โซนี่ชูคอนเซ็ปต์ Be Connected-Touch A New Sound.กระตุ้นตลาดเครื่องเสียง ด้วยการสร้างฟีเจอร์ให้สามารถต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์และเครื่องเล่น MP 3 ได้โดยตรง หวังขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาด MP 3 หลังจากแนวโน้มตลาดเครื่องเสียงยังคงตกอย่างต่อเนื่องในขณะที่ตลาดเครื่องเล่น MP 3 มีการเติบโตเป็นเท่าตัว
จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องเสียงที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ โดยในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องเสียงมีมูลค่ากว่า 4,816 ล้านบาท (435,000 เครื่อง) ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดจะมีมูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท (426,000 เครื่อง) และจะลดเหลือเพียง 3,780 ล้านบาท (413,220 เครื่อง) ในปี 2549 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ตลาดเริ่มอิ่มตัว หลายบ้านต่างก็มีเครื่องเสียงกันหมด ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่อยู่กับคอมพิวเตอร์มากขึ้นจึงนิยมที่จะฟังเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการมีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น MP 3 หรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถฟังเพลงได้ นอกจากนี้ยังมีการแย่งตลาดข้ามเซกเมนท์ในตลาดเครื่องเสียงเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงแบ่งออกได้ 3 เซกเมนท์หลักคือ มินิ ซิสเท็มส์ หรือชุดเครื่องเสียงที่มีหน้ากว้าง 30 เซนติเมตรขึ้นไป (ไม่นับพื้นที่ลำโพง) มีราคาประมาณ 10,000-25,000 บาท มีสัดส่วนประมาณ 53% ของตลาดเครื่องเสียง รองลงมาคือไมโคร ซิสเท็มส์ หรือชุดเครื่องเสียงที่มีหน้ากว้างต่ำกว่า 30 เซนติเมตร ราคาต่ำกว่า 10,000 บาท มีสัดส่วนในตลาดเครื่องเสียงประมาณ 33% และสุดท้ายเป็นชุดโฮมเธียเตอร์หรือเครื่องเสียงชุดใหญ่ที่มีลำโพง 5 ตัวขึ้นไป มีราคา 15,000-20,000 บาท มีสัดส่วนในตลาด 14%
แม้ตลาดมินิ ซิสเท็มส์จะมีสัดส่วนที่มากที่สุดในตลาดเครื่องเสียง แต่แนวโน้มการเติบโตกลับลดลง ในขณะที่ไมโคร ซิสเท็มส์และโฮมเธียเตอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่า โดยไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของตลาดมินิ ซิสเท็มส์ จะเป็นผู้บริโภคที่ชอบกำลังขับสูง เน้นเสียงเบส ส่วนตลาดไมโคร ซิสเท็มส์ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ในเมืองที่ต้องการความกะทัดรัดของสินค้า สำหรับโฮมเธียเตอร์จะเป็นลูกค้าครอบครัวที่ต้องการความบันเทิงในบ้านที่ครบเครื่อง
อย่างไรก็ดีโอกาสที่เครื่องเสียงจะแย่งตลาดข้ามเซกเมนท์ยังถือว่ามีน้อยเมื่อเทียบกับการเข้ามาชิงตลาดของบรรดาสินค้าไอทีโดยเฉพาะตลาดเครื่องเล่น MP 3 ที่คาดว่าปีนี้จะมีผู้ใช้มากกว่า 400,000 เครื่องเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 250,000 เครื่อง ดังนั้นโซนี่ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องเสียงมินิ ซิสเท็มส์ทีมีส่วนแบ่งในเซกเมนท์กว่า 50-60% จึงพยายามที่จะทำการ Cross Category ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ของเครื่องเสียงมินิ ซิสเท็มส์รุ่นใหม่ให้สามารถตอบสนองการใช้งานของเครื่องเล่น MP 3 ได้มากกว่าที่เป็นอยู่โดยการสร้าง USB Slot เพื่อให้ผู้ที่ใช้เครื่องเล่น MP 3 สามารถนำ MP 3 มาต่อเข้ากับเครื่องเสียงของโซนี่รุ่นใหม่ได้ทันที ทำให้สามารถฟัง MP 3 ผ่านลำโพง พร้อมกับปรับแต่งคุณภาพเสียงได้ดีกว่า รวมไปถึงเพลงที่บันทึกผ่าน USB ก็สามารถนำมาต่อเข้ากับเครื่องเสียงโซนี่ได้โดยตรง
Be Connected-Touch A New Sound เป็นคอนเซ็ปต์ที่โซนี่ใช้ในการทำตลาดเครื่องเสียงโดยชูจุดเด่น 3 ข้อคือ 1) Sleek, Cool Design การออกแบบสินค้าที่มีระบบจอสัมผัส การวางช่องใส่ซีดีในแนวตั้งทำให้ลดความกว้างของตัวเครื่อง และการใช้อลูมิเนียมในการทำซัปวูฟเฟอร์ 2) PC/USB Connection การเชื่อมต่อผ่านขั้ว USB ทำให้สะดวกในการอ่านข้อมูลจากเครื่องมือไอที คอมพิวเตอร์ MP3 และอื่นๆ 3) Best Quality คุณภาพเสียงที่ดี สามารถขยายเสียงได้เท่าแอมพลิฟายเออร์ตัวใหญ่โดยใช้เทคโนโลยี S-Master Digital
โซนี่ได้ส่งเครื่องเสียง มินิ ซิสเท็มส์ ซีรี่ส์ AZ ซึ่งมีฟีเจอร์ต่อเชื่อมกับ USB เข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้โดยมี 2 รุ่นคือ DHC-AZ3DM (ลำโพง 2 ตัว) ราคา 15,990 และ DHC-AZ7DM (ลำโพง 5 ตัว) ราคา 21,990 บาท ผ่านร้านค้าที่เป็นดีลเลอร์กว่า 400 ราย รวมถึงร้านค้าไอทีเพื่อที่จะเข้าถึงผู้ใช้เครื่องเล่น MP 3 ที่มีอายุระหว่าง 23-36 ปี ทั้งชายและหญิง โดยจะมีทั้งการทำโฆษณาทีวีและกิจกรรมการตลาด On Ground Activity ตามชอปปิ้ง มอลล์ต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงนวัตกรรมใหม่ของโซนี่
อย่างไรก็ดีในขณะที่โซนี่พยายามที่จะปลุกตลาดมินิ ซิสเท็มส์ให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง บรรดาผู้นำในตลาด ไมโคร ซิสเท็มส์ และโฮมเธียเตอร์ ก็พยายามที่จะผลักดันเซกเมนท์เครื่องเสียงของตัวเองให้มีสัดส่วนแซงหน้ามินิ ซิสเท็มส์ อย่างไพโอเนียร์ก็มีการย้ายฐานการผลิตสินค้าหมวดเครื่องเสียงไปอยู่ที่มาเลเซียเพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้าทำให้สามารถหั่นราคาสู้กับคู่แข่งได้ในระดับหนึ่ง ล่าสุดแอลจีก็มีการเปิดตัว โฮมเธียเตอร์ชุดใหม่ คือ LH-T750 ซึ่งสามารถใช้ USB หรือ MP 3 ต่อเชื่อมเข้ากับชุดโฮมเธียเตอร์ได้โดยตรง ทั้งนี้แอลจียังมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่ออกมาอีกหลายรายการเพื่อชิงความเป็นผู้นำตลาดเครื่องเสียงในเมืองไทย หลังจากสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องเสียงในระดับโลก
|