|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ตุลาคม 2548
|
|
ใครที่ผ่านไปผ่านมาย่านอาคารสยามเซ็นเตอร์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คงมีโอกาสได้เห็นภาพคนงานหลายชีวิตกำลังเร่งมือปรับปรุงอาคารกันอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจว่าจะมีสายตานับพันนับหมื่น ที่เดินผ่านไปมากำลังจ้องมองแต่อย่างใด
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของตึกสยามเซ็นเตอร์ ตัดสินใจ renovate อาคารสยามเซ็นเตอร์แบบยกกระบิ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน ไปจนถึงผู้เช่า แบรนด์เสื้อผ้า และสินค้าทุกอย่างที่วางขายอยู่ด้านใน เพื่อต้อนรับขวบปีที่ 35 ของสยามเซ็นเตอร์ เพื่อรักษาระดับมาตรฐานของการเป็นห้างสรรพสินค้าสำหรับคนรุ่นใหม่
นอกเหนือจากตัวอาคารที่จะถูกกรุด้วยกระจกมากมายภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Magical Glass Box" และการวางแบรนด์สินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยวางขายที่ไหนมาก่อนในประเทศไทยแล้ว สยามพิวรรธน์ ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับบริษัท แมทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) ของสมชาย ชีวสุทธานนท์ หรือตี๋ แมทชิ่ง เพื่อวางระบบการขายโฆษณาภายในอาคารใหม่ทั้งหมดด้วยในคราวเดียวกัน หลังใช้เวลามายาวนานกว่า 2 ปีในการหาข้อสรุปและวางแผนโครงการดังกล่าวร่วมกัน
ป้ายโฆษณาแบบดิจิตอล หรือที่เรียกว่า "Digital signs" กลายเป็นจุดขายเพื่อสื่อให้เห็นความทันสมัยของสยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ตึกใกล้เคียง ซึ่งสยามพิวรรธน์เป็นเจ้าของอยู่ด้วย โดยมีตี๋ แมทชิ่ง เข้ามารับหน้าที่ช่วยดำเนินการเกี่ยวกับ Digital signs ดังกล่าวแทบทั้งหมด ภายใต้บริษัทใหม่ที่ชื่อ "Cheeze Media"
หากสิ้นเดือนตุลาคมสยามเซ็นเตอร์รูปโฉมใหม่เปิดให้บริการ เด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่แวะเวียนไปจะได้เห็นจอภาพทั้งแบบพลาสมา และแอลซีดี ติดตั้งในจุดต่างๆ กระจายกันทั้ง indoor และ outdoor เพื่อฉายภาพโฆษณาที่ผู้สนับสนุนหลากหลายรายซื้อและทำสัญญาเช่าที่ ขายโฆษณาเอาไว้ เช่นเดียวกันกับการนำเสนอเนื้อหาเพลง ตัวอย่างภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
เช่นเดียวกันกับจอ LED แบบโค้ง จอภาพชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติ ในการแสดงผลได้ดีกว่าจอ 2 แบบที่ผ่านมา อีกทั้งผู้ชมยังสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนแม้จะอยู่ในมุมมองใดก็ตาม ซึ่งจะถูกนำมาติดตั้งภายในอาคารสยามดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ นับสิบจุด
ส่วนที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นจอ LED แบบโค้งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกนำมาวางเรียงกันถึง 3 จอบนรางโค้ง ที่รองรับการแบ่งแยกจอออกจากกันเป็นจอเดียวหรือทำให้ติดกัน และ เลื่อนไปมาได้อย่างอิสระ ซึ่งติดตั้งอยู่บนลานที่เชื่อมระหว่างอาคารสยาม เซ็นเตอร์และสยามพารากอน ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ไม่เพียงเท่านั้น การทำโฆษณาแบบใหม่โดยใช้สื่อ Display เข้าช่วยก็จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ในสยามเซ็นเตอร์ สื่อ Display หลายอย่างถูกจับจองจากค่ายต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช่น Nokia และ Apple พร้อมการออกแบบ Display ให้เตะตา ดึงดูดวัยรุ่นให้เข้าไปหา ทั้งแบบเก้าอี้นั่ง และจอภาพที่ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตเอาไว้
ไม่เพียงแต่เป็นการพลิกโฉมการทำโฆษณาแบบใหม่สำหรับ เมืองไทย ที่แต่เดิมเป็นเพียงป้ายผ้า กระดาษ หรือพลาสติกเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการตัดสินใจหารายได้จากการทำโฆษณาอย่างจริงจังของสยามเซ็นเตอร์ด้วย หลังจากที่ผ่านมารายได้จากค่าเช่าเป็นหัวใจสำคัญมาตลอดหลายปี เพราะแว่วๆ มาว่างบลงทุนการติดจอใหม่หมด ไป 120 ล้านบาท แต่คาดว่าจะคืนทุนได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ที่เหลือก็เป็น กำไรเห็นๆ นั่นเอง
|
|
|
|
|