|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สวนสยามเริ่มยิ้มออก หลังเจรจามาราธอนกับแบงก์กรุงเทพเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ เผยล่าสุดเหลือแค่ 500 ล้านบาท พร้อมเปิดทางให้กู้ต่ออีกได้ ไชยวัฒน์ ประกาศวางมือปีหน้า พร้อมดันลูกชายขึ้นบริหารแทน เตรียมนำบริษัทฯเข้าตลาดหุ้น ระดมทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการต่อเนื่อง
นายไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมรพันธุ์นคร จำกัด ผู้บริหารสวนสยาม ทะเล-กรุงเทพ เปิดเผยว่า ในปีหน้ามีแผนที่จะปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ โดยจะวางมือจากการบริหารงานและเป็นเพียงที่ปรึกษาเท่านั้น เพื่อเปิดทางให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาแทนโดยจะแต่งตั้งให้นายสิทธิศักดิ์ เหลืองอมรเลิศ ซึ่งเป็นลูกชายจากตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร ขึ้นมารับตำแหน่งแทน และจะพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นธุรกิจแบบมืออาชีพมากขึ้น และจะมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้มีการวางรากฐานและแก้ไขปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดีแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อีกทั้งยังเตรียมที่จะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
ล่าสุดแผนการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับแบงก์กรุงเทพฯมีความคืบหน้าไปมาก หลังจากเป็นหนี้มานาน 25 ปี โดยล่าสุดมูลค่าหนี้เหลือประมาณ 500 ล้านบาท และแบงก์กรุงเทพฯยังมีแผนที่จะให้กู้เพิ่มอีกในวงเงิน 500 ล้านบาทด้วย ทั้งนี้จะนำที่ดินบริเวณถนนลาดพร้าวของบริษัทฯประมาณ 14 ไร่เศษ ที่มีมูลค่ากว่า 400 ล้านบาทมาชำระ ส่วนที่เหลืออีก 100 ล้านบาทนั้น จะทยอยจ่ายให้ครบภายในเวลา 5 ปี แบ่งเป็นช่วง 2 ปีแรก จ่ายปีละ 840,000 บาท และปีที่สามจำนวน 2 ล้านบาท ปีที่สี่และห้า จ่ายในส่วนที่เหลือทั้งหมด
สำหรับการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นมีแผนที่จะระดมทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาปรับปรุงกิจการ ซึ่งธุรกิจสวนสนุกสวนน้ำนั้นไม่สามารถอยู่เฉยได้ ต้องมีการก่อสร้างและนำของเล่นใหม่ๆเข้ามาเสมอ โดยแผน 3 ปีนับจากนี้ กำหนดวงเงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท มีเป้าหมายที่จะต้องเพิ่มเครื่องเล่นใหม่ปีละ 1 ชนิด โดยวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะเปิดโครงการผจญภัยแดนไดโนเสาร์ หรือจูราสสิคปาร์ค แอดเวนเจอร์ ขณะเดียวกันจะสร้างอุทยานประวัติศาสตร์กลางน้ำพระอภัยมณี มูลค่า 150 ล้านบาท สร้างบ้านผีสิง มูลค่า 50 ล้านบาท สร้างหอสมุดปลาและอะควาเรียมมูลค่า 100 ล้านบาท และอีกโครงการคือ สยามซิตี้วอล์ค มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทซึ่งเป็นโครงการที่ใหญ่และเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว
นายไชยวัฒน์มองว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทย ตลาดสวนสนุก สวนน้ำยังไปได้ ซึ่งรัฐบาลควรที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเอกชน โดยมีแนวคิดที่จะเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือทางด้านระบบสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นเช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นต้น อาจจะคิดราคาพิเศษเพื่อให้ธุรกิจมีต้นทุนต่ำสามารถอยู่ได้ ซึ่งธุรกิจสวนน้ำสวนสนุกนี้สามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ด้วย ซึ่งบริษัทฯตั้งงบประมาณ การตลาดไว้ที่ 20 % จากรายได้ทั้งหมด รวมทั้งการจัดโรดโชว์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยด้วย หรือการแจกบัตรคูปองส่วนลด 50% กว่า 14 ล้านใบต่อปี จากราคาค่าเข้า 200 บาทต่อคน
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายหลังจากที่ได้มีการปรับแผนการตลาดใหม่ครั้งนี้ว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีรายได้เมื่อปีที่แล้ว 140 ล้านบาท แต่มีกำไรเพียง 10 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้จะมีรายได้กว่า 210 ล้านบาท และปีนี้จะมีกำไร 20 ล้านบาท ส่วนจำนวนผู้เข้มาเที่ยวนั้นคาดหมายว่าจะมีประมาณ 2 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันที่มีประมาณ 1 ล้านคนต่อปี แบ่งสัดส่วนเป็นคนไทย 80% และอีก 20% เป็นคนต่างชาติ
|
|
|
|
|