|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จับตาธุรกิจสายการบินต้นทุน ต่ำ ผู้ประกอบการหืดขึ้นคอในภาวะน้ำมันแพง ธุรกิจแข่งขันสูง ผู้ประกอบการแต่ละรายหันจับทางกลยุทธ์ตลาดเป็นที่พึ่งหนีตาย แอร์เอเชีย ย้ำใช้ราคาเป็นตัวนำ ตามด้วยการสร้างแบรนด์รอยัลตี้ ขณะที่นกแอร์เมินกลยุทธ์ราคา แต่เน้นบริการและแคมเปญตอบแทนลูกค้าตามแนวคิด "โลว์คอสต์ไม่ใช่โลว์คลาส" ด้านโอเรียนท์ไทย หันเปิดเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่มกระจายความเสี่ยง
การรวมตัวกันประกาศเก็บค่าเซอร์ชาร์จน้ำมันกับผู้โดยสาร 200 บาท ต่อเที่ยวของผู้ประกอบการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) 3 ราย คือ แอร์เอเชีย นกแอร์ และ วัน-ทู-โก บาย โอเรียนท์ไทย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.48 เป็นอีก หนึ่งหนทางอยู่รอด ของการประกอบธุรกิจบนสถานการณ์น้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจก็แข่งกันรุนแรง น้ำมันถือเป็นปัจจัยต้นทุนหลักที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ด้วย การลดต้นทุนส่วนนี้จึงยากนักจึงต้องเร่งเครื่องในการปรับเกมสู้ด้วยวิธีการอื่น
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองต่อว่ากลยุทธ์เด็ดๆ จากนี้ไปของสายการบินตนทุนต่ำจะมีอะไรออกมาอีก เพื่อให้องค์กรอยู่รอด และมีผลกำไรจากการดำเนินงาน
ย้ำกลยุทธ์ราคาเร่งสร้างแบรนด์รอยัลตี้
นายจารุวัฒน์ พัธนาวิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัท ไทย แอร์เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า แอร์เอเชียยังใช้กลยุทธ์ราคาเป็นหลักในการทำตลาด โดยทุกเดือนจะมีโปรโมชันตั๋วโดยสารราคาประหยัดเริ่มตั้งแต่ราคา 399 บาท หรือ 499 บาท แล้วแต่เส้นทางหมุนเวียนกันไป ซึ่งกลยุทธ์ราคา ประกอบกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ใครๆ ก็บินได้" ได้ส่งผลให้แอร์เอเชีย สามารถสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก และสร้างกระแสให้คนไทยรู้จักสายการบินโลว์คอสต์
ดังนั้น แผนงานต่อไป บริษัทฯต้องการสร้างแบรนด์รอยัลตี้ ด้วยการจับมือพันธมิตรเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า เช่น การสะสมแต้มร่วมกับโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ตลอดจนเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นการตอบแทนลูกค้า เช่น สนับสนุนทีมฟุตบอลแมนยูฯ และการสนับสนุนการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์
"ราจะไม่ใช้วิธีชิงโชคหรือแจกของรางวัลเหมือนบางสายการบิน เพราะเราเคยทำมาแล้ว ซึ่ง ต้องใช้เงินทุนสูง แต่จะสามารถสร้างแบรนด์ให้ลูกค้ารู้จักได้แต่เราผ่านตรงนั้นมาแล้ว ขณะนี้โจทย์ของเราคือการให้ลูกค้ามีการใช้บริการซ้ำ"
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงแผนการเพิ่มเส้นทางบินตามที่กำหนดไว้ ได้แก่ ช่วงปลายปีจะเปิดเที่ยวบินไป ฮานอย ประเทศเวียดนาม และ พนมเปญ ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันอัตราผู้โดยสารต่อเที่ยว ในเส้นทาง มาเก๊า และภูเก็ต มีลูกค้า ใช้บริการมากบางเที่ยวเต็ม 100%
ชูบริการโลว์คอสต์ไม่ใช่โลว์คลาส
นายสีหพันธุ์ ชุมสาย ณ อยุธยา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ในภาวะราคาน้ำมันปรับ ขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการบินในแต่ละเที่ยวบิน ของเราเพิ่มสูงขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถปรับขึ้นราคาตั๋วโดยสารได้ ส่วนหนึ่งเพราะการแข่งขันในธุรกิจโลว์คอสต์ ซึ่งนโยบายของบริษัทฯมีไว้ชัดเจน คือการทำธุรกิจ ต้องมีกำไร ดังนั้น กลยุทธ์ทางการตลาดของนกแอร์จะเพิ่มมูลค่าในประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการจ่ายเงินค่าโดยสารให้กับเรา เช่น การเลือกที่นั่งได้เองเมื่อจองผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น โดยหวังให้ลูกค้านกแอร์ได้สิทธิประโยชน์ในคอนเซ็ปต์ที่ว่า โลว์คอสต์ไม่ใช่โลว์คลาส
นอกจากนั้น ล่าสุดได้ออกแคมเปญแจกโทรศัพท์มือถือเที่ยวบินละ 1 เครื่อง สำหรับเส้นทางภูเก็ต ขณะเดียวกันก็มีแคมเปญชิงโชครถยนต์เป็นรางวัลใหญ่ รวมทุกเส้นทางที่นกแอร์บิน ทั้ง 2 แคมเปญดังกล่าวใช้งบ 11 ล้านบาททั้งของรางวัล และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งปีนกแอร์ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ 3% ของรายได้ ส่วนใหญ่นำมาจัดเป็นแคมเปญตอบแทน ให้แก่ลูกค้าดังกล่าวข้างต้น โดยนกแอร์ไม่มีนโยบายลดราคาค่าตั๋ว เห็นได้ว่า ราคาตั๋วนกแอร์ โดยเฉลี่ยจะสูงกว่าคู่แข่ง 100-200 บาทต่อที่นั่งแต่ยังถูกกว่าตั๋วของการบินไทยในเส้นทางเดียวกัน ประมาณ 20-30%
นกแอร์ ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำมาประมาณ 1 ปีเศษ ปัจจุบันผลประกอบการมีกำไร โดย 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไร 50 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 ซึ่งเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน เรายังมีอัตราผู้โดยสารอยู่ที่ 80% ต่อเที่ยว ลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนระดับกลาง ทั้งนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ที่มองหาสินค้าที่ดีในราคายุติธรรมไม่ใช้ราคาอย่างเดียวในการตัดสิน ส่วนแผนธุรกิจต่อไปเตรียมเปิดเส้นทางบินในประเทศเพิ่ม ส่วนเส้นทางต่างประเทศชะลอแผนออกไปปีหน้า เนื่องจากเครื่องบินมีไม่เพียงพอ
ล่าสุดสายการบินนกแอร์เตรียมเปิดตัวบริการใหม่ ที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมช่องทางการจัดจำหน่ายของนกแอร์ครั้งแรกของโลก ร่วมด้วยหุ้นส่วนทางธุรกิจคือ เคาน์เตอร์เซอร์วิสพลัส แอดวานซ์เอ็มเปย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่จะเปิดเผยรายละเอียดในวันจันทร์ที่ 26 กันยายนศกนี้
เปิดบินต่างประเทศ หนีตายกระจายความเสี่ยง
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัทโอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ผู้ให้บริการสายการบิน วัน-ทู-โก บาย โอเรียนท์ไทย กล่าวว่า ธุรกิจโลว์คอสต์ในประเทศไทยมีการแข่งขันสูง จึงทำให้ไม่สามารถกำหนดค่าตั๋วโดยสารได้ตามต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้น สิ่งที่ทำให้บริษัทฯดำเนินธุรกิจอยู่ได้ คือ การกระจายความเสี่ยงด้วยการเปิดเที่ยวบินต่างประเทศในเส้นทางที่มีศักยภาพ ล่าสุดได้เปิดเที่ยวบินไปพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประกอบกับใช้จุดต่างตรงที่เป็นธุรกิจครอบครัว บริหารแบบมืออาชีพ ข้อดีคือ คล่องตัวในการปรับเปลี่ยนแผนงานเมื่อสถานการณ์ไม่ดี เช่น การลด หรือเพิ่มเที่ยวบินตามดีมานด์จริง
ขณะเดียวกัน ในส่วนเส้นทางในประเทศ ยังจับพฤติกรรมคนไทยที่ไม่ชอบความยุ่งยากซับซ้อน ด้วยการขายตั๋วโดยสารราคาเดียวทุกที่นั่ง เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ราคา 1,500 บาท ทำให้ลูกค้าง่ายต่อการคำนวณค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทะเบียนลุ้นว่าจะได้ตั๋วราคาเท่าใด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า วัน-ทู-โก ปัจจุบันมีรายได้มาจากเส้นทางบินระหว่างประเทศมาทดแทนการขาดทุนจากเส้นทางในประเทศ ซึ่งที่เราทำแบบนี้ส่วนหนึ่ง เพราะตอบแทนสังคม ขณะเดียวกันก็มองว่าสายการบินที่ใช้ราคาเป็นตัวนำ ในอนาคตไม่น่าจะอยู่ได้
|
|
|
|
|