บ้านบนต้นไม้ (Tree House) ยุคนี้มีรูปโฉมเปลี่ยนไป จากบ้านบนต้นไม้ยุคก่อนๆ
ที่เด็กๆ ชอบใช้เป็นที่หลบซ่อน โดยสิ้นเชิง....จากที่คุณหลับตานึกภาพบ้านบนต้นไม้ของเด็กๆ
ซึ่งใช้แแผ่นกระดานสองแผ่นมาวางพาดเชื่อมกิ่งไม้ใหญ่สองกิ่ง แล้วเด็กแสนซนก็มีมุมสงบไว้นั่งเล่นนอนเล่นตามประสานั้น
คุณต้องทึ่งกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ที่ใช้ประโยชน์จากความร่มครึ้มของต้นไม้มาช่วยเสริมงานออกแบบก่อสร้าง
จนกลายเป็นบ้านบนต้นไม้สูงหลายชั้น มีระบบทำน้ำอุ่น-น้ำเย็นไว้รองรับ มีไฟฟ้าใช้
และติดกระจกสองชั้นได้อีกต่างหาก
ทั่วทั้งประเทศอังกฤษในเวลานี้จะมีบ้านบนต้นไม้ ผุดขึ้นในสวนมากมาย เป็นแนวโน้มแห่งความนิยมที่กำลังมาแรงจริงๆ
สำหรับ Mark Wilkinson นักออกแบบห้องครัวนั้นก้าวล้ำกระแสไปหลายก้าวอยู่เหมือนกัน
เขาสร้างบ้านบนต้นไม้ของตัวเองไว้หลายปีแล้ว มีระบบอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นห้องครัว
ระบบน้ำ ระบบทำความร้อน และโคมไฟระย้า
"มันให้ความรู้สึกสุดวิเศษจริงๆ กับการอยู่สูงจากพื้น 30 ฟุต แล้วยืนมองลงมาจากระเบียงที่มีแมกไม้ร่มครึ้ม
จนเมื่อมองขึ้นมาจากเบื้องล่างแล้ว เหมือนไม่มีระเบียงนั้นอยู่ เราใช้บ้านบนต้นไม้เวลามีงานเลี้ยง
Black-tie dinners" Wilkinson เล่ารายละเอียด
ส่วน John Harris มีประสบการณ์ตรงจากการไปฮันนีมูนแล้วพักที่บ้านบนต้นไม้ในมาเลเซีย
จนเกิดแรงบันดาลใจถึงขนาดก่อตั้งบริษัท Pear Tree รับสร้างบ้าน บนต้นไม้กันเลยทีเดียว
และดูเหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะเขาตัดสินใจกระโจนลงสู่ธุรกิจนี้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
จึงทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น เพียงไม่กี่ปี หลังจากก่อตั้งบริษัท
Harris สร้างบ้านบนต้นไม้ไปแล้วนับร้อยหลัง
นอกเหนือจากบ้านบนต้นไม้ที่เป็นยอดปรารถนาของเด็กแล้ว Harris และลูกค้า
ของเขายังสนุกกับการสร้างบ้านบนต้นไม้เพื่อจุดประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องสมุด
เรือนตกปลา หอสังเกตการณ์ หรือแม้แต่บ้านบนต้นไม้พร้อม jacuzzi เพื่อสุขภาพก็ไม่อยู่
เหนือความสามารถในการออกแบบก่อสร้าง
และในท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนบ้านบนต้นไม้สไตล์ log-cabin แบบอเมริกันจะเป็นทางเลือกยอดนิยมที่อยู่ตรงจุดกึ่ง
กลางระหว่างสไตล์ของโรบินสันครูโซยุคโบราณกับบ้านพักอาศัย ที่มีขนาดใหญ่และถาวรกว่า
อย่างไรก็ตาม งานออกแบบก็ยังต้องคงสิ่งที่คุ้นเคยเอาไว้บ้างสักอย่างสองอย่าง
อาจจะเป็นหลังคามุงจากหรือหญ้าฟางแบบ cottage-style หรือหลังคามุงกระเบื้องสไตล์ยุค
Queen Anne ช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ซึ่งแนวสถาปัตยกรรมมีจุดเด่นอยู่ที่ การก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงและประดับตกแต่งแบบคลาสสิก
นอกจากนี้ยังนิยมสร้างผนัง ทำด้วยไม้อัดที่สามารถดัดตรงส่วนของประตูและหน้าต่างให้มีรูปทรงสไตล์ยุค
Gothic หรือ Tudor ได้
แต่ก่อนจะเริ่มต้นก่อสร้าง คุณจำเป็นต้องหาทำเลเหมาะสมให้ได้ นั่นคือ ต้นไม้ที่มีกิ่งแข็งแรงและแผ่กว้างออกไป
"ต้นบีช (Beech) ต้นโอ๊ค ต้นเกาลัด (Chestnut) หรือต้นมะกอกจะดีมาก" Charley
Brentnall แห่งบริษัท Carpenter Oak & Woodland อธิบาย "ต้นไม้ประเภทไม้ผลที่โตเต็มที่แล้วก็เหมาะเหมือนกัน"
ปัญหาคือถ้าคุณโชคร้าย ไม่มีต้นไม้คุณสมบัติดังกล่าวที่ว่าเลยล่ะ... Robert
Sergent-Fairley แห่งบริษัท Belsize Landscapes มีคำตอบให้เสร็จสรรพว่า "ถ้าคุณไม่มีต้นไม้อะไรเลยก็ไม่แปลก
เพียงแค่ ไปหาซื้อมาหลายๆ ต้นแล้วปลูกรอบๆ บริเวณที่ปรับพื้นที่ให้สูงขึ้น"
บ้านบนต้นไม้ที่ปลูกสร้างแบบ self-supporting มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าบ้านบนต้นไม้ทั่วไปตรงที่จะมีความแข็งแรงและทนทานกว่า
ทำให้สร้างบ้านได้หลังใหญ่กว่า แถมยังราคาถูกกว่าด้วย
มีคนพูดกันว่า เมื่อคิดจะสร้างบ้านบนต้นไม้ ย่อมไม่มีอะไรมาขัดขวางได้
สิ่งเดียวที่จะทำให้ลังเลใจก็คือการขาดจินตนาการที่จะมาเนรมิตเท่านั้น