Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2548
7-Eleven's Growth Business             
โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
 

 
Charts & Figures

พัฒนาการของเคาน์เตอร์เซอร์วิส

   
related stories

Japan Post : แปรรูปเพื่อปฏิรูป
Delivering More Than Ever
องค์การไปรษณีย์นิวซีแลนด์
ไปรษณีย์จีนกับพรมแดนธุรกิจใหม่
Royal Mail
La poste ไปรษณีย์ฝรั่งเศส
Correos
ไปรษณีย์อเมริกา ทันสมัย ทันใจ
Easy pay with CA Post
Seeking The succesful models
7-Eleven The Power of Network

   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด

   
search resources

ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น, บมจ.
เคาน์เตอร์เซอร์วิส, บจก.
Commercial and business




เคาน์เตอร์เซอร์วิสเริ่มต้นอย่างล้มลุกคลุกคลาน มีผลการดำเนินงานขาดทุนอยู่หลายปี แต่หลังจากนั้นกลับมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วจนมีจำนวนจุดให้บริการแซงหน้าร้าน 7-Eleven ยอดผู้ใช้บริการก็เพิ่มขึ้นแบบกาวกระโดด จนกลายเป็นธุรกิจที่สร้างอัตราการเติบโต
และผลกำไรให้กับ 7-Eleven อย่างมาก

ในแต่ละวันที่ลูกค้าเดินเข้าในร้าน 7-Eleven ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ เพียงแค่การเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น ยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ได้อาศัยร้าน 7-Eleven เป็นช่องทางชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ ผ่านทางบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสอีกด้วย ความสะดวกของบริการดังกล่าวทำให้ช่องทางนี้ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย โดยอาจดูได้จากยอดการใช้บริการในปัจจุบันที่มีเกินกว่าเดือนละ 7 ล้านบิลเลยทีเดียว

เคาน์เตอร์เซอร์วิสเป็นบริการ ที่มีจุดกำเนิดมาจากอังสนา ตันชัชวาล ผู้เป็นหลานสาวของธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือ ซี.พี.ที่ได้ไอเดียมาจากการที่ต้องยืนต่อแถวเข้าคิวซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ เธอนำไอเดียดังกล่าวมาปรึกษาธนินท์ ซึ่งในที่สุดได้พัฒนากลายมาเป็นธุรกิจรับชำระค่าบริการที่เริ่มเปิดดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2537 โดยในเวลานั้นเป็นบริษัทเอกชนรายแรกและรายเดียวที่ได้รับอนุญาตให้รับชำระค่าบริการแทนผู้ว่าจ้างได้

อย่างไรก็ตาม การขยายธุรกิจมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนมือให้เครือ ซี.พี.รับมาดำเนินงานต่อ ซึ่งในปัจจุบันบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส ถือหุ้นโดยซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น ในสัดส่วน 99.99% เหตุผลสำคัญมาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อของเซเว่นอีเลฟเว่นและบริการรับชำระเงินของเคาน์เตอร์เซอร์วิสเป็นธุรกิจที่ช่วยเสริมกันทั้ง 2 ฝ่าย ในด้านของ 7-Eleven เป็นธุรกิจที่ขายความสะดวกให้กับลูกค้า จำเป็นต้องคัดเลือกสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการและดึงดูดลูกค้าเข้าร้านให้มากที่สุด ซึ่งบริการรับชำระเงินก็สามารถตอบ โจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกัน บริการรับชำระเงินของเคาน์เตอร์เซอร์วิสจะไม่มีความหมายใดๆ เลยหากไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ การอาศัยเครือข่ายที่มีอยู่กว่า 3,000 สาขาของ 7-Eleven ที่มีลูกค้าเข้าใช้ บริการทั่วประเทศและตลอด 24 ชั่วโมงจึงเป็นจุดแข็งสำคัญประการ หนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของเคาน์เตอร์เซอร์วิส นอกเหนือ จากจุดให้บริการภายนอกร้าน 7-Eleven ที่มีอยู่อีกราว 1,200 จุด

ในระยะแรกของการดำเนินงาน ถึงแม้เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะมีข้อได้เปรียบจากการเป็นผู้ให้บริการรับชำระรายแรก (first mover advantage) แต่ก็มีโจทย์ที่รออยู่อย่างน้อย 3 ข้อด้วยกัน ข้อแรกที่น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของบริการในลักษณะนี้คือ ความมั่นใจ ทั้งใน ฝั่งลูกค้าที่มาใช้บริการ ที่ต้องมั่นใจได้ว่าเงินที่ชำระผ่านทางเคาน์เตอร์ เซอร์วิสจะไปถึงหน่วยงานที่ออกบิลครบตามจำนวนและตรงเวลา ไม่เกิดปัญหาการชำระล่าช้าที่ทำให้ชีวิตวุ่นวายเพิ่มขึ้น ส่วนในฝั่งของ ผู้ว่าจ้างก็ต้องมั่นใจได้เช่นกันว่า เงินที่ลูกค้ามาชำระให้นั้นจะมาถึงมือครบถ้วน ไม่สูญหาย

"บริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกรายการมีใบเสร็จ ใช้เป็นหลักฐานได้ เรารับประกันใบเสร็จของเคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกใบเสร็จ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูกค้าไม่ต้องเป็นห่วง" ประเสริฐ มนูพิบูลย์ ผู้จัด การทั่วไป สำนักปฏิบัติการ สำนักการตลาดและพัฒนาธุรกิจเคาน์ เตอร์เซอร์วิส กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ผู้มาใช้บริการและในด้านของผู้ว่าจ้างนั้น การเป็นบริษัทในเครือ ซี.พี. ก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี

โจทย์ข้อถัดมาได้แก่ จำนวนจุดให้บริการ ซึ่งในระยะแรกยังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากตัวเครื่องและเทคโนโลยีที่ใช้ในเวลานั้นยังมีราคาสูง การขยายจุดให้บริการจึงเป็นไปอย่างจำกัด ต้องเลือกอยู่ในทำเลที่คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการมาก โดยเห็นได้จากในปี 2540 หลังจากที่เริ่มให้บริการมาแล้ว 3 ปียังมีจุดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส อยู่เพียง 60 แห่งเท่านั้น (ดูรายละเอียดจากตาราง)

อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มเห็นโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่มาก ทำให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสเร่งขยายจุดให้บริการเพิ่มขึ้น โดยในปี 2541 มีการเปิดจุดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 60 แห่งและในปีถัดมาเพิ่มขึ้นอีก 400 จุดเลยทีเดียว หลังจากนั้นจำนวนจุดให้บริการของเคาน์เตอร์เซอร์วิส ก็มีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดมาโดยตลอด จนปัจจุบันมีอยู่กว่า 4,300 จุด กระจายอยู่ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาและยังมีแฟรนไชซีทั้งที่เป็นซูเปอร์สโตร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร้านขายยา ไปจนถึงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โดย อบต.แห่งแรก ที่เปิดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสอยู่ที่ ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง

"ตอนนี้เรามีจุดให้บริการมากกว่าสาขาของแบงก์ทุกแบงก์แล้ว กำลังพยายามจะทำให้มีมากกว่าสาขาของทุกแบงก์รวมกัน เพราะ บริการของเราถ้าอยู่ในบ้านได้ก็อยากเข้าไปอยู่ในบ้านลูกค้าเลย"

โจทย์ข้อสุดท้ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสต้องเร่งจัดการก็คือ จำนวนบริการที่ลูกค้าสามารถมาชำระได้ เนื่องจากในช่วงเริ่มต้นยังมีผู้ว่าจ้างให้รับชำระได้เพียงไม่กี่รายการ แต่ผู้บริหารมองเห็นแล้วว่า จำนวนบริการที่มากจะยิ่งดึงดูดให้มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับชำระค่าบริการสาธารณูปโภค จนกระทั่งในเดือน ธันวาคม 2540 จึงได้เริ่มเปิดรับชำระค่าน้ำประปาให้กับการประปานครหลวง หลังจากนั้นจึงเป็นการไฟฟ้านครหลวงและองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย (ชื่อในขณะนั้น) ตามลำดับ

จำนวนจุดให้บริการที่มากขึ้น รวมเข้ากับบริการที่มีเพิ่มขึ้นนี่เองทำให้จำนวนลูกค้าเคาน์เตอร์เซอร์วิสเพิ่มขึ้นชนิดก้าวกระโดด โดยในปี 2540 มีจำนวนรับชำระเพียง 130,000 รายการแต่ในปีถัดมาเพิ่มสูงขึ้นกว่า 10 เท่าเป็น 1,450,000 รายการและในปัจจุบันเคาน์เตอร์เซอร์วิสให้บริการรับชำระจำนวนทั้งสิ้น 131 รายการ คิดเป็น จำนวนผู้ว่าจ้างเกินกว่า 70 ราย ครอบคลุมทั้งที่เป็นสาธารณูปโภค สถาบันการเงิน ประกันภัย อินเทอร์เน็ต สายการบิน ไปจนถึงองค์กร การกุศล และมียอดใช้บริการถึงเดือนละกว่า 7 ล้านรายการเลยทีเดียว

"ถ้าคิดเฉลี่ยที่รายการละ 1,500 บาทเท่ากับว่าจะมีเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสถึงเดือนละหนึ่งหมื่นล้านบาท ปีหนึ่งๆ ก็กว่าแสนล้านบาท แต่เงินนั้นไม่ใช่เงินของเราเป็นเงินของผู้ว่าจ้าง" ประเสริฐกล่าว

การจัดการกับเงินจำนวน 10,000 ล้านบาทในแต่ละเดือนตาม ปกติก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว การจัดการกับเงินที่กระจัดกระจายอยู่ในจุดต่างๆ กว่า 4,200 จุด เพื่อนำส่งให้กับผู้ว่าจ้างหลายสิบรายยิ่งซับซ้อนมากขึ้นอีกหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของค่าสาธารณูปโภคที่ต้องจัดส่งให้วันต่อวัน

การทำงานของเคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเก็บข้อมูลค่าบริการตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนจนถึงเที่ยงคืนของวันถัดไป หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปยังศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อคัดแยกตามประเภทของบริการและผู้ว่าจ้าง โดยมีกำหนดเสร็จภายในเวลาบ่ายโมงเพื่อรอให้ผู้ว่าจ้างมาดึงข้อมูลจากระบบและนำไปตัดยอดลูกหนี้ ส่วนตัวเงินค่าบริการที่รับมาจากลูกค้าหากเป็นบริการสาธารณูปโภคจะชำระให้กับผู้ว่าจ้างวันต่อวัน ส่วนผู้ว่าจ้างรายอื่นจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน

ถึงแม้ระบบที่ว่ามานี้จะลงตัวและใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่เคาน์เตอร์เซอร์วิสยังมองถึงโอกาสที่จะได้เพิ่มขึ้นจากการเชื่อมต่อระบบชนิดออนไลน์กับผู้ว่าจ้าง จึงกลายเป็นที่มาของเคาน์เตอร์เซอร์วิส พลัส ที่มีอยู่ในขณะนี้กว่า 2,000 จุด

เคาน์เตอร์เซอร์วิส พลัสจะใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ADSL ผ่านเครือข่ายของ TRUE และ TT&T เชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์กลาง ตลอดเวลา ทำให้สามารถเพิ่มบริการรับชำระค่าสินค้าที่ต้องมีการยืนยันการชำระทันทีได้

"บริการที่ตอนนี้ใช้ระบบออนไลน์แล้วก็คือ นกแอร์ ลูกค้าสามารถโทรไปจองตั๋วแล้วเอารหัสการจองมาชำระเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส พลัส ข้อมูลก็จะวิ่งไปที่นกแอร์เพื่อนำรายละเอียดเที่ยวบินที่จองไว้มาพิมพ์ลงในใบเสร็จ พอจ่ายเงินก็จะได้ใบเสร็จและบันทึกรายการเลยว่าได้ชำระเงินแล้ว" ประเสริฐยกตัวอย่างบริการที่ใช้คุณสมบัติของเคาน์เตอร์เซอร์วิส พลัสในปัจจุบัน

ปัจจุบันบริการที่ใช้คุณสมบัติของระบบออนไลน์เช่นนี้ยังมีไม่มากนัก แต่โอกาสทางธุรกิจในอนาคตมีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว อาทิ การรับชำระค่าสาธารณูปโภคที่เกินกำหนดเวลา ซึ่งปัจจุบันเคาน์เตอร์ เซอร์วิสยังไม่สามารถให้บริการได้ หรือแม้แต่การจองตั๋วชมภาพยนตร์ และตั๋วโดยสารประเภทอื่นนอกเหนือจากสายการบิน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ด้วย

ระบบงานที่จัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้วเช่นนี้ ทำให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสวางเป้าหมายที่จะขยายจำนวนบริการเพิ่มขึ้นจาก 131 บริการ ในปัจจุบันให้ถึง 1,000 บริการในอนาคต รวมทั้งการเพิ่มจำนวนจุดบริการให้มากขึ้นเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และเมื่อพิจารณาถึงโมเดลธุรกิจที่ประเสริฐกล่าวว่า เป็นระบบที่ no staff, no stock, all electronics จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะกลายเป็นธุรกิจที่เป็นตัวสร้าง growth ให้กับ 7-Eleven ได้อย่างมากในอนาคต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us