตั้งแต่ปลายปี 2547 อยู่ที่ 6.82% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 8.79% โดยราคาหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 10.8789 บาทต่อหน่วย มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,232.73 ล้านบาท จัดตั้งเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2547
สำหรับพอร์ตการลงทุนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2548 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,202.48 ล้านบาท ลงทุนในตราสารทุนจำนวน 799.64 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 270.25 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.47% กลุ่มธนาคาร 148.28 ล้านบาท คิดเป็น 12.33% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 99.37 ล้านบาท คิดเป็น 7.37% กลุ่มขนส่งและลอจิสติกส์ 78.14 ล้านบาท หรือ 6.50% และกลุ่มอื่นๆ 114.97 ล้านบาท หรือ 9.56%
นอกจากนี้ ยังลงทุนในตราสารหนี้มูลค่า 406.32 ล้านบาท แบ่งเป็น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงเทียบเท่า 192.21 ล้านบาท หรือ 15.98% เงินฝากและตราสารทางการเงินที่ออกหรือรับรองโดยสถาบันการเงิน 133.14 ล้านบาท หรือ 11.07% หุ้นกู้และตราสารที่ออกโดยบริษัทเอกชน 80.97 ล้านบาท คิดเป็น 6.73%
สำหรับหลักทรัพย์ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่ลงทุน ตามผู้ออกหลักทรัพย์ประกอบด้วย 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย 14.34% 2. บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 9.50% 3.บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 8.46% 4. บริษัทเงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) 8.40% และ 5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 7.90%
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) เป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน ซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับนโยบายจ่ายเงินปันผลมีนโยบายจ่ายปีละไม่เกิน 2 ครั้ง เมื่อกองทุนมีกำไรสะสม และการจ่ายเงินปันผลจะต้องไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมขึ้นในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ บริษัทจัดการอาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลของกองทุนรวมในแต่ละครั้งในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของกำไรสะสม หรือกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผลนั้น แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า หรือพิจารณาจ่ายจากเงิน ปันผล หรือดอกเบี้ยที่ได้รับจากทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวม ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะไม่จ่ายเงินปันผล หากเกิดกรณีเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาดังกล่าวข้างต้นในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลน้อยกว่า 0.10 บาทต่อหน่วย
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มี 2 บลจ.ที่ประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ประกอบด้วย บลจ.กสิกรไทย และบลจ.วรรณ โดยบลจ.กสิกรไทย ได้จ่ายปันผลหน่วยลงทุนกองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาวปันผล ในงวดผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2548 ในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท
ส่วนบลจ.วรรณ ประกาศปันผลกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 โดยจ่ายจากกำไรสุทธิ/กำไรสะสม ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.10 บาท
|
|
 |
|
|