|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทีโอทีตั้งโต๊ะถกหาทางแก้ปัญหาเอดีซี ต่อลมหายใจบัดดี้บรอดแบนด์ หลังให้บริการ 6 เดือนได้ลูกค้า 5 พันรายพลาดเป้าแบบไม่เห็นฝุ่น ได้ข้อสรุป ใช้โครงข่ายเอไอเอสในพื้นที่ทีโอทีไม่ครอบคลุมหรือสายทองแดงไม่สามารถให้บริการได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนพื้นที่ห่างไกลใช้ไอพีสตาร์แทน หวังปีหน้ายอดลูกค้าเพิ่มเป็น 1.6 แสนราย
นายไตรรัตน์ แก้วเกิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ ดาต้า เน็ทเวอร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ หรือเอดีซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัททีโอทีกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสหรือเอไอเอสในสัดส่วน 49/51 กล่าวถึงบริการบัดดี้บรอดแบนด์ว่าตั้งแต่เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมาปรากฏว่าบัดดี้มีผู้ใช้บริการประมาณ 5,000 รายเท่านั้นซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีผู้ใช้บริการ 8 หมื่นรายเนื่องจากไม่สามารถให้บริการต่างๆ ได้ตามแผนงานที่วางไว้
เป้าหมายบริการที่วางไว้ว่าสามารถให้บริการในลักษณะทริปเปิล เพลย์ หรือทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โทรศัพท์ ดูหนัง ผ่านโครงข่ายทีโอที แต่ปรากฏว่าโครงข่ายทีโอทีบางช่วงไม่ครอบคลุมพื้นที่บริการ และบางเส้นทางมีปัญหาเรื่องคุณภาพ ทำให้การทำตลาดต้องชะลอไปช่วงหนึ่ง
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเอดีซีกับทีโอทีจึงได้ตั้งคณะกรรมการร่วม โดยได้ข้อสรุปว่าเอดีซีจะใช้โครงข่ายโดยเฉพาะเคเบิลใยแก้วของเอไอเอส ในพื้นที่ซึ่งโครงข่ายของทีโอทีไม่ครอบคลุมถึง อย่างในหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียมหรือพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งในส่วนที่คุณภาพของสายทองแดงทีโอทีไม่สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่จะใช้ดาวเทียมไอพีสตาร์สำหรับให้บริการในพื้นที่ลักษณะ Remote Area ที่มีความต้องการใช้บริการ โดยคาดว่าจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังภายในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ และวางเป้าหมายว่าภายในปีหน้า จะมีลูกค้าประมาณ 1.6 แสนรายและเพิ่มเป็น 2 แสนรายในปี 2550 สามารถถึงจุดคุ้มทุนในอีก 5 ปี ด้วยจำนวนลูกค้าประมาณ 5 แสนราย
"บัดดี้จะใช้ช่องทางการตลาดของดีพีซีในกลุ่มเอไอเอส เพื่อเข้าถึงตลาดระดับแมส"
นายไตรรัตน์กล่าวว่าขณะนี้มีบริษัทโฆษณาจากประเทศญี่ปุ่นสนใจที่จะดำเนินงานด้านการตลาดให้กับบัดดี้ บรอดแบนด์ด้วย ซึ่งจะเป็นในลักษณะการจัดแสดงสินค้าตามห้างสรรพสินค้า ต่างๆ เช่น โลตัส หรือโฮมโปร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือร่วมกัน ขณะที่บัดดี้ บรอดแบนด์ อยู่ระหว่างการพัฒนาเนื้อหาหรือคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มช่องทีวีจากที่มีอยู่ 10 ช่องเป็น 20 ช่องภายในสิ้นปีนี้ พร้อมทั้งการให้บริการชมภาพยนตร์ในลักษณะวิดีโอ ออนดีมานด์ ด้วยอัตราค่าบริการเรื่องละ 10-30 บาท เพิ่มจากค่าบริการพื้นฐาน ที่คิดประมาณ 650 บาท
แหล่งข่าวจากทีโอทีกล่าวว่าที่ผ่านมาปัญหาของบัดดี้ บรอดแบนด์ มี 2 เรื่องคือปัญหาด้าน บิสิเนส โมเดล และปัญหาด้านเทคนิค เนื่องจาก บัดดี้ บรอดแบนด์ วางตำแหน่งบริการในรูปแบบ 3 in 1 ทำให้สายโทรศัพท์ของทีโอทีเพียงสายเดียวสามารถใช้บริการได้ถึง 3 รูปแบบพร้อมๆ กันหมายถึงการวางโพสิชันเป็นทีวี โดยเฉพาะอินเตอร์ แอ็กทีฟทีวี ทำให้เครือข่ายต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงมากเกินกว่าสายเคเบิลทีโอทีสามารถให้บริการได้ เนื่องจากสายทองแดงปัจจุบันของทีโอทีสามารถให้บริการบรอดแบนด์ในรัศมีเพียงไม่เกิน 4 กิโลเมตรจากชุมสายโทรศัพท์ซึ่งหากต้องการให้บริการ อินเตอร์แอ็กทีฟทีวี รัศมีดังกล่าวจะต้องลดลงอีก หมายถึงพื้นที่ให้บริการจะจำกัดลงมาก
นอกจากนี้ ผู้บริหารทีโอทีในระดับปฏิบัติงานและผู้บริหารในสายธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องไม่ให้ความร่วมมือกับบัดดี้บรอดแบนด์ อย่างเรื่องค่าเช่าสายโทรศัพท์ ที่ตอนแรกในการเจรจากันเอดีซีพร้อมจ่ายให้ทีโอทีในราคาเลขหมายละ 107 บาทซึ่งเป็นค่าบริการรายเดือน หากเลขหมายนั้นมีการใช้งานโทรศัพท์เพิ่มทีโอทีก็จะมีรายได้ในส่วนนี้ ซึ่งทุกฝ่ายเห็นชอบหมดแต่เมื่อเริ่มให้บริการจริงกลายเป็นว่าทีโอทีไม่ยอม เอดีซีต้องจ่ายค่าเช่าให้เลขหมายละ 320 บาท ซึ่งเท่ากับรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานของทีโอที นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทีโอทีได้ออกแถลงการณ์ต่อต้านบริการบัดดี้บรอดแบนด์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเด็นการคิดต้นทุน ค่าเช่าต่อเลขหมายที่ต้องการให้คิดกับเอดีซี เลขหมายละ 320 บาทแทนเลขหมายละ 107 บาท พร้อมเรียกร้องให้พนักงานใช้บริการบรอดแบนด์ของทีโอทีเอง
|
|
|
|
|