เอไอเอเตรียมปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน จากปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ต่อปีเป็น 6.25 – 6.5% ต่อปี ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป

นายอนุชา เหล่าขวัญสถิตย์ รองประธานฝ่ายการลงทุน บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินเพิ่มสูงขึ้นเร็วมาก ดังจะเห็นได้จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) เมื่อ 7 กันยายนที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% นาน 25 ปีไว้ได้ ดังนั้น ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ บริษัทจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านอีกประมาณ 0.25-0.5% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะเพิ่มเป็น 6.25-6.5% ต่อปี

ทั้งนี้ เอไอเอให้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อหรือไถ่ถอนบ้านพร้อมที่ดินที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ในวงเงินกู้ประมาณ 80- 85% ของราคาประเมิน โดยมีระยะเวลาการผ่อนชำระนาน 5-25 ปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยคงที่นี้จะช่วยให้ผู้กู้ทราบจำนวนเงินในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนที่แน่นอน และยังลดความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

“อัตราดอกเบี้ยของตลาดเงินมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในระหว่างตัดสินใจกู้เพื่อซื้อหรือไถ่ถอนที่อยู่อาศัยจึงไม่ควรพิจารณาเฉพาะอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ได้รับในช่วงระยะสั้นเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงความสามารถในการผ่อนชำระในอนาคตด้วย เพราะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะเป็นสัญญาระยะยาว หากเราไม่สามารถบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว อาจส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้เสียตามมาได้”

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น บริษัทก็ได้จัดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว MLR – 1.5% ในช่วง 2 ปีแรก และ MLR – 0.5% ในปีที่ 3 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญากู้นำเสนอแก่ลูกค้าด้วย โดยเอไอเอให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนี้แก่ลูกค้าทั่วไป ไม่เฉพาะแต่ผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอเท่านั้น ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยจากแบบลอยตัวเป็นแบบคงที่ หรือในทางกลับกัน ก็สามารถขอเปลี่ยน แปลงจากอัตราดอกเบี้ยคงที่เป็นแบบลอยตัวได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้”

ทั้งนี้ เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 66 ปี ณ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 262,610 ล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย 191,244 ล้านบาท มีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับมากกว่า 3.8 ล้านฉบับ นอกจากธุรกิจประกันชีวิตและประกันกลุ่มแล้ว บริษัทยังให้บริการประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ ประกันสินเชื่อ โครงการออมทรัพย์รายเดือน สินเชื่อเคหะ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ