Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 กันยายน 2548
ปตท.ล้มควบโรงกลั่นฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปตท., บมจ.
ประเสริฐ บุญสัมพันธ์
Oil and gas




ปตท.ปิดฉากการเจรจาควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยองและโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯ หลังไม่สามารถหาข้อยุติเงื่อนไขร่วมกันได้ ยันเดินหน้านำโรงกลั่นน้ำมันระยองเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเพียงบริษัทเดียว มั่นใจจะยื่นไฟลิ่งทันปลายปีนี้ และดันเข้าตลาดหุ้นในต้นปี 2549 ชูไอเดียสร้างมูลค่าเพิ่มโดยจะดึงโรงกลั่นทีพีไอและเอทีซีเพื่อสร้างSynergyร่วมกัน แบไต๋ในอนาคตอาจถึงขั้นควบรวมกิจการ เพื่อก้าวเป็นโรงกลั่นปิโตรเคมีเหมือนไทยออยล์

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าการควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) และโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟนิ่ง(SPRC)ว่า ในการเจรจากับเชฟรอน เพื่อควบรวมโรงกลั่นทั้ง 2 แห่งแล้ว นำเข้าตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทยค่อนข้างล่าช้า และไม่สามารถตกลงเงื่อนไขบางอย่างได้

ดังนั้น ปตท.จึงตัดสินใจที่จะไม่ควบรวมโรงกลั่นเข้าด้วยกัน แต่จะพิจารณาแยกกัน โดยจะนำโรงกลั่นน้ำมันระยองเข้าตลาดเพียงบริษัทเดียว คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.ได้ปลายปีนี้ และระดมทุนในต้นปี2549

นอกจากนี้ ทางปตท.จะมีการศึกษาว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไร รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างโรงกลั่นน้ำมันระยองกับโรงกลั่นของบมจ.ปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) และบมจ.อะโรเมติกส์(ประเทศไทย) (ATC) เพื่อให้เกิดSynergy ร่วมกัน โดยจะจัดทำเป็น Business Model เสนอต่อนักลงทุนและกระจายหุ้นให้ประชาชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในขั้นนี้ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะมีการควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยองกับTPI หรือATC แต่จะดูในแง่Synergy แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ เพราะโรงกลั่นและการผลิตพาราไซลีนเป็นของคู่กัน ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันระยองจะมองว่าเป็นโรงกลั่นน้ำมันเพียงอย่างเดียวได้คงไม่ได้ แต่จะต้องเป็นโรงกลั่นปิโตรเคมี เหมือนกับโรงกลั่นไทยออยล์ และโรงกลั่นทีพีไอ

สำหรับโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ 36% ก็คงต้องหารือว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างไร แต่ความร่วมมือกันในการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2โรงกลั่นก็ยังมีต่อไป

"คอนเซ็ปต์ของปตท.คือต้องการให้โรงกลั่นขายน้ำมันตามราคาตลาดโลก แต่ทางเชฟรอนฯในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงกลั่นสตาร์ฯอยากให้ขายน้ำมันราคาต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเมื่อนำบริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว ปตท.มองว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ได้ประโยชน์และเราต้องการให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส การทำกำไรหรือขาดทุนเป็นไปตามมาร์เกต คอส"

ที่ผ่านมา โรงกลั่นทั้ง 2 แห่งมีภาระผูกพันกับทางรัฐที่จะนำเข้าบริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาตั้งแต่การขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งได้เลื่อนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาเป็นเวลานาน โดยก่อนหน้านี้ ปตท.มีแผนที่จะนำโรงกลั่นทั้ง 2 โรงควบรวมกันแล้วนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้ แต่เมื่อไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ การเร่งยื่นไฟลิ่งของโรงกลั่นน้ำมันระยองในปลายปีนี้ให้ทัน เพื่อที่จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีตามเงื่อนไขข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us