ไอเอ็นจีมั่นใจ "SIRIPF" เทรดวันแรกราคาเหนือจอง เหตุกองทุนให้ผลตอบแทนการันตี 7% ต่อปีจากสัญญาเช่า 70 ล้านบาทต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี ของ "แสนสิริ" เชื่อการที่มีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) เข้าเทรดในตลาด อย่างต่อเนื่อง จะช่วยขจัดปัญหาสภาพคล่องได้ในที่สุด

นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF) มูลค่าโครงการ 865 ล้านบาท เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรก

หลังจากระดมทุนและเข้าไปซื้อสินทรัพย์ซึ่งเป็นบ้านจำนวน 25 หลังในโครงการบ้านแสนสิริ 67 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ มั่นใจว่าในการซื้อขายวันแรกนั้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และราคาไม่น่าจะต่ำกว่าราคาตามมูลค่าหน่วยลงทุนที่ 10 บาท เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีการการันตีผลตอบแทนที่ 7% ต่อปี จากการทำสัญญาเช่าต่อสินทรัพย์ของบริษัทแสนสิริ ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินเดิมในอัตราไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาทต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี โอกาสที่ราคาจะปรับลงมาต่ำกว่า 10 บาท จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกทั้ง ผู้ลงทุนเองก็ต้องการถือหน่วยลงทุนไว้เพื่อรับเงินปันผลด้วย

นายจุมพลกล่าวว่า จากการที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ซึ่งเข้าซื้อขายก่อนหน้านี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เชื่อว่าจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของตลาดดีขึ้นต่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าเทรดในตลาดกองต่อไป อีกทั้งการที่มีกองทุนประเภทดังกล่าวทยอยเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คึกคักมากขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดความกังกลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของกองทุนลงไปเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดแล้วกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ก็จะเป็นการลงทุนที่คุ้นเคยของผู้ลงทุนดังเช่นในต่างประเทศ

"ความรู้สึกของนักลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เริ่มดีขึ้น หลังจากกองทุน CPN รีเทล โกรท ซึ่งมีขนาดใหญ่เข้ามาเทรดในตลาดและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่มีกองทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องของกองทุนได้" นายจุมพลกล่าว

สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ มีมูลค่าโครงการ 865 ล้านบาท เข้าไปลงทุนในบ้านเดี่ยว พร้อมสระว่ายน้ำให้เช่า ในโครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จำนวน 25 หลัง ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าอยู่เต็ม 100% โดยมีอัตราค่าเช่าขั้นต่ำ 180,000-280,000 บาทต่อเดือน จากผู้เช่าส่วนใหญ่ที่เป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยการจัดตั้งกองทุน ดังกล่าว เป็นการเข้าไปซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในราคาขาย 850 ล้านบาท โดยตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2548 กองทุนได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วเสร็จทุกรายการ

โดยกองทุนได้ทำสัญญาให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เช่าทรัพย์สิน เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยคิดค่าเช่าสำหรับบ้าน 25 หลังในอัตราไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จะยังคงต้องรับประกันรายได้ค่าเช่าทั้งหมดเพื่อให้กองทุนมีรายได้ค่าเช่ารวมสำหรับบ้าน 25 หลังในอัตราไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ถือเป็นกองทุนกองที่ 8 ที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯและถือเป็นกองที่ 3 ของบลจ.ไอเอ็นจี หลังจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนและกองทุน รวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้วก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ บลจ.ไอเอ็นจียังมีแผนจะเปิดตัวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีกจำนวน 2 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเป็นกองทุนที่ลงทุนในหอพักนักศึกษาในต่างจังหวัดมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท คาดการณ์ผลตอบแทน 10% ต่อปี และกองทุนที่ลงทุนในคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองมูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท