“ไฮเนเก้น” เจียดงบ 50 ล้านบาท ระเบิดศึกลานเบียร์เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา อุบไต๋ขนโชว์-กิจกรรมมาเพียบ หวังสร้างภาพลักษณ์เบียร์พรีเมียมสกัดสิงห์เบียด อวดยอดขายม.ค.-ก.ค.โตตามเป้า 5% สิ้นปีรายได้พุ่ง 8,000 ล้านบาท

นายปิย สมุทรโครจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้นและไทเกอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 40-50 ล้านบาท เพื่อจัดเทศกาลลานเบียร์ไฮเนเก้นในช่วงกลางเดือนพ.ย.นี้ บนพื้นที่ 800 ตร.ม. บริเวณลานด้านหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา โดยมีพื้นที่จัดงานเท่าเดิม แต่ภายนอกอาจดูเล็กลง เพราะมีตัวกั้นซึ่งเป็นบริเวณก่อสร้างหรือปรับปรุงพื้นที่ของทางห้าง

“จุดเด่นของลานเบียร์บริเวณดังกล่าว บริษัทจะทำให้ตื่นตาตื่นใจกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยรูปแบบงานจะเน้นจัดกิจกรรมบันเทิงเชิญชวนให้ผู้บริโภคสนใจและมาชมโชว์ หรือการแสดงต่างๆ ซึ่งคาดว่าหวังว่าจะให้เป็นแหล่งพบปะสำหรับเพื่อนฝูง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมงาน”

สำหรับแผนการตลาดของไฮเนเก้นปีนี้ บริษัทได้จัดสรรงบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดไฮเนเก้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปลายปีนี้มีแผนจัดกิจกรรมต่างๆ กระตุ้นยอดขาย อาทิ เทศกาลลานเบียร์ บางกอกแจ๊ส เฟสทิวัล รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนการจัดเทศกาลรื่นเริง ลีลา เพลินตา ราชประสงค์ กับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในช่วงปลายปีด้วย ซึ่งกำลังดำเนินการด้านครีเอทีฟ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลกำหนดและควบคุมเวลาการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อว่าส่งผลกระทบกับทุกผลิตภัณฑ์พอสมควร แต่บริษัทก็พร้อมปฎิบัติตาม และจะใช้ช่วงเวลาที่โฆษณาได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนปัจจัยลบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท เนื่องจากไฮเนเก้นเป็นเบียร์ระดับพรีเมี่ยม และผู้ดื่มส่วนใหญ่เป็นผู้มีกำลังซื้อ ตลอดจนนิยมดื่มเพื่อสังสรรค์

ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ค.ที่ผ่านมา ไฮเนเก้นมีรายได้เติบโตเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ 5% และคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมเติบโต 5% หรือมีรายได้ 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทจะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์ระดับพรีเมี่ยมต่อไป โดยปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 94% ของตลาดระดับพรีเมี่ยม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนจากตลาดรวม 6-7%จากมูลค่าตลาดรวมเบียร์ทุกระดับ ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้หวังที่จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม เพราะปัจจุบันครองสัดส่วนที่สูงมากแล้ว แต่บริษัทต้องการรักษาความเป็นเจ้าตลาดต่อไปรวมทั้งทำการตลาดต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมตลาดเบียร์ระดับพรีเมี่ยม ไม่ได้แข่งขันกันดุเดือดมากนัก เพราะมีผู้ประกอบการน้อยราย ส่วนการที่เบียร์สิงห์ปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อให้เป็นระดับพรีเมี่ยมนั้น บริษัทไม่กังวล เพียงแต่ต้องรู้และทำการตลาดให้เข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น และไฮเนเก้นจะยังวางเป้าหมายเป็นเบียร์ระดับพรีเมี่ยม โดยเน้นจับกลุ่มเป้าหมายวัยเริ่มทำงานระดับบีถึงเออายุ 21-29 ปี