Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 กันยายน 2548
"ปริญสิริฯ"ยืนยันแผนเข้าตลาดฯติดตามหุ้นกฟผ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ปริญสิริ
โฮมเพจ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.
ปริญสิริ, บมจ.
อภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล
Real Estate
ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย




เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ฯหวนคืนตลาดหุ้น วันนี้(20 ก.ย.) เข้าซื้อขายในหมวดปกติภายใต้ชื่อ "KC" พร้อมเร่งยอดโอนบ้านให้ลูกค้าภายในสิ้นปีอีก 1,100 ล้านบาท ด้านปริญสิริฯ ยันเข้าตลาดหุ้นแน่ แต่ขอมอนิเตอร์หุ้นกฟผ.อย่างใกล้ชิด ขณะที่ยอดขายโครงการแต่ละเดือนยังไม่ตก เร่งงานก่อสร้างเพื่อโอนบ้านให้ลูกค้า ช่วงปลายปีให้ได้อีก 300 หลัง เฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุมัติอย่างเป็น ทางการจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2548 ให้เข้าเปิดทำ การซื้อขายอีกครั้งในหมวดอสังหาริมทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ตั้งแต่วันนี้ (20 ก.ย.) ภายใต้ชื่อย่อว่า "KC"

โดยที่ผ่านมาบริษัทฯมีผล การดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับตั้งแต่กลุ่ม เค.ซี. ได้เข้ามาลงทุน ในบริษัท โมเดอร์น โฮม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปลายปี 2546 สะท้อนได้จากผลกำไรอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส เริ่มต้นตั้งแต่ในไตรมาส 4 ของ ปี 2546 และตลอดปี 2547 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานหลักรวมทั้งสิ้น 132.08 ล้านบาท และ 932.77 ล้านบาท ตามลำดับ และ มีกำไรสุทธิก่อนรายการพิเศษจำนวน 16.51 ล้านบาท และ 223.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 12.49% และ 23.90% ของรายได้รวม ตามลำดับ

ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 584.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 104.71 ล้านบาท คิดเป็น 17.90% ของรายได้รวม ทั้งนี้ในปีนี้ บริษัทได้ทยอย เปิดโครงการไปทั้งสิ้นจำนวน 8 โครงการ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 บริษัทฯ มีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,000 ล้านบาท จำนวน 5,780 ยูนิต โดยเป็นมูลค่าที่ขายแล้วรอการส่งมอบจำนวน ทั้งสิ้นประมาณ 1,130 ล้านบาท

สำหรับในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ ได้แก่ "เค.ซี. คัตเตอร์วงแหวน- หทัยราษฎร์" เป็นทาวน์เฮาส์ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 ไร่ มีทั้งสิ้น 340 ยูนิต โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9 แสนบาท-1.7 ล้านบาท โครงการนี้มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ใช้เวลาในการก่อสร้างคาดว่าน่าจะไม่เกิน 4 ปี ส่วนอีกโครงการจะเริ่มเปิดโครงการในเดือนต.ค.นี้ ใช้ชื่อโครงการว่า "เค.ซี. คัตเตอร์ รามอินทรา" เป็นทาวน์เฮาส์แบ่งออกเป็น 4 เฟส มีจำนวนยูนิตที่มากถึง 1,800 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 140 ไร่ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8.2 แสนบาท-1.3 ล้านบาท

ในส่วนโครงสร้างรายได้ในปีนี้ จะเป็นรายได้จากการขายบ้านและทาวน์เฮาส์เป็นหลัก และรายได้จากการรับก่อสร้างโครงการบางส่วน โดยสิ้นปีนี้ จะมียอดขายจากบ้านเดี่ยวประมาณ 60% และจากยอดขายทาวน์เฮาส์ 40% ส่วนในปีหน้ารายได้จากบ้านเดี่ยวน่าจะเพิ่มเป็น 65% และทาวน์เฮาส์ลดลงเป็น 35% เนื่องจากโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่โดยมากเป็นโครงการบ้านเดี่ยว

นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่า บริษัทยังไม่ล้มเลิกแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น ซึ่งตลอดเวลาได้มีการปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน โดยนอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องการลดหย่อนภาษีธุรกิจเฉพาะที่กระทรวงการคลังจะไม่ต่อมาตรการหลังสิ้นสุดมาตรการปีนี้ จากเดิม 25% เพิ่มเป็น 30% แล้ว การวิเคราะห์หุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่อย่าง บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ที่เตรียมเข้าตลาดหุ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องนำมาประมวลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อหุ้นของบริษัทปริญสิริฯ

ด้านการขายของบริษัทฯ ยังคงเติบโตและไม่สะดุด เนื่องจากเป็นผลของการปรับแนวธุรกิจในช่วงปลายปี 2547 ที่หันมาทำตลาดจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางมากขึ้น ส่งผลให้การไหลเข้าของยอดจองเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยขณะนี้มีมูลค่าการขายแล้ว 3,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในสิ้นปีจะมียอดรับรู้รายได้ตามเป้าคือ 2,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเร่งงานก่อสร้างและตรวจคุณภาพบ้านก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า ซึ่งภายในสิ้นปีจะมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท หรือจำนวน 200-300 หลัง เฉลี่ยราคาขายอยู่ที่ 3-4 ล้านบาท

ปัจจุบันโครงการที่บริษัทฯพัฒนาจะมีอยู่4 แบรนด์ ได้แก่ 1.สิริทาวารา บ้านเดี่ยวระดับบนพรีเมียม ราคาตั้งแต่ 14 ล้านบาทขึ้นไป, 2.ปริญ-สิริ บ้านเดี่ยว ราคา 8-14 ล้านบาท, 3.ปริญญดา บ้านเดี่ยวราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ปริญลักษณ์ ราคา 2-5 ล้านบาท โดยบริษัทมีโครงการที่เปิดการขายและโครงการต่อเนื่องรวมมูลค่า 4,997 ล้านบาท จำนวน 924 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่ารวม 3,988 ล้านบาท 614 หน่วยและโครงการ ทาวน์เฮาส์ 1,009 ล้านบาท รวม 310 หน่วย

"ภายในเดือนพ.ย.นี้ จะมีการสรุปแผนที่แน่ชัดเพื่อกำหนดทิศทางของปี 2549 ว่าจะมุ่งและมีการตลาดเชิงรุกอย่างไรบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ปีนี้ตั้งเป้าอัตราเติบโตของบริษัทไว้ที่ 15%"Ž

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ ที่ร่วมทุนกับบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด ว่า ได้เริ่มก่อสร้างโครงการอยู่ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ บนเนื้อที่ 40-50 ไร่ ราคาระหว่าง 2-8 ล้านบาท อาทิ บ้านเดี่ยว 4-7 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2-4 ล้านบาท นอกจากนี้ ทางกลุ่มยูนิเวนเจอร์ฯกำลังเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อซื้อทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ)ประเภทที่ดินเปล่า ทั้งในโซนสุวรรณภูมิและทำเลอื่น เพื่อมารองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us