Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 กันยายน 2548
พรีมาเวสท์ต่อยอดกองทุนเก่า ส่งตราสารหนี้กองใหม่ทดแทน             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรีมาเวสท์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

พรีมาเวสท์, บลจ. - Prima Vest
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ
Funds




พรีมาเวสท์จ่อคิวตราสารหนี้อีก 2 กอง หลังกองทุนปิดภายใต้การบริหารเริ่มทยอยครบอายุ ล่าสุดเตรียมคลอดกองทุนทดแทนกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอม อินคัม 4 และกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม ที่จะหมดอายุโครงการตุลาคมนี้ คาดมูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี พร้อมคุ้มครองเงินต้น

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ บริษัทมีแผนจะจัดตั้งกองทุนตราสารหนี้ออกมาอีก 1 กองทุน มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเป็นการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาทดแทนกองทุนที่จะหมดอายุลงจำนวน 2 กองทุน คือ กองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอม อินคัม 4 มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะหมดอายุโครงการในช่วงเดือนตุลาคม และกองทุนกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ฟิกซ์อินคัม ( KPF ) มูลค่า 1,000 ล้านบาทอายุโครงการ 6 เดือน โดยจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมเช่นกัน

ทั้งนี้ รูปแบบของกองทุนดังกล่าวจะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีความมั่นคงและคุ้มครองเงินต้นเป็นหลัก เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง ที่มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี

นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ คาดว่าผลตอบแทนของกองทุนจะสูงกว่ากองทุนที่หมดอายุโครงการไป เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับดอกเบี้ยระยะสั้นในประเทศขึ้นไปถึง 0.50% เป็น 3.25% เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนทำให้ผลตอบแทนของตราสารระยะสั้นที่จะเข้าไปลงทุนปรับเพิ่มขึ้นด้วย

"กองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ คงจะเน้นกองทุนที่มีความมั่นคงเป็นหลัก หรือมีการคุ้มครองเงินต้น เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุน โดยจะเน้นกองทุนอายุ 1 ปี"นายเพิ่มพลกล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤษจิกายน จะมีกองทุนภายใต้การบริหารอีก 1 กองทุนที่จะหมดอายุโครงการ คือ กองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอม อินคัม 5 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2548 โดยบริษัทมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนใหม่ออกมาเพื่อทดแทนกองทุนดังกล่าวในช่วงเดือนพฤษจิกายนด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ ชอร์ทเทอม อินคัม 3A (KPS3A) อายุโครงการ 1 ปี ซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 7-15 กันยายนที่ผ่านมานั้น สามารถระดมทุนได้เบื้องต้นประมาณ 500 ล้านบาทจากมูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนที่มีความมั่นคง ปลอดภัยและเงินลงทุนอยู่ครบ 100% เนื่องจากกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในตราสารการเงินที่รัฐบาลเป็นผู้ออกเท่านั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งตราสารที่ลงทุนดังกล่าวรัฐบาลค้ำประกันทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยรับโอกาสจากผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์

ก่อนหน้านี้ นายเพิ่มพลกล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดกองทุนอีกมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยจะมีทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ซึ่งบริษัทได้ยื่นความจำนงไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ในแผนการจัดตั้งกองทุนนั้น จะให้ความสำคัญกับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเป็นหลัก ซึ่งจากนี้ไปบริษัทตั้งเป้าจะเปิดขายกองทุนเดือนละกอง มูลค่ารวมกันประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบของกองทุน จะมีทั้งกองทุนที่อายุสั้นๆ 9 เดือนถึง 1 ปี และกองทุนอายุ 2-3 ปี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในระดับที่แตกต่างกัน อีกทั้งเพื่อไม่เป็นการเสียโอกาสจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us