|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอไอเอสหวังลูกค้าองค์กรธุรกิจเชื่อมต่อการทำงานได้ทุกที่ เหมือนอยู่ออฟฟิศ เปิดบริการใหม่ "AIS Push M@il" เช็กเมลได้ตลอดเวลา ชูจุดขายที่ความหลากหลายของการเข้าใช้บริการ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ลูกค้าองค์กรสิ้นปี 40% หรือที่รายได้รวมประมาณ 7 พันล้านบาท
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า หลังไตรมาสที่ 2 เห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างชัดเจน ในไตรมาสที่ 3 เริ่มเห็นการมุ่งให้ความสำคัญกันที่คุณภาพการให้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของเอไอเอสเองในไตรมาสที่ 4 จะเน้นเรื่องกิจกรรมเรื่องการสร้างสรรค์ความสัมพันธ์กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งการออกเซอร์วิสใหม่ที่จะมีให้เห็นมากกว่าไตรมาสที่ผ่านมา
ไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาแม้จะยังมีการการแข่งราคาอยู่บ้างแต่กลับเห็นได้ชัดในเรื่องฐานลูกค้า ที่เพิ่มมากขึ้น
จากฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 16 ล้านราย ส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าองค์กร โดยปัจจุบันเอไอเอสมีลูกค้าระดับองค์กรขนาดใหญ่ประมาณ 3-4,000 ราย และองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กหรือ SMEs ประมาณ 7-80,000 ราย โดยมีเป้าหมายที่จะขยายบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าองค์กรมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งให้เกิดการเชื่อมต่อการใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าองค์กรสามารถทำงานได้ตลอดเวลาเหมือนอยู่ที่ออฟฟิศ
ปัจจุบันลูกค้าองค์กรทำงานในลักษณะโมบายออฟฟิศผ่านทางเครือข่ายไร้สายและบริการต่างๆไม่ว่าจะเป็น SMS, MMS และอีเมลในรูปแบบของการดึงข้อมูลจากเครื่องพีซี ล่าสุด เอไอเอสพัฒนาบริการใหม่เพื่อลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ
เอไอเอสมองความหลากหลายของทางเลือกของลูกค้าที่จะเข้าใช้บริการที่หลากหลายไว้ 3 ทางเลือกคือ 1. ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Symbian ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 1 ล้านเครื่องในตลาด 2. ไมโครซอฟท์ดีไวซ์ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของวินโดวส์ อย่างสมาร์ทโฟน และ 3. Blackberry Device ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ โดยเอเอไอสมองว่า ความหลากหลาย ของทางเลือกเข้าใช้บริการของเอไอเอสนับเป็นจุดขายเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น
เอไอเอสเลือกให้บริการผ่านเครือข่าย GPRS เพราะมองความหลากหลายของลูกค้าที่เลือกใช้งานได้มากกว่าเครือข่าย เอดจ์ ซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมีฐานลูกค้า GPRS อยู่กว่า 3 ล้านราย ในจำนวนนี้ประมาณ 1.9-2 ล้านรายเป็นลูกค้าที่ใช้เป็นประจำทุกเดือน และส่วนใหญ่ของการใช้บริการเป็นการเข้ามาใช้งานพอร์ทัลของโมบายไลฟ์
ลูกค้าสามารถเลือกให้บริการได้ผ่านรูปแบบการใช้ทั้ง 3 แบบ ในกรณี Blackberry จะสะดวกมากยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรข้ามชาติที่ใช้บริการนี้อยู่แล้วจะสามารถรับส่งอีเมลได้ทันที ในส่วนของ Symbian และไมโครซอฟท์ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวอุปกรณ์สื่อที่มีอยู่ ทั้งสามารถเชื่อมต่อการใช้ได้งานกับ 80 ประเทศ หรือกว่า 105 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกที่เอไอเอสมีโรมมิ่งอยู่
ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ ลูกค้าที่ใช้บริการผ่าน Symbian และ windows สามารถใช้งานอีเมลในองค์กรได้ก่อน ส่วนฟรีเมลใช้บริการได้ภายในเดือนตุลาคม ส่วน Blackberry สามารถใช้งานฟรีเมลได้ทันที โดยมีรูปแบบการให้บริการแบ่งเป็น 2 แพกเกจราคา
เอไอเอสลงทุนในส่วนอุปกรณ์เชื่อมต่อไปประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อการพัฒนาบริการใหม่นี้ โดยคาดว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าองค์กรสนใจใช้บริการนี้ประมาณ 1,000 ราย นอกจากลูกค้าองค์กรแล้ว เอไอเอสคาดว่าจะเปิดให้บริการนี้กับลูกค้าทั่วไปได้ภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรูปแบบแพกเกจการให้บริการประมาณ 5 แบบซึ่งมากกว่าแพกเกจที่ให้บริการกับลูกค้าองค์กรธุรกิจในปัจจุบัน จากฐานลูกค้าองค์กรในปัจจุบันเอไอเอสตั้งเป้าทำรายได้เพิ่มขึ้น 40% หรือที่รายได้ 7 พันล้านบาท
|
|
|
|
|