กระทรวงการคลังสั่งสอบภาษีย้อนหลัง ช.การช่าง หลังมีข่าวพัวพันเลี่ยงภาษีถึง 500 ล้านบาท "สุชาติ" ระบุ หากพบความผิดจริง ฟัน 1,000 บาท พร้อมเบี้ยปรับย้อนหลัง 18% ต่อปี แถมโดนคดีอาญาด้วย ด้าน "อธิบดีสรรพากร" ขอสอบข้อมูลก่อนชี้ความผิด พบเจ้าหน้าที่สรรพากรพัวพัน ขณะที่ก.ล.ต.เดินหน้าสอบบัญชีบริษัทย้อนหลัง หาปมตบแต่งบัญชี นักวิเคราะห์ชี้หาก ช. การช่างตบแต่งบัญชีจริง กระ ทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อตลาดหุ้นไทยที่เปราะบางอยู่แล้ว แย่ลงอีกแน่ ไม่แพ้กรณี เอนรอน-เวิลด์คอม บจ.ตลาดหุ้นมะกันแต่งบัญชี ที่ทำให้ความเชื่อมมั่นนักลงทุนทั่วโลกต่อตลาดหุ้นมะกันวูบมาแล้ว ขณะที่ราคาหุ้น CK วูบวานนี้กว่า 15% ด้าน "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" ยันบริษัทจ่ายภาษีถูกต้อง ส่วน "เอินท์ส แอนด์ ยัง" ผู้ตรวจสอบบัญชีบริษัท ยันอีกแรง ยังไม่พบบริษัทตบแต่งบัญชี

กรณี พ.อ.เอกกมล ถนอมสุข นายทหารสังกัดกรมข่าวทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด และพวกอีก 6 คน ลักพาตัวนายเสรี บู่ตามใจ วัย 52 ปี พนักงานตรวจ สอบบัญชี บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) ซึ่งพัวพันการหลบ เลี่ยงภาษีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท และอาจพัวพันกับการตบแต่งบัญชี บริษัท สมคิดสั่งสอบ ช. การช่างเลี่ยงภาษี

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีนี้ว่า ตนสั่งการกรมสรรพากรตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเบื้องต้น อธิบดีกรมสรรพากร แจ้งให้ทราบว่าเป็นเรื่องภายในเกี่ยว ข้องกับพนักงานบริษัทดังกล่าว ไม่ใช่ปัญหาตัวบริษัท

"ส่วนเรื่องการหลบเลี่ยงภาษี ที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้น ต้องรอให้มี ผลตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่าเพิ่งกล่าวหาว่ามีการกระทำผิด เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ และเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา อธิบดีสรรพา กรเข้าไปดูแลแล้ว คงได้ข้อเท็จจริงในไม่ช้า จากนั้น ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบกฎหมาย" นายสมคิดกล่าว

ทางด้านร้อยเอกสุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีช่วงว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะที่กำกับดูแลกรม สรรพากร กล่าวว่าขอให้กรมสรรพากรตรวจสอบหาผู้กระทำความผิดแล้ว เพราะสามารถตรวจสอบการเสียภาษีย้อนหลังของบริษัทเอกชนได้ถึง 10 ปี หากไม่มีการยื่นแบบเสียภาษี ส่วนกรณีบริษัท ช.การช่าง ถือเป็นบริษัทใหญ่ คงต้องใช้เวลาเป็นเดือน

มีสิทธิจ่ายพันล้านบาท

ตามระเบียบกรมสรรพากร ห้ามเจ้าหน้าที่รับทำบัญชีบริษัทเอกชนอยู่แล้ว ถ้าตรวจพบว่า มีดำเนิน การดังกล่าว สามารถไล่ออกได้ทันที หากพบว่า บริษัทเอกชนหลบเลี่ยงภาษีจริง ต้องดำเนินการตามระเบียบของกรมฯ ต่อไป โดยมีทั้งดำเนินคดีอาญา และคิดเบี้ยปรับเงิน 1 เท่า บวกดอกเบี้ยปรับอีก 18% ต่อปีหรือ 1.5% ต่อเดือน แถมอาจจะมีภาระภาษีที่ต้องจ่ายถึงพันล้านบาท

"กรณีของ ช.การช่าง คงไม่กระทบภาพรวมการ จัดเก็บภาษีของสรรพากร เพราะเป็นเรื่องของบริษัทเพียงบริษัทเดียว เชื่อว่าระเบียบปฏิบัติของกรมฯ เหมาะสมอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่" ร.อ.สุชาติกล่าว

พบเจ้าหน้าที่สรรพากรพัวพัน

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่ากรมฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่คงต้อง ใช้เวลาระยะหนึ่ง เพราะจากข่าวที่รับทราบ มีเจ้าหน้า ที่กรมสรรพากรระดับซี 6 พื้นที่ 7 เกี่ยวข้องด้วย ในฐานะที่มีความสัมพันธ์กับพนักงานบริษัท ช.การช่างที่ถูกจับตัว เพราะมีเหตุขัดแย้ง และเรียกร้องจากบริษัท โดยนำประเด็นภาษีเป็นข้อต่อรอง จึงต้องตรวจ สอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้

"ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การเสียภาษีไม่ถูกต้อง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป โดยต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชนก่อน ว่า มีการเสียภาษีอะไร และเสียอย่างไร เพื่อดูว่า มีสิ่งไม่ ถูกต้องหรือไม่ และต้องติดตามดูแลการจัดเก็บภาษี ให้ถูกต้องต่อไป" นายศุภรัตน์กล่าว อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรพร้อมจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คงไม่ใช่หน่วยงานหลัก ที่จะดำเนินการเรื่องนี้ ส่วนพฤติกรรมเจ้าหน้าที่สรรพากร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน คงระบุทันทีไม่ได้ ว่าผิดหรือไม่ผิด ส่วนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ ต้องดูความจำเป็นก่อน

ก.ล.ต. สั่ง ช.การช่างชี้แจง

ทางด้านนางศรัณยา จินดาวณิค ผู้อำนวยงาน สำนักเลขาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เปิดเผยว่าขณะนี้ สำนัก งาน ก.ล.ต.ขอให้บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาที่สำนักงาน กลต. อย่างไม่เป็นทางการแล้ว

เพราะข่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบราคาหุ้นบริษัท แต่บริษัทก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ก.ล.ต. คงยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ เนื่องจากต้องรอบริษัท ช.การช่างชี้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องภาษีกับกรมสรรพากรก่อน หากว่ามีความผิดจริง ก.ล.ต.ถึงจะตรวจสอบด้านการเปิดเผยข้อมูล สอบงบการเงินบริษัท

โดยจะพิจารณาจากงบบริษัทย้อนหลัง ซึ่งหาก มีผู้กระทำความผิดจริง ต้องถูกลงโทษกรณีฝ่าฝืนกฎหมาย เรื่องที่เกิดขึ้น ยังเป็นลักษณะถูกกล่าวหา ทำให้ต้องรอคำชี้แจงบริษัทก่อน ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต. นำข้อมูลเกี่ยกับงบการเงิน ทั้งข้อมูลบริษัท ดูความเสี่ยงบริษัท

กรณีนี้ถือเป็น 1 ใน 100 บริษัท ที่เกิดปัญหา ขณะนี้คงไม่สามารถตัดสินใจว่า เป็นบริษัทขาดหลัก ธรรมาภิบาลหรือไม่ ก.ล.ต คงต้องรอความชัดเจน โดยเฉพาะภาษี ว่าเป็นภาษีอะไร ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต.ก็เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทอยู่ และดูการกระทำของบริษัทว่าเป็นการฉ้อโกงหรือไม่

นายหิรัญ รดีศรี ประธานกรรมการคณะทำงานบรรษัทภิบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงานจะหยิบยกเรื่องดังกล่าว พิจารณาเป็นการภายใน โดยการพิจารณานั้น ต้องมีข้อมูลข้อเท็จจริงก่อน ว่าเป็นอย่างไร

เลี่ยงภาษีสะท้อนจรรยาบรรณผู้บริหารบริษัท

เพราะการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับภาษีนั้น มีหลาย ประเภท ดังนั้นต้องมีข้อมูลศึกษาและตีความ แต่คิด ว่าเรื่องดังกล่าวคงจะไม่กระทบภาพรวมบรรษัทภิบาล อย่างไรก็ตาม หากการหลบเลี่ยงภาษี ช. การช่างเป็น ความจริง จะเป็นภาพสะท้อนให้เห็นจรรยาบรรณผู้บริหารได้

"ปลิว"ยันไม่เบี้ยวภาษี

ขณะเดียวกัน ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่ง ประเทศไทย (รฟม.) เวลาประมาณ 11.00 น. วานนี้ (14 ต.ค.) นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มบริษัท BMCL ผู้รับสัมปทานให้บริการเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังต้อนรับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ว่าข่าวผู้บริหารระดับ สูงบริษัทเกี่ยวข้องกรณีอุ้มนายเสรี บู่ตามใจ พนักงานบริษัท กรณีหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีของบริษัท

เรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบข้อเท็จจริง เห็นว่าเป็น เรื่องเข้าใจผิด ไม่มีอะไร ที่ผ่านมา บริษัทดำเนินการตามขั้นตอนเสียภาษีถูกต้องทุกอย่าง ขณะนี้ไม่อยาก พูดอะไรมาก บริษัทจะเปิดแถลงข่าวเร็ว ๆ นี้ เพื่อยุติปัญหาความเข้าใจผิด

ปิดปากพนักงานไม่ให้ข้อมูล

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันวานนี้ (14 ต.ค.) มี การติดต่อไปยังผู้บริหารบริษัท ช..การช่าง รวมทั้งขอ สัมภาษณ์นายประเสริฐ มริตตนะพร ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ช.การช่าง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากเลขานุการนาย ประเสริฐอ้างว่า นายประเสริฐประชุมตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามจะติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร และขอข้อมูล เมื่อติดต่อไปยังแผนกดังกล่าว ก็ไม่มีผู้ใดรับ สายโทรศัพท์ โดยเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์บริษัทอ้างว่า โอนสายไปแล้ว แต่ไม่มีใครอยู่ที่แผนก

ยืนยันระบบบัญชีมีมาตรฐาน

จนกระทั่งช่วงเย็นวานนี้ บริษัท ช.การช่าง จำกัด ส่งแฟกซ์ ซึ่งลงชื่อโดยนายประเสริฐ มริตตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว ระบุว่าการทำบัญชีของ บริษัทเป็นไปตามแม่บทการบัญชี และมาตรฐานการ บัญชี ของสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาต แห่งประเทศไทย และเป็นไปตามข้อบังคับของตลาด หลักทรัพย์

รวมทั้งบริษัทฯตรวจสอบบัญชีโดยบริษัท สำนัก งาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ในเครือเอนส์ท แอนด์ ยังจากสหรัฐอเมริกา และผ่านความเป็นชอบจากคณะ กรรมการตรวจสอบแล้ว ราคาหุ้นในตลาดฯ รูด 15.43%

ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น CK ปรับตัวลด ลงทันที 70 สตางค์ อยู่ที่ 14.20 บาท หลังเปิดซื้อขาย วานนี้ แม้จะมีปริมาณซื้อขายไม่มากนัก ช่วงเช้าปรับ ตัวลดลงปิดที่ราคาต่ำสุด 13 บาท ลดลงจากวันก่อน หน้า 1.90 บาท หรือลดลง 12..75% มูลค่าซื้อขายเพียง 1.82 ล้านบาท

ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ ราคาหุ้นยังคงปรับตัวลด ลงต่อ โดยลงไปทำจุดต่ำสุด 12.40 บาท ก่อนจะปรับตัวขึ้น ปิดการซื้อขายที่ 12.60 บาท ลดลงจากวันก่อน 2.30 บาท หรือลดลง 15.43% มูลค่าซื้อขายรวมเพียง 2.83 ล้านบาท

อาจตบแต่งบัญชี

นายพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ จำกัด กล่าวว่าการที่ราคาหุ้น CK ปรับตัวลงรุนแรง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกี่ยวพันโดยตรงกับบริษัท จากกระแสข่าว นักลงทุนจึงกังวลว่า จะโยงใยถึงผู้บริหารบริษัท ซึ่งหากถูกตรวจ สอบพบว่า มีความผิดจริง บริษัทอาจโดนลงโทษ โดยปรับเป็นจำนวนมาก

"ปกติเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายตามภาวะตลาดฯ แต่ไม่หวือหวานัก และไม่มีความโดดเด่น เมื่อเทียบ กับหุ้นบางตัวในกลุ่มเดียวกัน แต่ข่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นปัจจัยทางจิตวิทยา ที่ส่งผลต่อบริษัท และบริษัท อื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มมาก"

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณี CK อาจส่งผลกระทบการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะนักลงทุนเริ่มกังวลถึงมาตรฐานทางบัญชี การตรวจสอบของทางการ รวมทั้งวิตกว่า อาจเกิดเหตุ การณ์ซ้ำรอยเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาทิ เอนรอน เวิลด์คอม เป็นต้น ที่ตบ แต่งบัญชี จนทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นระบบ ธรรมาภิบาลบริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นต้นแบบระบบ ธรรมาภิบาลทั่วโลกปัจจุบัน

หุ้นไทยวูบต่อ

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (4 ต.ค.) ดัชนีทรุดตัวค่อนข้างแรง แรงเทขายถูกกระ น่ำหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน ส่งผลดัชนีราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดที่ 323.86 จุด ลดลง 6.55 จุด ลดลง 1.98% มูลค่าซื้อขายรวม 3,433.72 ล้านบาท ผู้สอบบัญชียันไม่พบการแต่งบัญชี

นายรุทร เชาวนะกวี กรรมการบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ในฐานะผู้ตรวจสอบบัญชีบริษัท ช.การช่าง จากแดนมะกัน กล่าวว่าเอินส์ท แอนด์ ยังรับหน้าที่ผู้ตรวจสอบบัญชี ช.การช่างตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน

ที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบงบบัญชี ช.การช่าง ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร หรือหากมีเงื่อนไขยก เว้นใดๆจะระบุในหมายเหตุงบการเงินอยู่แล้ว ขณะนี้ เขายังไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวได้ เพราะ ยังไม่ได้รับข้อมูลชัดเจนว่า ทุจริตจริงหรือไม่ และเกิดขึ้นส่วนใด

ขณะเดียวกัน บริษัทยังไม่ได้รับการติดต่อจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้น กระทบภาพลักษณ์ และชื่อเสียงบริษัท มากน้อยเพียง ใด

พลิกจากตัวแดงปี 43 เป็นกำไรปี 44

ผลดำเนินงานบริษัท ช.การช่าง ปี 2544 กำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,618.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 691.49% จากปี2543 ที่ขาดทุนสุทธิ 442.72 ล้านบาท โดยบริษัท แจ้งว่า เป็นผลจากการที่บริษัทรายได้งานก่อสร้างเพิ่ม ขึ้น จากโครงการก่อสร้างขนส่งมวลชนโดยราง โครง การรถไฟฟ้ามหานครระยะแรก และโครงการพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานกรุงเทพ

อีกทั้งยังรับรู้รายได้จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากกิจการร่วมค้าบีบีซีดี รวมทั้งบริษัทมีรายการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของกิจการร่วมค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นรายได้จากการรับชำระหนี้ และมีรายได้จากการบริหารโครงการเพิ่มขึ้น