Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์22 กันยายน 2548
โซนี่เกาะกระแส MP 3 ปลุกตลาดเครื่องเสียง             
 

 
Charts & Figures

การเติบโตของตลาดเครื่องเสียง


   
search resources

โซนี่ ไทย, บจก.
Electric




โซนี่ชูคอนเซ็ปต์ Be Connected-Touch A New Sound.กระตุ้นตลาดเครื่องเสียง ด้วยการสร้างฟีเจอร์ให้สามารถต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์และเครื่องเล่น MP 3 ได้โดยตรง หวังขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาด MP 3 หลังจากแนวโน้มตลาดเครื่องเสียงยังคงตกอย่างต่อเนื่องในขณะที่ตลาดเครื่องเล่น MP 3 มีการเติบโตเป็นเท่าตัว

จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องเสียงที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของมูลค่าและปริมาณ โดยในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องเสียงมีมูลค่ากว่า 4,816 ล้านบาท (435,000 เครื่อง) ซึ่งคาดว่าในปีนี้ตลาดจะมีมูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท (426,000 เครื่อง) และจะลดเหลือเพียง 3,780 ล้านบาท (413,220 เครื่อง) ในปี 2549 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ตลาดเริ่มอิ่มตัว หลายบ้านต่างก็มีเครื่องเสียงกันหมด ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่อยู่กับคอมพิวเตอร์มากขึ้นจึงนิยมที่จะฟังเพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการมีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น MP 3 หรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถฟังเพลงได้ นอกจากนี้ยังมีการแย่งตลาดข้ามเซกเมนท์ในตลาดเครื่องเสียงเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงแบ่งออกได้ 3 เซกเมนท์หลักคือ มินิ ซิสเท็มส์ หรือชุดเครื่องเสียงที่มีหน้ากว้าง 30 เซนติเมตรขึ้นไป (ไม่นับพื้นที่ลำโพง) มีราคาประมาณ 10,000-25,000 บาท มีสัดส่วนประมาณ 53% ของตลาดเครื่องเสียง รองลงมาคือไมโคร ซิสเท็มส์ หรือชุดเครื่องเสียงที่มีหน้ากว้างต่ำกว่า 30 เซนติเมตร ราคาต่ำกว่า 10,000 บาท มีสัดส่วนในตลาดเครื่องเสียงประมาณ 33% และสุดท้ายเป็นชุดโฮมเธียเตอร์หรือเครื่องเสียงชุดใหญ่ที่มีลำโพง 5 ตัวขึ้นไป มีราคา 15,000-20,000 บาท มีสัดส่วนในตลาด 14%

แม้ตลาดมินิ ซิสเท็มส์จะมีสัดส่วนที่มากที่สุดในตลาดเครื่องเสียง แต่แนวโน้มการเติบโตกลับลดลง ในขณะที่ไมโคร ซิสเท็มส์และโฮมเธียเตอร์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่า โดยไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของตลาดมินิ ซิสเท็มส์ จะเป็นผู้บริโภคที่ชอบกำลังขับสูง เน้นเสียงเบส ส่วนตลาดไมโคร ซิสเท็มส์ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ในเมืองที่ต้องการความกะทัดรัดของสินค้า สำหรับโฮมเธียเตอร์จะเป็นลูกค้าครอบครัวที่ต้องการความบันเทิงในบ้านที่ครบเครื่อง

อย่างไรก็ดีโอกาสที่เครื่องเสียงจะแย่งตลาดข้ามเซกเมนท์ยังถือว่ามีน้อยเมื่อเทียบกับการเข้ามาชิงตลาดของบรรดาสินค้าไอทีโดยเฉพาะตลาดเครื่องเล่น MP 3 ที่คาดว่าปีนี้จะมีผู้ใช้มากกว่า 400,000 เครื่องเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 250,000 เครื่อง ดังนั้นโซนี่ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องเสียงมินิ ซิสเท็มส์ทีมีส่วนแบ่งในเซกเมนท์กว่า 50-60% จึงพยายามที่จะทำการ Cross Category ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ของเครื่องเสียงมินิ ซิสเท็มส์รุ่นใหม่ให้สามารถตอบสนองการใช้งานของเครื่องเล่น MP 3 ได้มากกว่าที่เป็นอยู่โดยการสร้าง USB Slot เพื่อให้ผู้ที่ใช้เครื่องเล่น MP 3 สามารถนำ MP 3 มาต่อเข้ากับเครื่องเสียงของโซนี่รุ่นใหม่ได้ทันที ทำให้สามารถฟัง MP 3 ผ่านลำโพง พร้อมกับปรับแต่งคุณภาพเสียงได้ดีกว่า รวมไปถึงเพลงที่บันทึกผ่าน USB ก็สามารถนำมาต่อเข้ากับเครื่องเสียงโซนี่ได้โดยตรง

Be Connected-Touch A New Sound เป็นคอนเซ็ปต์ที่โซนี่ใช้ในการทำตลาดเครื่องเสียงโดยชูจุดเด่น 3 ข้อคือ 1) Sleek, Cool Design การออกแบบสินค้าที่มีระบบจอสัมผัส การวางช่องใส่ซีดีในแนวตั้งทำให้ลดความกว้างของตัวเครื่อง และการใช้อลูมิเนียมในการทำซัปวูฟเฟอร์ 2) PC/USB Connection การเชื่อมต่อผ่านขั้ว USB ทำให้สะดวกในการอ่านข้อมูลจากเครื่องมือไอที คอมพิวเตอร์ MP3 และอื่นๆ 3) Best Quality คุณภาพเสียงที่ดี สามารถขยายเสียงได้เท่าแอมพลิฟายเออร์ตัวใหญ่โดยใช้เทคโนโลยี S-Master Digital

โซนี่ได้ส่งเครื่องเสียง มินิ ซิสเท็มส์ ซีรี่ส์ AZ ซึ่งมีฟีเจอร์ต่อเชื่อมกับ USB เข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้โดยมี 2 รุ่นคือ DHC-AZ3DM (ลำโพง 2 ตัว) ราคา 15,990 และ DHC-AZ7DM (ลำโพง 5 ตัว) ราคา 21,990 บาท ผ่านร้านค้าที่เป็นดีลเลอร์กว่า 400 ราย รวมถึงร้านค้าไอทีเพื่อที่จะเข้าถึงผู้ใช้เครื่องเล่น MP 3 ที่มีอายุระหว่าง 23-36 ปี ทั้งชายและหญิง โดยจะมีทั้งการทำโฆษณาทีวีและกิจกรรมการตลาด On Ground Activity ตามชอปปิ้ง มอลล์ต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงนวัตกรรมใหม่ของโซนี่

อย่างไรก็ดีในขณะที่โซนี่พยายามที่จะปลุกตลาดมินิ ซิสเท็มส์ให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง บรรดาผู้นำในตลาด ไมโคร ซิสเท็มส์ และโฮมเธียเตอร์ ก็พยายามที่จะผลักดันเซกเมนท์เครื่องเสียงของตัวเองให้มีสัดส่วนแซงหน้ามินิ ซิสเท็มส์ อย่างไพโอเนียร์ก็มีการย้ายฐานการผลิตสินค้าหมวดเครื่องเสียงไปอยู่ที่มาเลเซียเพื่อลดต้นทุนการผลิตสินค้าทำให้สามารถหั่นราคาสู้กับคู่แข่งได้ในระดับหนึ่ง ล่าสุดแอลจีก็มีการเปิดตัว โฮมเธียเตอร์ชุดใหม่ คือ LH-T750 ซึ่งสามารถใช้ USB หรือ MP 3 ต่อเชื่อมเข้ากับชุดโฮมเธียเตอร์ได้โดยตรง ทั้งนี้แอลจียังมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่ออกมาอีกหลายรายการเพื่อชิงความเป็นผู้นำตลาดเครื่องเสียงในเมืองไทย หลังจากสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดเครื่องเสียงในระดับโลก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us