|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การสร้างตำนานทางธุรกิจของโลกในระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 25 ปี ของบริษัทพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล หรือพีแอนด์จี ทีมงานการตลาดไม่ค่อยได้นึกถึงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในการจำหน่ายสินค้าในต่างสายผลิตภัณฑ์กันมากนัก
ทั้งนี้เพราะกิจกรรมทางการตลาดที่ใช้กันเป็นมาตรฐานของกิจการ ไม่ได้แตกต่างกัน สำหรับการจำหน่ายสบู่ กับน้ำยาทำความสะอาด หรือผงซักฟอก จนกระทั่งเกิดความเข้าใจว่า สินค้าที่มีในเครือนั้น น่าจะใช้เทคนิคและกิจกรรมการส่งเสริมการตลาดอย่างเดียวกันได้
แต่เมื่อสัดส่วนการขยายกิจการ และฐานรายได้ของพีแอนด์จีหันจากกลุ่มสินค้าใช้ประจำวัน ประเภทสบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก มาเป็นเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ความงาม สิ่งที่ได้ค้นพบคือ กิจกรรมทางการตลาดรวมทั้งการพัฒนาแบรนด์สินค้า จะต้องแยกออกมาต่างหากอย่างสิ้นเชิงจากสินค้าเดิมๆ ของเครือข่าย
การตลาดของผลิตภัณฑ์ความงามในโลกสมัยใหม่นี้ ดูเหมือนว่าจะต้องหาทางตอบสนองต่อความต้องการและความเชื่อและสิ่งที่คาดหวังจะได้รับในการนำเสนอสินค้า ที่มีลักษณะเฉพาะของกลุ่มลูกค้าให้ได้
ประเด็นที่นักการตลาดของ พีแอนด์จี เห็นว่าเป็นประเด็นที่ยากลำบากในทางการตลาด มีหลายประการ แต่ที่สำคัญๆ ได้แก่ ประการแรก ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ความงามของพีแอนด์จี ไม่ได้จำกัดเฉพาะช่วงอายุ แต่ครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้าที่อายุ 12 ปี ซึ่งนักการตลาดในอดีตของพีแอนด์จีไม่เคยให้ความสนใจ เพราะเชื่อว่าอายุน้อยเกินกว่าจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงความงาม ขณะที่ลูกค้าบางรายก็มีอายุมากถึง 80 ปี ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ความงามไม่ว่ายี่ห้อใด ไม่อาจจะชะลอความเหี่ยวย่นได้ แม้แต่น้อย และน่าจะทำใจได้ และเลิกคิดจะใช้ผลิตภัณฑ์ความงามไปแล้ว
ประการที่สอง ทัศนคติของลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ความงาม แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการใช้สินค้าประจำวัน อย่างสบู่ ผงซักฟอก เพราะผลิตภัณฑ์ความงามเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจของสาวๆ ที่ใช้อยู่ด้วย
แต่การที่จะทำสินค้า และภาพลักษณ์ให้สอดคล้องกับความภาคภูมิใจที่เป็นระดับสูงของลูกค้าที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย ด้วยความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อส่วนบุคคล ว่าความงามของหญิงสาวมีลักษณะเฉพาะเช่นใด
ดังนั้น การออกแบบตั้งแต่หีบห่อของผลิตภัณฑ์ความงามที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ที่จะจำหน่ายได้ในทุกตลาดความงามทั่วโลก โดยใช้แบบที่มีเอกลักษณ์อย่างเดียวกันทั้งหมด จะต้องได้รับการเอาใจใส่ และการตัดสินใจอย่างรอบคอบ เช่นเดียวกับการพัฒนากลยุทธ์การสร้างแบรนด์ พีแอนด์จี บิวตี้
การวิจัยเพื่อการพัฒนาแบรนด์ความงาม ผ่านการว่าจ้างทีมงานจากภายนอกกิจการและทีมงานประสานงานอีกนับร้อยคน เพื่อให้ได้แนวคิดที่อิสระอย่างแท้จริง ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง รวมทั้งความภูมิใจของลูกค้าในแต่ละตลาด ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ความงามที่ยอมรับและยินดีจะจ่ายเงินไม่อั้นเพื่อซื้อหาไปใช้ ตั้งแต่ขวดหรือตลับบรรจุ ขนาดเล็กหรือใหญ่ที่จะพอดี เทคโนโลยีของหีบห่อที่ต้องโฉบเฉี่ยวและหรูขนาดไหน ไปจนถึงการออกแบบกราฟิกดีไซน์บนหีบห่อ
ผลิตภัณฑ์ความงาม ที่สำคัญในกลุ่มของพีแอนด์จี ได้แก่ ออย ออฟ โอเลย์ แบรนด์คลาสิก ที่เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในทางการตลาดทั่วโลก กว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ในส่วนของแบรนด์ แคลรอล ไนซ์ แอนด์ อีซี่ หรือแบรนด์แพนทีน ผลิตภัณฑ์ความงามเส้นผม ก็มีทีมงานของความงามไม่ต่ำกว่า 80 คน ที่ดูแลด้านหีบห่อและภาพลักษณ์ของสิ่งที่เผชิญหน้ากับสายตาของลูกค้าเป้าหมายตามชั้นวางสินค้า โดยการทำงานในส่วนนี้ต่อเนื่องมากกว่า 50 ปีแล้ว
โดยเฉลี่ยแล้ว ทีมงานด้านการออกแบบหีบห่อของผลิตภัณฑ์ความงาม ของกลุ่มพีแอนด์จี ทั่วโลกได้เติบโตขึ้นตามลำดับ จนมีสัดส่วนราว 25% ของพนักงานการตลาดทั้งหมดแล้ว
ประสบการณ์ทางด้านอารมณ์ เป็นหนึ่งในโจทย์ทางการตลาด ที่ออกจะยากที่สุดในการดำเนินงานออกแบบของทีมงานของ พีแอนด์จี ไม่ใช่แค่เพียงการใช้สีแดง หรือ เขียว หรือบอกส่วนประสมที่เป็นธรรมชาติ จะทำให้เกิดความรู้สึกในการยอมรับของลูกค้าได้ว่า ผลิตภัณฑ์ความงามพีแอนด์จี นี่แหละใช่เลย
การออกแบบเชิงโครงสร้าง เป็นกลยุทธ์ที่ พีแอนด์จี ตั้งใจจะนำไปใช้ในการช่วยให้บริษัทสร้างความสัมพันธ์ ความสอดคล้องกันอย่างกลมกลืน ลื่นไหล และเชื่อมโยงไปถึงลูกค้าได้อย่างยั่งยืน และอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าตลาดดูแลผิวพรรณทั่วไป และแตกต่างออกไปจากคู่แข่งขัน
|
|
|
|
|