|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อ 2 ปีก่อนบริษัท แอดวานซ์ แอนด์ สมาร์ท อินโนเวชั่น จำกัด (เอเอสไอ) เปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสดภายใต้แบรนด์ "สะภากาแฟ" โดยชูจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านกาแฟสดแบรนด์อื่นด้วยเมนูล้อเลียนนักการเมือง และรสชาติที่แตกต่างคือเป็นกาแฟอาราบิก้าผสมกับกาแฟโบราณ ทำให้วันนี้ "สะภากาแฟ" สามารถอยู่ในตลาดกาแฟได้ทั้งที่สถานการณ์ตลาดกาแฟเริ่มมีการถดถอยแต่ยังคงสาขาได้ถึง 30 สาขา
มาวันนี้ "เอเอสไอ" ได้แตกไลน์แฟรนไชส์อีกตัว โดยนำนาโนเทคโนโลยีจากประเทศสิงคโปร์ภายใต้การพัฒนาของ บริษัท Equation Nanotech (Singapore) Pte Ltd.ซึ่งถูกผลิตอยู่ในรูปแบบการ์ดที่มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพโดยการ์ดดังกล่าวจะปล่อยคลื่นพลังงานฟาร์อินฟาเรดซึ่งนับเป็นคลื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เข้ามาจำหน่ายในไทย ภายใต้แบรนด์ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" ผ่านช่องทางจำหน่ายแฟรนไชส์ ไดเร็คเซลล์ และร้านขายยา
จิรยุพพงศ์ สุขสมหทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ แอนด์ สมาร์ท อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทใช้ระบบแฟรนไชส์ในการขยาย "นาโนพาวเวอร์การ์ด" เพราะบริษัทต้องการนำบทเรียนจากการทำสะภากาแฟมาใช้ในการทำ "นาโนพาวเวอร์การ์ด"นั้นคือต้องทำให้สินค้ามีความแตกต่างจากคนอื่นซึ่ง "นาโนพาวเวอร์การ์ด" ทั้งแตกต่างด้วยรูปแบบของการ์ดที่สามารถช่วยในการดูแลสุขภาพได้
นอกจากนี้ การใช้ระบบแฟรนไชส์ยังทำให้ผลิตภัณฑ์เหมือนกันทุกราย และค่อยข้างได้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งตนคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชส์ของบริษัทจนถึงสิ้นปีนี้ 100 ราย เนื่องจากหลังจากที่ออกงาน Health & Beauty ก็มีผู้ที่สนใจติดต่อมาแล้ว 50 ราย คาดว่าในไตรมาศแรกของปี 2549 จะสร้างยอดขายผ่านระบบแฟรนไชส์ 50 ล้านบาท
"ผมว่าแฟรนไชส์เหมาะสมกับคนไทยมากกว่า เราไม่ทำรูปแบบเหมือนกับสิงคโปร์และมาเลเซียคือเขาจะวางขายอยู่ตามวัตสัน บูทส์ หรือร้านประเภทนี้ แต่ตรงนี้เราทำไม่ได้เพราะการวางขายกับคนไทยต้องมีการอธิบายต้องมีการใช้ปากพูด ถ้าเราเอาไปขายวัตสันหรือบูทส์ก็จะเป็นวัตถุอะไรไม่รู้ที่ถูกวางไว้คือสินค้าดีจริงแต่ไม่มีปากพูด"
นอกจากการทำตลาดในรูปแบบแฟรนไชส์แล้วบริษัทยังคิดที่จะทำเป็นระบบไดเรคเซลล์ และจำหน่ายตามร้านขายยา พร้อมกันนี้บริษัทจะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปและหน่วยงานราชการต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทอื่นหรือผู้ที่สนใจนำเอานาโนเทคโนโลยีไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ โดยกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้จะเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 18-72 ปีขึ้นไป
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์นั้น ตนมองว่าอยู่ในทิศทางที่ดี และมีอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูง เพราะทุกวันนี้มนุษย์ทั้งโลกหันมารักสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากมนุษย์สร้างสิ่งต่างๆ เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อมาทำลายสุขภาพของตัวเอง ขณะนี้จึงต้องการที่จะสร้างเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้มีอายุยืนและยาวนานขึ้น
โดย "นาโนพาวเวอร์การ์ด" เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพให้กับมนุษย์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้นำระบบนาโนเทคโนโลยีมาใช้ในการย่อสารอินทรีย์ซึ่งสามารถปล่อยคลื่นพลังงานคือ ฟาร์อินฟาเรด ซึ่งเป็นคลื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มาบรรจุไว้ในรูปแบบของการ์ดเพื่อให้ง่ายต่อการพกพาและใช้งาน โดยจะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น, ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ภายในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ
ในช่วงแรกบริษัทจะนำเข้าการ์ดทั้งหมด 4 ชนิดคือ การ์ดสำหรับช่วยเรื่องการนอนหลับ, การ์ดสำหรับเรื่องระงับกลิ่นกาย, การ์ดสำหรับช่วยเรื่องการปวดเมื่อย และการ์ดสำหรับช่วยเรื่องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ส่วนในอนาคตจะนำเข้ามาเพิ่มอีก 2 แบบคือ การ์ดสำหรับช่วยการปวดรอบเดือน และการ์ดสำหรับช่วยเพิ่มสมรรถภาพความเป็นชาย นอกจากนี้ จะมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยมีนาโนเทคโนโลยีเป็นส่วนผสม อย่าง สนับเข่า สำหรับอายุการใช้งานของการ์ดทุกประเภทสามารถใช้ได้ 5 ปี โดยบริษัทจะประกันคุณภาพ 3 ปี
ด้านการแข่งขันของ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" นั้นตนมองว่าคู่แข่งคงเป็นฟาร์อินฟาเรดที่ผลิตออกมาในรูปแบบชุดมากกว่า แต่หากเปรียบเทียบในรูปแบบเดียวกันถือว่ายังไม่มีคู่แข่งเพราะยังไม่ใครทำออกมาในรูปแบบนี้มาก่อน ส่วนคู่แข่งที่เป็นธุรกิจสุขภาพรูปแบบแฟรนไชส์นั้นถือว่ามีแฟรนไชส์เกิดขึ้นเยอะแต่เลิกทำไปก็มี ซึ่งตนไม่ได้คิดที่จะสู้กับใครแต่เชื่อว่าแฟรนไชส์ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" สามารถไปได้ดีถ้าเทียบกับการเปิดแฟรนไชส์สุขภาพอย่างอื่น
'นาโนพาวเวอร์การ์ด' แฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย
1.ลงทุน 16,000 บาทได้การ์ดประมาณ 10 ใบ ได้ป้ายและตู้ในการโชว์สินค้า
2.ถ้า 1 เดือนไม่ประสบความสำเร็จในการขายบริษัทจะเข้าไปช่วยเหลือก่อน หากยังไม่ประสบความสำเร็จภายใน 3 เดือนสามารถเลิกกิจการและนำสินค้ามาขายคืนบริษัทได้
3.รับประกันคืนทุนภายใน 1 เดือน
4.แฟรนไชซีทุกคนจะได้รับการอบรมเรื่องนาโนเทคโนโลยี และได้รับการอบรมในเรื่องการขาย
5.แฟรนไชซีจะต้องเป็นคนที่สนใจในตัวการ์ด หรือเป็นคนที่เคยซื้อการ์ดไปใช้แล้วได้ผล และต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
6.ต้องมีความตั้งใจ และขยัน
7.ต้องมีพื้นที่ในการเปิดร้านหรือบูธในรูปแบบการจัดวางที่ใกล้เคียงกัน โดยไม่จำกัดเนื้อที่
|
|
|
|
|