อีลิทตั้งสเปคตัวแทน ระบุต้องมีความพร้อม และเงินทุน หวั่นทำภาพลักษณ์อีลิท การ์ดเสีย เผยเป้า 2,000 ใบ ปีนี้อาจต้องขยายเวลาถึง ก.พ.49 เหตุ ปัญหาเรื่องแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไม่ทัน ด้านแอคทีฟ เตรียมเข้าเจรจาขอขยายเวลาขายบัตรอีลิทแบบแพกเกจเก่า ชี้ แพกเกจใหม่ทำตลาดลำบาก ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายของแอคทีฟ ต้องลงทุนสร้างระบบและทีมขายใหม่

นายโชคศิริ รอดบุญพา ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) เจ้าของและผู้บริการ บัตรอีลิท เปิดเผยว่า ทีพีซีจะให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่จะต้องประจำอยู่ในประเทศต่างๆโดยจะพิจารณาที่ความพร้อม มีเงินลงทุน และ มีออฟฟิศเป็นของตัวเอง โดยทีพีซีต้องการจะสร้างมาตรฐานของตัวแทนจำหน่ายขึ้นมาให้เป็นระดับเดียวกันในทุกประเทศ เพราะที่ผ่านมา ตัวแทนจำหน่ายคือปัญหาลำดับต้นๆของทีพีซี ทำให้ต้องเลื่อนเปิดสำนักงานตัวแทนในหลายประเทศ เช่น ที่ อังกฤษ และ เยอรมัน โดยเฉพาะอังกฤษ ที่มีปัญหาเรื่องระเบิดสถานีรถไฟใต้ดิน

สำหรับยอดจำหน่ายบัตรที่ตั้งไว้ 2,000 ใบ ในสิ้นปีนี้อาจต้องขยายเวลาไปถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2549 จึงจะครบจำนวนดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพราะการเลื่อนเปิดตัว ตัวแทนจำหน่าย ประกอบกับยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการเจรจา และการพิจารณา เช่นการขายแบบบิ๊กล๊อต หรือขายจำนวนมาก ให้กับลูกค้าประเภทองค์กร ซึ่งตรงนี้อาจต้องมีการพิจารณาเปิดเป็นบัตรอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้

ปัจจุบัน ทีพีซี มียอดจำหน่ายบัตรอีลิททั้งสิ้นรวม 1,050 ใบ ซึ่ง 50% เป็นยอดขายที่มาจากบริษัท แอคทีฟ โดยไตรมาส 4 มีแผนที่จะออกโรดโชว์อีก 3-4 ประเทศ ที่ อังกฤษ และยุโรป ส่วนเอเชีย จะโรดโชว์ที่ ญี่ปุ่น และไต้หวัน

อ้างบัตรใหม่ขายยากแอคทีฟขอยืดเวลา

นางสุนทรี จันทร์ประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอคทีฟ จำกัด (AKTIV) ตัวแทนจำหน่าย อีลิท การ์ด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแนวคิดที่จะเสนอต่อ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี)ให้ขยายเวลาการจำหน่ายบัตรอีลิท ในแพกเกจเดิมที่จะต้องเลิกขายภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะปรับเป็น 3 แพกเกจ ออกไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เวลากับบริษัทฯได้เตรียมตัวในเรื่องของการสร้างระบบและทีมขายแบบใหม่ ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแอคทีฟส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน เนื่องจาก แอคทีฟ มีธุรกิจวานิชธนกิจ หรือเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนด้วย ดังนั้นจึงมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้จำนวนมาก ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกอีลิท การ์ด ส่วนใหญ่จึงใช้บริการเพียงการต้อนรับที่สนามบิน และ การบริการด้านการติดต่อเรื่องการลงทุน ไม่ค่อยได้ใช้บริการสปา กอล์ฟ หรือประมาณ 70% ของลูกค้าเราที่ไม่เคยใช้บริการ สปา หรือกอล์ฟเลย ดังนั้นหากซื้อบัตรอีลิท แล้วต้องจ่ายค่าฟีรายปีอีกทุกปี ลูกค้าคงชะลอการตัดสินใจซื้อ เพราะดูเป็นภาระและหากต้องการซื้อไว้เพื่อต้องการลงทุนในอนาคต ก็คงไม่คุ้มค่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อทีพีซี ต้องการให้จำหน่ายบัตรอีกลิท ใน 3 แพกเกจใหม่ หลังปรับปรุงแล้ว คือ อีลิท โมเมนท์ อีลิท ลีฟวิ่ง และ อีลิท คอนเนค เพื่อเจาะลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมายและพฤติกรรมการใช้บริการ แอคทีฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ตัวแทนจำหน่ายก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ต้องขอเวลาเพื่อที่จะสร้างทีมขาย และ ระบบการขายใหม่ ให้คล่องตัวขึ้น รวมถึงต้องใช้เงินในการวางระบบการจัดจำหน่ายด้วย ซึ่งบัตรอีลิทในแพกเกจเดิม บริษัทได้ลงทุนติดตั้งระบบการขายไปถึง 40-50 ล้านบาท

ปัจจุบัน แอคทีฟ มียอดจำหน่ายบัตรอีลิทแล้ว 563 ใบ เป็นบัตรในรูปแบบเก่าทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ จะมียอดขายเข้ามาอีกจำนวนมาก เพราะ การปรับปรุงระบบการจัดการ และการตลาดของ ทีพีซี ทำให้บัตรอีลิท เป็นที่รู้จักของต่างชาติมากขึ้น ลูกค้าเกิดความมั่นใจ และตัดสินใจซื้อ ขณะเดียวกัน เน็คเวิร์ด ที่แอคทีฟได้ติดตั้งไว้ ก็เริ่มเห็นผล