"รัฐบาลโอมาน" ไฟเขียว ปตท.สผ. สำรวจน้ำมันดิบเพิ่มอีก 5 แปลง พร้อมร่วมทุนสำรวจในประเทศที่สาม หลังเจรจากับรัฐบาลไทยลงตัว ขณะที่สองประเทศเตรียมลงขันตั้งแมตชิง ฟันด์ 1 หมื่นล้านบาท

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือข้อราชการเต็มคณะระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับ H.H.Sayyid Fahd bin Mohmoud Ai-Said รองนายกรัฐมนตรีแห่งรัฐสุลต่านโอมานว่า ความร่วมมือด้านพลังงานที่ผ่านมาโอมานส่งออกน้ำมันมายังประเทศไทย เป็นสินค้าหลัก และปัจจุบันปรารถนาที่จะส่งออกสินค้าอื่นด้วย และที่ผ่านมาทางบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) หรือ PTTEP ได้เข้าไปสำรวจแหล่งน้ำมันในโอมาน ซึ่งต่อไปคงจะมีความ ร่วมมือที่ดีต่อกัน

รัฐบาลโอมาน ยืนยันให้ประเทศไทยเข้าไปสำรวจแปลงน้ำมันดิบในโอมานอีก 5 แห่ง ซึ่งเป็นแปลง ใหม่ทั้งหมด โดย ปตท.สผ.ก็จะเข้าไป สำรวจทั้งแก๊ซและน้ำมันดิบ หลังจากที่โอมานได้มอบแปลงขุดเจาะให้ไทยไปก่อนหน้านี้ 1 แห่ง และในอนาคตไทยและโอมาน ก็มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนสำรวจน้ำมันดิบในประเทศที่ 3 ต่อไปด้วย

โดยไทยหวังว่าจะมีความร่วมมือใกล้ชิดกับโอมานมากขึ้นในด้านของ พลังงาน หลังจากที่ร่วมมือกันในหลายด้านมาแล้ว ทั้งด้านวิชาการ การ ท่องเที่ยว เกษตรกรรม ประมง เป็นต้น และการที่ประเทศไทยได้ดำเนินโครงการความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) โดยเฉพาะการเริ่มต้นตลาดพันธบัตรเอเชียหรือเอเชียบอนด์ จึงต้องการจะเชิญ รมว.คลังของโอมานมา ร่วมประชุมคอนเฟอเรนซ์ของรัฐมนตรีคลังในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในเร็วๆนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนทางโอมานร่วมมือกับประเทศไทยในการตั้งกองทุนร่วม (แมตชิงฟันด์)ด้วย

สำหรับกองทุนดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกันคนละครึ่งโดยเบื้องต้นมีการเสนอให้ตั้งกองทุนในวงเงิน 1 หมื่น ล้านบาท ออกค่าใช้จ่ายประเทศละ 5 พันล้านบาท และกองทุนดังกล่าว สามารถที่จะลงทุนได้ทั้งไทยและโอมาน และในอนาคตที่จะมีการเปิดสนามบิน สุวรรณภูมิ ประเทศไทยพร้อมให้การต้อนรับสายการบินของโอมานเข้ามาร่วมบิน ซึ่งอนาคตคงจะได้มีการเจรจาการเปิดเสรีทางการบินต่อไป

ซึ่งการวางแผนการดำเนินการต่อไปของสองประเทศในเรื่องของความร่วมมือจะได้มีการตั้งให้ รมว. ต่างประเทศทั้งสองประเทศมาร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของแผนงานและระยะเวลา นอกจากนี้ก็จะมีการจัดให้ภาคเอกชนของไทยและโอมานได้พบปะหารือกันในช่วงเช้าของวันที่ 21 กันยายน เพื่อหาลู่ทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน