ลอรีอัลเห็นช่องว่างตลาดแมสผลิตภัณฑ์สำหรับชายไทยยังมีผู้เล่นน้อย และตลาดมีอัตราการโตสูงกว่า 25% ล่าสุดหันมารุกตลาดส่ง “ ลอรีอัล เม็น เอ็กซ์เพิร์ท” ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เปิดตัว พร้อมทุ่มงบตลาดมากกว่าปกติหรือ 50% ของยอดรายได้ หวัง1 ปีก้าวเป็นผู้นำตลาดแซงนีเวีย ฟอร์ เมน
นายฌอง-มาร์ค ออเวอร์โล ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ในตลาดไทยมานานกว่า 10 ปี และปัจจุบันผลิตภัณฑ์ลอรีอัลมีครอบคลุมทุกกลุ่ม อาทิ สกินแคร์, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม,เครื่องสำอาง เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเน้นเจาะกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก โดยสัดส่วนลูกค้าผู้หญิง คิดเป็น 80% และอีก 20% เป็นผู้ชาย แต่จากข้อมูลในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาพบว่าตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายในไทยมีอัตราการเติบโตสูงเฉลี่ยปีละ25% จากมูลค่าตลาดรวม 350 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทฯจึงเห็นช่องว่างตลาดที่ทีอัตราการโตสูงและในตลาดแมสยังมีผู้เล่นอยู่ไม่มาก อีกทั้งผู้ชายส่วนใหญ่ยังไม่พอใจสินค้าที่มีอยู่ในตลาด ล่าสุดบริษัทฯจึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ ลอรีอัล เม็น เอ็กซ์เพิร์ท” 5 รายการ ได้แก่ เจลล้างหน้า ครีมบำรุงผิวหน้า ครีมดูแลผิวรอบดวงตา เจลบำรุงผิวหน้า และครีมเจลบำรุงผิวหน้า ในระดับราคา 199-439 บาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายอายุ 18-50 ปี
“ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่นี้ ขณะที่ประเทศอื่น เช่น อเมริกา,ฝรั่งเศส ฯลฯได้เปิดตัวไปแล้ว โดยพบว่าหลังเปิดตัวภายใน 3 เดือนยอดขายเม็น เอ็กซ์เพิร์ทก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ขณะที่ไทยบริษัทฯตั้งเป้าว่าภายใน 1 ปีจะเป็นผู้นำตลาดนี้ให้ได้ ภายใต้ส่วนแบ่งการตลาด 25% เพราะมั่นใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการทำการตลาด”
การที่บริษัทฯต้องการก้าวเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายแทนผู้นำเดิม คือ นีเวีย ฟอร์เม็นที่มีส่วนแบ่ง 49.6% รองมาเป็นทรอส 19.9% และบีโอเร 17.9% บริษัทฯจึงต้องทุ่มงบทางการตลาด 50% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งถือว่ามากกว่างบปกติที่จะใช้เพียง 30% ของยอดรายได้ โดยจะเน้นการจัดกิจกรรม ณ จุดขายหรือโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชายให้ได้ ปีหน้าบริษัทฯยังเตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์เมน เอ็กซ์เพิร์ทอีก 2-4 รายการ โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าที่แก้ปัญหาผิวพรรณเฉพาะที่มากขึ้น ทั้งนี้จากการรุกตลาดผู้ชายครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ภาพรวมบริษัทฯจะมีลูกค้าผู้ชายเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20%
ส่วนช่องทางการขายปัจจุบันมีครอบคลุมกว่า 1,200 ร้านค้า โดยมีทั้งโมเดิร์นเทรด,ไฮเปอร์มาร์เก็ต,ร้านขายยา และเจเนอรัล เทรด เป็นต้น สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 1,000 ล้านบาทหรือเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 18-20% โดยรายได้แบ่งเป็นกลุ่มบำรุงผิว สัดส่วน 60% กลุ่มผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม 25% กลุ่มเครื่องสำอาง 5-8% และอื่นๆ 10% ทั้งนี้ในส่วนยอดขาย 8 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายบริษัทฯโต 20% ซึ่งปัจจัยลบทางเศรษฐกิจนั้นไม่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคของลอรีอัล เนื่องจากสินค้ามีราคาระดับกลางและไม่เกิน 500 บาท
|