Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 กันยายน 2548
ภาคท่องเที่ยว เสนอ5ประเด็น จีนร่วมมือไทย             
 


   
www resources

โฮมเพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Tourism
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา




ท่องเที่ยวภาคเอกชนไทยเร่งหารือนอกรอบกับกระทรวงท่องเที่ยวฯ สรุป 5 ประเด็นหลักนำเสนอที่ประชุมร่วมทีมเศรษฐกิจไทยกับจีนครั้งที่ 2 ที่เชียงใหม่ ด้านจังหวัดเชียงใหม่เตรียมพร้อมต้อนรับรองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และนักธุรกิจจีนระบุมีความสนใจลงทุนในไทยหลายด้านรวมทั้งการผลักดันภาคเหนือของไทยเป็นแหล่งรวบรวมกระจายสินค้า แต่ยังต้องศึกษาพิจารณาองค์ประกอบหลายด้านก่อนตัดสินใจ

ในการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. 48 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยทางฝ่ายไทยนำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ส่วนทางฝ่ายจีนนำโดย H.E.Madame Wu Yi รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจของจีนนั้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนี่งในหลายธุรกิจที่จะมีการประชุมร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวร่วมกัน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมสัมพันธ์ ไทย-จีน หรือ T.C.T.A. เปิดเผยว่า ในส่วนของภาค เอกชนด้านการท่องเที่ยว ได้เข้าร่วมหารือกับ นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หาข้อสรุปเพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีนดังกล่าว เพื่อเข้ามาประชุมทำความตกลงร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกับรัฐบาลและเอกชนของประเทศไทย ซึ่งในส่วนของภาคการท่องเที่ยวเตรียมเสนอ 5 ประเด็นหลักให้รัฐบาลจีนได้รับทราบและปฏิบัติโดยถือเป็นสัญญาร่วมกัน

ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวประกอบด้วย

1. ให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านการท่องเที่ยวซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน

2.ให้ฝ่ายจีนเร่งจัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านการท่องเที่ยว เพื่อมาทำงานร่วมกับคณะอนุกรรมการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในการที่จะวางแผนด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ร่วมกันในอนาคต

3.ร่วมกันแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

4. ททท.จะต้องเร่งตั้งสำนักงานท่องเที่ยวในประเทศจีนเพิ่มเติม จากปัจจุบันมี 1 แห่งที่ปักกิ่ง โดย เตรียมตั้งอีก 4 แห่งในเมืองใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู คุนหมิง และกวางเจา โดยเบื้องต้นเนื่องจากเราติดปัญหาเรื่องภาษา คงจะต้องว่าจ้างคนท้องถิ่นให้เข้ามา ทำงานร่วมกัน

5. ตกลงแผน 5 ปีเป็นสัญญาต่างตอบแทนจำนวนนักท่องเที่ยวให้แก่กันและกัน ภายใน 5 ปีจะต้องมีนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทย 3 ล้านคนใน พ.ศ. 2553 เติบโต 35% จากปีปัจจุบัน และไทยจะส่งนักท่องเที่ยวไปจีนในปีเดียวกันให้ได้ถึง 1 ล้านคน

นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า เมื่อรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนมีการตกลงกัน จะทำให้การประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนด้วยกันทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันเอกชนของไทยก็ต้องสอนให้เอกชนของจีนรู้จักการทำทัวร์ในรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสากลปฏิบัติ เพราะที่ผ่านมาจะทำทัวร์ตามลักษณะธรรมเนียมของประเทศจีน บางครั้งทำให้เกิดปัญหาและที่มาที่ไป ของคำว่าทัวร์ศูนย์เหรียญ อย่างไรก็ตามต้องการให้ การประชุมนี้มีการแบ่งกลุ่มย่อยให้เอกชนทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยกันเพื่อรวบรวมปัญหาและแนวทาง การแก้ไข เพื่อนำเสนอภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศได้รับรู้และออกมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

สำหรับแผน 5 ปี ปี 2549-2553 เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีนนั้น มีดังนี้ กรณี ที่นักท่องเที่ยวไทยไปจีน ปี 2548 ประมาณการ 2.9 แสนคน, ปี 2549 ประมาณ 3 แสนคน, ปี 2550 ประมาณ 4 แสนห้าพันคน, ปี 2551 ประมาณ 5.5 แสนคน, ปี 2552 ประมาณ 7.4 แสนคน และปี 2553 ประมาณ 1 ล้านคน

ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ปี 2548 ประมาณ 8.5 แสนคน, ปี 2549 ประมาณ 1 ล้านคน, ปี 2550 ประมาณ 1.35 ล้านคน, ปี 2551 ประมาณ 1.822 ล้านคน ปี 2552 ประมาณ 2.46 ล้านคน, ปี 2553 ประมาณ 3 ล้านคน ดังนั้นเมื่อรวม นักท่องเที่ยวทั้งที่มาไทยและไปจีนในปี 2553 ประมาณ 4 ล้านคน

นางวิภาดา ตรีสัตย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. 48 ที่ จ.เชียงใหม่ว่า ตามกำหนดทางคณะของจีนนำโดย H.E.Madame Wu Yi รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจของจีนจะเดินทางถึง จ.เชียงใหม่ในวันที่ 21 ก.ย.48

โดยที่ในวันเดียวกันนั้นจะมีการพบปะหารือกันระหว่างนักธุรกิจและรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่โรงแรมเชอราตันเชียงใหม่ ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีน ครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น (22 ก.ย. 48) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ดาราเทวี โดยที่รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเป็นหัวหน้าคณะของจีนประชุมร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ เช่น คมนาคม อุตสาหกรรม พลังงาน เกษตร เป็นต้น เพื่อหารือทางด้านต่างๆ และหลังเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการลงนามร่วมกันใน Economic Strategic Partnership Scheme ด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นการหารือหลักจะเกี่ยวข้องกับการ หาความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ โดยสิ่งที่คาดว่ากลุ่มนักธุรกิจ จีนจะให้ความสนใจในการเดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ คือ การดูลู่ทางและความเป็นไปได้ในการเข้ามาลงทุนหลายด้าน เช่น ไฟฟ้า การท่องเที่ยว การเกษตร และการสื่อสารโทรคมนาคม เป็นต้น ซึ่ง การพบปะกับกลุ่มนักธุรกิจไทยในระหว่างการประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ประสานความสัมพันธ์ที่อาจจะนำไปสู่การร่วมลงทุนในอนาคต

ประเด็นเกี่ยวข้องกับพื้นที่ภาคเหนือที่คาดว่าทางคณะจีนน่าจะให้ความสนใจได้แก่การตรวจดูความพร้อมของภาคเหนือในทุกๆ ด้าน ทั้งบุคลากร สถานที่ วัตถุดิบ เป็นต้น เพื่อดูความเป็นไปได้ในการจะลงทุนผลักดันให้เป็นแหล่งรวบรวมและจายสินค้าจากประเทศจีน

"การประชุมในครั้งนี้ทางรองนายกฯจีนได้เป็น ผู้เลือก จ.เชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมในครั้งนี้ด้วยตัวเอง โดยที่ท่านพร้อมคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจจีนรวมประมาณ 100 คนจะเดินทางมาถึงเชียงใหม่ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ซึ่งทางจังหวัดเองได้มีการเตรียมความพร้อมการจัดการต้อนรับไว้อย่างสมเกียรติแล้ว" นางวิภาดากล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us