|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ปตท.ปิดฉากการเจรจาควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยองและโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯ หลังไม่สามารถหาข้อยุติเงื่อนไขร่วมกันได้ ยันเดินหน้านำโรงกลั่นน้ำมันระยองเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเพียงบริษัทเดียว มั่นใจจะยื่นไฟลิ่งทันปลายปีนี้ และดันเข้าตลาดหุ้นในต้นปี 2549 ชูไอเดียสร้างมูลค่าเพิ่มโดยจะดึงโรงกลั่นทีพีไอและเอทีซีเพื่อสร้างSynergyร่วมกัน แบไต๋ในอนาคตอาจถึงขั้นควบรวมกิจการ เพื่อก้าวเป็นโรงกลั่นปิโตรเคมีเหมือนไทยออยล์
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าการควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) และโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟนิ่ง(SPRC)ว่า ในการเจรจากับเชฟรอน เพื่อควบรวมโรงกลั่นทั้ง 2 แห่งแล้ว นำเข้าตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทยค่อนข้างล่าช้า และไม่สามารถตกลงเงื่อนไขบางอย่างได้
ดังนั้น ปตท.จึงตัดสินใจที่จะไม่ควบรวมโรงกลั่นเข้าด้วยกัน แต่จะพิจารณาแยกกัน โดยจะนำโรงกลั่นน้ำมันระยองเข้าตลาดเพียงบริษัทเดียว คาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.ได้ปลายปีนี้ และระดมทุนในต้นปี2549
นอกจากนี้ ทางปตท.จะมีการศึกษาว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไร รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างโรงกลั่นน้ำมันระยองกับโรงกลั่นของบมจ.ปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) และบมจ.อะโรเมติกส์(ประเทศไทย) (ATC) เพื่อให้เกิดSynergy ร่วมกัน โดยจะจัดทำเป็น Business Model เสนอต่อนักลงทุนและกระจายหุ้นให้ประชาชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในขั้นนี้ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะมีการควบรวมโรงกลั่นน้ำมันระยองกับTPI หรือATC แต่จะดูในแง่Synergy แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ เพราะโรงกลั่นและการผลิตพาราไซลีนเป็นของคู่กัน ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันระยองจะมองว่าเป็นโรงกลั่นน้ำมันเพียงอย่างเดียวได้คงไม่ได้ แต่จะต้องเป็นโรงกลั่นปิโตรเคมี เหมือนกับโรงกลั่นไทยออยล์ และโรงกลั่นทีพีไอ
สำหรับโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมฯที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ 36% ก็คงต้องหารือว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างไร แต่ความร่วมมือกันในการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2โรงกลั่นก็ยังมีต่อไป
"คอนเซ็ปต์ของปตท.คือต้องการให้โรงกลั่นขายน้ำมันตามราคาตลาดโลก แต่ทางเชฟรอนฯในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงกลั่นสตาร์ฯอยากให้ขายน้ำมันราคาต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเมื่อนำบริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว ปตท.มองว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ได้ประโยชน์และเราต้องการให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส การทำกำไรหรือขาดทุนเป็นไปตามมาร์เกต คอส"
ที่ผ่านมา โรงกลั่นทั้ง 2 แห่งมีภาระผูกพันกับทางรัฐที่จะนำเข้าบริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาตั้งแต่การขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งได้เลื่อนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯมาเป็นเวลานาน โดยก่อนหน้านี้ ปตท.มีแผนที่จะนำโรงกลั่นทั้ง 2 โรงควบรวมกันแล้วนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้ แต่เมื่อไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ การเร่งยื่นไฟลิ่งของโรงกลั่นน้ำมันระยองในปลายปีนี้ให้ทัน เพื่อที่จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีตามเงื่อนไขข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ
|
|
 |
|
|