|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
SWC เล็งปรับราคาสินค้าอีกรอบก่อนสิ้นปี หลังต้นทุน วัตถุดิบเพิ่ม มั่นใจปีนี้ทำรายได้ตามเป้า 550 ล้านบาท ขณะแผนการสร้าง โรงงานแห่งที่ 6 ชะลอจากปีนี้ไปดำเนินการได้ปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อ มั่นใจปี 49 ผลงานดีโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10%
นายวรสิทธิ์ เคหะเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชอร์วู้ด เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (SWC) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังจากการที่บริษัทได้ออกสินค้าตัวใหม่ในหลายสายผลิตภัณฑ์นั้น เป็นช่องทางการทำรายได้เพิ่มขึ้น แต่จากการที่ต้นทุนการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท
อย่างไรก็ตาม โดยปกติผลงานของ SWC ครึ่งปีแรกจะทำรายได้เพียง 40% ของรายได้รวมทั้งปีที่เหลือ 60% คือรายได้ที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังและครึ่งปีแรก ปีนี้กำไรของครึ่งปีแรกลดลง ผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแต่บริษัทยังคาดว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก
"ครึ่งปีแรกเราแย่หน่อยเพราะต้นทุนพุ่งขึ้นมา แต่แนวโน้มของครึ่งปีหลังยอดขายเราจะมากขึ้น และกำไรของเราก็อาจขึ้นตามเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยอดขาย" นายวรสิทธิ์กล่าว
นายวรสิทธิ์กล่าวต่อว่า เมื่อมองจากภาพรวมทั้งปีแล้ว ในปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วหรือ อาจลดลงประมาณ 10% แต่ก็ยังมองแนวโน้มที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อพวกสินค้าที่เป็น อุปโภคและบริโภคน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้
ปัจจุบัน SWC ใช้กำลังการ ผลิตจากโรงงานทั้ง 5 แห่ง และยังมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก ด้วยการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 6 เนื่องจากขณะนี้ยังมีที่ ดินเปล่าที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกล์เหลืออยู่
"ความจริงโรงงานแห่งนี้ เป็น แผนเดิมที่เรากะว่าจะเริ่มสร้างในปี 48 แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่ค่อย เอื้อต่อการขยายงานเท่าใดนัก และเราชะลอแผนไว้ก่อน เพราะปีนี้ภาพรวมไม่ค่อยดีนัก แต่เราจะเริ่มปีหน้าแล้ว" นายวรสิทธิ์กล่าว
สำหรับเงินที่จะใช้สร้างโรงงานแห่งใหม่ จะเป็นเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน และก็สถาบันการเงินบางส่วนประมาณ 40-50 ล้านบาท เพราะปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E RATIO)ของบริษัทต่ำมาก แต่จะมีที่เป็นO/D ที่ขอไว้ แต่ก็เพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น นายวรสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้แล้ว SWC ยังมีผลดีจากการที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ที่จ่ายภาษีเพียง 20% เท่านั้น ดังนั้น ความต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ในระยะนี้จึงไม่มี และแผนการ ระดมทุนเพื่อการลงทุนของบริษัทไม่น่าจะมีในช่วงระยะ 1-2 ปีนี้ด้วย คาดว่าหากจะใช้ทุนมากอาจเป็นช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
โดยในภาวะที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว และกระแสการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในปัจจุบัน ทำให้ SWC สนใจการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในการทำธุรกิจ แต่ก็เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น อาจเป็นการซื้อไลเซนส์จากแบรนด์ต่างประเทศ หรืออื่นๆ เพราะมีหลายวิธีการแต่เป็นเพียงการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น
นายวรสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับปี 49 ภาพรวมน่าจะดีกว่านี้ แม้ว่าปีนี้ผลงานทั้งปียอดขายจะทรงๆ ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัททำรายได้แล้วเกินกว่า 400 ล้านบาท โดยเป้า 550 ล้านบาทคงไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะมาร์เกตแชร์สินค้าบางรายการที่ขยายตัวขึ้น คาดว่ารายได้รวมทั้งปีคงไม่ต่างจากเป้า แม้ว่า โดยปกติ SWC ตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทไว้ปีละ 15%
"ปีนี้เราทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง แต่ปี 49 เราหวังว่าการเติบโตของเรา 10% และเรามั่นใจว่าปีนี้เราก็ยังจะดีด้วย และผลงานไตรมาส 3 ของเราก็ไปได้เพราะเราได้ปรับราคา ขายสินค้าอีก" นายวรสิทธิ์กล่าว
โดยส่วนหนึ่งจะเป็นผลดีจากการปรับราคาสินค้าที่จำหน่าย หลังจากที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับแต่ละครั้งจะประมาณ 5% และไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทเตรียมปรับราคาจำหน่ายสินค้าบางรายการเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่ม ขึ้นทำให้ต้นทุนวัตถุดิบขยับเพิ่มสูงขึ้น สำหรับรายได้ของ SWC มาจากผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง 60% รักษาเนื้อไม้ 20% แชมพูสุนัข 10% ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 10%
|
|
 |
|
|