|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ตุลาคม 2548
|
|
โอกาสสำหรับผู้มีเงินออมเปิดกว้างมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมเท่านั้น กองทุนส่วนบุคคลก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถจัดสรรรูปแบบการลงทุนให้ตรงกับความต้องการได้มากยิ่งขึ้น
ในยุคที่อัตราดอกเบี้ยวิ่งไล่ตามเงินเฟ้อเช่นในปัจจุบัน ถึงจะมีเงินออมมากแต่หลายคนก็ยังไม่ค่อยพอใจ เพราะผลตอบแทนที่ได้จากการฝากเงินในธนาคารทุกวันนี้ไม่คุ้มเอาเสียเลย ส่วนจะมาลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีความเสี่ยงสูงอยู่ไม่น้อย ครั้นจะหันหน้าไปพึ่งกองทุนรวมทั้งหลายที่มีอยู่มากมายในเวลานี้ก็อาจจะยังไม่ค่อยถูกใจเท่าใดนัก กองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) อาจเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา
กองทุนส่วนบุคคลมีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญประการ หนึ่งคือ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ ผู้มีเงินออมมองหาช่องทางสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ประกอบกับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มดำเนินการ ตามนโยบายธนาคารครบวงจร (Universal Banking) มีเครือข่ายหรือกิจการในเครือที่สามารถให้บริการทางการเงินหลากหลายครบถ้วน เพื่อหวังเพิ่มสัดส่วน รายได้จากค่าธรรมเนียมให้สูงขึ้น จึงมีความพยายาม ที่จะขายบริการด้านการลงทุนให้กับผู้ฝากเงินมากขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสของธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคลนี่เอง
นอกจากนี้ในกลุ่มของนักลงทุนสถาบัน ก็เริ่มให้ความสนใจใน กองทุนส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น อาทิ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม รวมไปถึงมูลนิธิต่างๆ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินมากนัก แต่เมื่อผลตอบแทนจากการฝากเงินต่ำ ทำให้ต้องมองหาช่องทางในการลงทุนเพิ่มขึ้น รวมทั้งบริษัทประกันที่เคยบริหารการลงทุนของตนเอง แต่อาจมีผลตอบแทนที่ยังไม่น่าพอใจ ก็เริ่มแบ่งพอร์ตการลงทุนออกมาให้กองทุนส่วนบุคคลบริหารมากขึ้นด้วยเช่นกัน
บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าวและ ได้เริ่มเปิดให้บริการกองทุนส่วนบุคคลในชื่อ The Privilege by SCBS ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2547 จับกลุ่มผู้มีเงินลงทุนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีข้อได้เปรียบที่มีฐานลูกค้าเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญด้วยการทำงานร่วมกับทีมธนบดีธนกิจ (private banking) ที่ดูแลลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่ง ลูกค้ากลุ่มนี้หากรับความเสี่ยงได้ไม่มากจะเป็นการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนผสมที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อรักษาเงินต้น (รายละเอียดกองทุนดูในตารางประกอบ)
ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นผู้ที่เป็นนักลงทุนหรือมีประสบ การณ์การลงทุนด้วยตนเองมาแล้ว จะคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นและสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ก็จะมีรูปแบบการลงทุนให้เลือก ทั้งที่เป็นกองทุนผสม กองทุนตราสารทุนและกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น ซึ่งในแต่ละกองทุนก็สามารถเลือกรูปแบบหรือตั้งเงื่อนไขได้ตามต้องการ ซึ่งถือเป็นข้อดีของกองทุนส่วนบุคคล
"กองทุนส่วนบุคคลจะมีข้อดีคือเราสามารถดีไซน์กองทุนให้เข้ากับตัวเราได้ แต่มีข้อด้อยตรงที่จะต้องใช้เวลาในการลงทุนพอสมควร แต่ผมก็มองว่าเป็นข้อดีได้เหมือนกัน เพราะเป็นการช่วยให้ลูกค้าใจเย็นลง การ ลงทุนอย่าให้สั้นเกินไปเพราะถ้าซื้อขายทุกวันคุณก็แทบไม่ได้อะไร" กิติกร ติวาพร รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกองทุนส่วนบุคคล บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
SCBS จับกลุ่มลูกค้าหลักที่ผู้ฝากเงินธนาคารไทยพาณิชย์ โดยเริ่มทำงานร่วมกับทีมธนบดีธนกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ มีการศึกษาข้อมูลลูกค้า ให้ข้อมูลของตัวบริการ กับทีมงานธนบดีธนกิจจนถึงการออกพบลูกค้าร่วมกัน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จะเห็นได้จากตัวเลข ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งครบ 1 ปีของการเปิดให้บริการกองทุนส่วนบุคคล มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเกินกว่า 1,500 ล้านบาท
ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลของ SCBS เป็น กลุ่มลูกค้าเงินฝากจากธนาคารไทยพาณิชย์ในสัดส่วนกว่า 60% และคาดว่าแนวโน้มในอนาคตจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งหากมีการตั้งสถาบันประกันเงินฝากขึ้น ซึ่งจะมีผลให้เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ไม่ได้รับการค้ำประกันทั้งจำนวนอีกต่อไป ทำให้เงินจำนวนมากจะกระจายออกจากเงินฝากไปอยู่ ในรูปแบบการลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักลงทุนก็เป็นกลุ่มที่ SCBS ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน เพียงแต่ลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้เวลาคัดเลือก บริษัทจัดการลงทุนนานกว่ากลุ่มผู้ฝากเงิน เนื่องจากมีประสบ การณ์ในการลงทุนอยู่แล้ว แต่กิติกรเชื่อว่า ด้วยจุดแข็งของการเป็นบริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ทำให้สามารถให้บริการลูกค้ารวมไปถึงบริการในกลุ่มของ private banking ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ลูกค้ายังได้ประโยชน์จากธุรกรรมด้านหลักทรัพย์ของ SCBS ทั้งในด้านทีมวิจัยและวาณิชธนกิจอีกด้วย
"ถ้าลูกค้าอยากซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือบอนด์บางตัวที่ออกมาแล้วขายเร็วมาก ลูกค้าหาไม่ได้ เราก็สามารถไปขอแบ่งมาให้กับลูกค้าได้ และการที่เราทำธุรกิจอันเดอร์ไรต์ทำให้ ลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลของเราได้สิทธิพิเศษในหุ้นไอพีโอด้วย"
|
|
|
|
|