Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 กันยายน 2548
"สุริยะ"ไฟเขียวโซวกังตั้งโรงถลุงลุ้นร่วมทุนSSIดันไทยศูนย์กลาง             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงอุตสาหกรรม

   
search resources

กระทรวงอุตสาหกรรม
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
Metal and Steel




นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัทโซวกัง อาซี(ประเทศไทย) จำกัดซึ่งเป็นบริษัทเหล็กของจีนอีกหนึ่งแห่งที่จะเดินทางมาพร้อมคณะนักธุรกิจจีนเพื่อประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีนระหว่าง 21-23 ก.ย.นี้ ได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกิจการโรงถลุงเหล็กครบวงจรมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ว่า เรื่องดังกล่าวกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้บีโอไอไปศึกษารายละเอียดแล้ว โดยนโยบายของรัฐบาลยืนยันที่จะไม่ปิดกั้นการลงทุนสำหรับกิจการโรงถลุงเหล็กที่เป็นการลงทุนในกิจการต้นน้ำแต่อย่างใด

" ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามการแข่งขันเราก็จะให้ตามสิทธิประโยชน์ที่บีโอไอให้แก่กิจการโรงถลุงซึ่งก็คงจะเท่ากับสหวิริยา ซึ่งเรื่องนี้ทางสหวิริยาก็รู้อยู่แล้ว ส่วนหลายคนมองว่าพื้นที่ที่เขาไปลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่น่าจะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมนั้นผมคิดว่าถ้าเขาไม่คิดว่าคุ้มทุนเขาคงไม่กล้ามาลงทุนแน่ แต่รายละเอียดยังไม่ทราบชัด และการที่เขาจะเลือกไปร่วมลงทุนกับสหวิริยาแทนซึ่งมีแผนลงทุน 15 ปีถึง 5 แสนล้านบาทหรือไม่เป็นเรื่องทางธุรกิจของเอกชนที่จะไปหารือกันเองรัฐบาลคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว"นายสุริยะกล่าว

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ทางบีโอไอได้แจ้งเรื่องดังกล่าวมายังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วซึ่งได้มอบให้ทุกฝ่ายไปศึกษาถึงแผนการลงทุนดังกล่าวที่แน่นอนเนื่องจากรายละเอียดของแผนการลงทุนของบริษัทโซวกังฯ ยังไม่ค่อยแน่ชัด อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วเห็นว่าไทยนั้นเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนอุตสาหกรรมเหล็กในภูมิภาคเนื่องจากมีภูมิศาสตร์ที่ใกล้กับแหล่งแร่ที่จะเป็นวัตถุดิบในการถลุงเหล็กคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อเทียบกับการขนสินแร่ไปยังจีนโดยตรงก็จะมีต้นทุนที่สูงกว่า ไม่เพียงเท่านั้นออสเตรเลียก็ยังมีแหล่งถ่านหินที่จะนำมาเป็นเชื้อเพลิงได้ดีอีกด้วย

"ส่วนตัวผมแล้วหากโซวกังฯ ร่วมทุนกับสหวิริยาเพื่อทำเหล็กครบวงจรได้ก็จะดีมากๆ เพราะจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเหล็กได้ง่ายขึ้นเพราะจีนเองเวลานี้มีเทคโนโลยีที่ดีและต้นทุนต่ำ ส่วนไทยก็ใกล้แหล่งสินแร่และถ่านหิน ที่สำคัญท่าเรือของสหวิริยาก็รองรับการขนส่งสินค้าเหล็กได้ดี เมื่อเทียบกับที่นิคมฯมาบตาพุดหรือแหลมฉบังที่พื้นที่จำกัดและท่าเรือไม่สามารถรองรับกิจการเหล็กเป็นการเฉพาะได้ดีเท่าใดนัก"นายจักรมณฑ์กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากผลการศึกษาเบื้องต้นยอมรับว่ารายละเอียดที่ทางโซวกังฯเสนอมานั้นยังไม่มีการระบุชัดเจน ซึ่งหากโรงถลุงของโซวกังฯตั้งที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดตามที่แจ้งมาจริงและมีโรงเหล็กรีดร้อนและรีดเย็นพร้อมกันด้วยก็จะทำให้การลงทุนจะคุ้มค่ากว่าการตั้งโรงถลุงเพียงอย่างเดียวเพราะในส่วนของผู้ที่ได้รับการส่งเสริมฯไปก่อนหน้านี้แถบตะวันออกคือกลุ่มของ บริษัท จีสตีล จำกัด (มหาชน) และบริษัทนครไทยสตริปมิลด์ จำกัด(มหาชน)หรือ NSM ก็จะมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องป้อนด้วยแต่ก็ยังคงติดขัดว่าพื้นที่นิคมฯมาบตาพุดไม่มีแล้วจึงไม่แน่ใจว่าโซวกังฯจะตั้งที่ใดแน่ ขณะเดียวกันท่าเรือมาบตาพุดก็เป็นท่าเรือที่มุ่งรองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

โครงการของบริษัทโซวกังฯ เบื้องต้น เป็นโครงการผลิตเหล็กครบวงจร ตั้งแต่โรงถลุงเหล็ก-เหล็กแท่งทรงแบน (slab) และการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน มูลค่าการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละ 4 ล้านตัน ตั้งโรงงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยกำลังการผลิตดังกล่าวจะส่งออกประมาณ 75% จำหน่ายให้กับผู้ใช้ในประเทศไทย 25% ส่วนวัตถุดิบสินแร่เหล็กจะนำเข้ามาจากหลายแหล่ง อาทิ ออสเตรเลีย, บราซิล   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us