แบงก์ชาติเผยยอดการให้บริการบัตรเครดิตชะลอลงมาอยู่ที่ 15-16% จากเดิมที่สูงถึง 30% เชื่อเป็นผลจากมาตรการของ ธปท. ที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเดือน ก.ค. มีทั้งสิ้น 9,344,264 บัตรเพิ่มขึ้น เพียง 179,971 บัตร นำโดยธนาคารพาณิชย์ ขณะที่นอนแบงก์มีปริมาณการออกบัตรเครดิตชะลอตัวลงมาก

นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่า การ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินมีอัตราการขยายตัวที่ชะลอลง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 15-16% จากก่อนหน้านี้ที่อยู่ในระดับกว่า 30% ทั้งนี้ การขยายตัวของบัตรเครดิตชะลอลงดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ามาตรการของ ธปท. ที่ได้กำหนดใช้ไปก่อนหน้านี้ได้ผล

ส่วนการให้บริการบัตรเครดิตแยกตามประเภทบัตรเครดิตล่าสุด ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2548 มีทั้งสิ้น 9,344,264 บัตร เพิ่มขึ้น 179,971 บัตร เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่มีจำนวนทั้งสิ้น 9,164,293 บัตรชะลอตัวลงต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกของปีนี้ แบ่งเป็นบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย 3,568,766 บัตร เพิ่มขึ้น 121,109 บัตร ซึ่งนับว่า ปริมาณบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นใน ส่วนนี้มากที่สุด บัตรเครดิตที่ออกมาโดยสาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศในไทย 1,017,397 บัตร เพิ่มขึ้น 1,270 บัตร และบริษัทประกอบธุรกิจบัตร เครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ นอนแบงก์ จำนวน 4,758,101 บัตร เพิ่มขึ้น 57,592 บัตร ชะลอตัวลงมาก เมื่อเทียบกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา

ในส่วนของยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตทั้งระบบในเดือนกรกฎาคมมีทั้งสิ้น 128,036.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,199.68 ล้านบาท จากเดือนก่อนที่มีจำนวน 126,836.39 ล้านบาท เป็นยอดคงค้างสินเชื่อของ ระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 45,388.15 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 10.17 ล้านบาท ขณะที่เป็นยอดคงค้างสินเชื่อ ของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ 24,709.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 351.97 ล้านบาท ยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิต ของนอนแบงก์มีทั้งสิ้น 57,398.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 847.88 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการ ใช้จ่ายรวมผ่านบัตรเครดิตในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 51,289.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 406.67 จากเดือน ก่อนหน้าที่มีจำนวน 35,772.84 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายในต่างประเทศมีจำนวน 2,114.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.04 ล้านบาท จากเดือนก่อนที่มีจำนวน 2,062.55 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณการเบิกเงินสดล่วงหน้าที่มีจำนวน 12,995.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 768.83 ล้านบาทจากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวน 12,226.95 ล้านบาท