Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 ตุลาคม 2545
ล้ม2แปรสัญญาโทรคม ดันทางเลือกที่3             
 


   
www resources

โฮมเพจ กสท โทรคมนาคม
โฮมเพจ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

   
search resources

กสท โทรคมนาคม, บมจ.
ทศท คอร์ปอเรชั่น
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี




"หมอสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี" เจ้ากระทรวงไอซีทีใหม่เอี่ยม ถอดด้ามทั้งกระทรวงทั้งคน เครื่องร้อน ประกาศล้มร่างกรอบแปรสัญญาโทรคมนาคมของทีดีอาร์ไอและจุฬาฯ ชี้สาเหตุที่ผ่านมาร่างกรอบแปรสัญญามีจุดบกพร่อง ดันทางเลือกใหม่กรอบที่ 3 ประสานแนวคิดภาครัฐ เอกชนและประชาชน ภายใน 3 เดือน พร้อมวาง 3 นโยบายหลักผลักดัน เทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างสังคมการเรียนรู้ สร้างรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เน้นพัฒนาควบคู่ระหว่างเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมต้องเดินควบคู่กัน แถมเตรียมสัมภาษณ์ 9 แคนดิเดตว่าที่ปลัดกระทรวงไอซีที

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและ การสื่อสารเปิดเผยนโยบายเร่งด่วน หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่านโยบาย หลักที่ต้องเร่งดำเนินการ คือพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม เดินหน้าควบคู่กัน ที่ผ่านมา 2 เรื่องนี้ ไม่ได้ถูกดำเนินการควบคู่กัน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างมาก

ดังนั้นเมื่อตนเข้ามารับผิดชอบงานนี้ จึงต้องเชื่อมโยงความสำคัญทั้ง 2 เรื่องนี้เข้าด้วยกัน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านโทรคมนาคม เน้นสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น สำหรับ การแข่งขันเสรี รวมทั้งการผลักดันการขยายบริการสู่คนท้องถิ่นให้มากที่สุด

สิ่งที่ต้องเร่งรีบที่สุดคือ การแปรสัญญาโทรคมนาคม ให้ได้ หลังจากที่ผ่านมา ไม่มีการตัดสินใจดำเนิน การก่อให้เกิดความล่าช้า จนเป็นประเด็นถกเถียง กันวงกว้างถึงการสูญเสียผลประโยชน์ประเทศชาติ โดยการแปรสัญญาโทรคมนาคมจะวางกรอบใหม่ใหม่ภายในเวลา 3 เดือน หรือไม่เกิน ธันวาคม เพื่อเป็นทางเลือกที่ 3

แทนที่ร่างกรอบของมูลนิธิวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และร่างกรอบของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากมีจุดบกพร่องหลายด้าน เป็นที่มาของความขัดแย้ง แม้ว่าจะมีข้อดีแต่ละร่างก็ตาม โดยจะนำเฉพาะข้อดีมาอยู่ในร่าง กรอบใหม่ "หมอเลี้ยบ" ยันต้องการให้มีทางเลือกที่ 3

"ผมอยากให้มีกรอบที่ 3 เกิดขึ้น เพื่อเป็น ทางเลือกใหม่ โดยจะไม่มีการจ้างที่ปรึกษาอีกแล้ว เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ได้ดำเนินการผ่าน มาแล้ว โดยมี 2 หน่วยงาน ทั้งทีดีอาร์ไอและจุฬาฯ แต่ไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จได้ ซึ่งกรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะระดมความคิดระหว่าง ฝ่ายรัฐ ทั้งการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทศท คอร์ปอเรชั่น บริษัทเอกชน และประชาชนเข้ามา มีส่วนร่วมช่วยกันสร้างกรอบใหม่ เพื่อให้เกิด แนวทางการแข่งขันที่เป็นธรรม"

กระทบแปรรูปทศท.-กสท.

นอกจากนี้ การแปรสัญญาโทรคมนาคม ยังมีผลต่อความมั่นใจการกระจายหุ้นบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และการสื่อสารแห่งประเทศ (กสท.) เนื่องจากนักลงทุนรอการ พิจารณาผลที่เกิดจากการแปรสัญญาโทรคมนาคมว่าจะมีผลในแง่บวก หรือแง่ลบมากน้อยเพียงไร ซึ่งหมายความว่าหากไม่มีกรอบการ แปรสัญญาโทรคมนาคม ย่อมมีผลต่อการกระจายหุ้นของทั้ง 2 หน่วยอย่างแน่นอน ขณะนี้จึงต้องรีบทำให้กรอบที่ 3 เป็นรูปธรรมเร็ว ที่สุด เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาที่ล่าข้าของการกระจายหุ้น ที่ต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ รวมทั้งปัจจัยตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ไม่อยู่ใน ภาวะที่ดีมากนัก หากเร่งรีบนำทั้ง 2 หน่วยงานจดทะเบียน อาจส่งผลเสียต่อราคาหุ้นที่ขายให้ประชาชน และความมั่นใจ


ของนักลงทุนด้วย พัฒนาเทคโนโลยี 3 แนว

สำหรับนโยบายทางด้านเทคโนโลยี มีแนว ทางพัฒนา 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1. การสร้างสังคมการเรียนรู้ ต้องอาศัยหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อลดช่องว่าทางสังคมที่เกิดขึ้นปัจจุบัน สิ่งที่จะเห็นเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด คือการเร่งขยายโทรศัพท์ และอินเทอร์ เน็ต ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งแหล่งที่เป็นการศึกษา และ นอกแหล่งการศึกษา

2. พัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานรัฐกับหน่วยงานรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมา เป็นลักษณะต่างคนต่างใช้ระบบสารสนเทศ ของตนเอง ขาดการเชื่อมต่อข้อมูลซึ่งกัน และกัน ทำให้การทำงานประสานงานเป็นไปอย่างล่าช้า เรื่องนี้ รัฐบาลจะตั้งศูนย์กลางเพื่อปฏิบัติการรวบ รวมระบบสารสนเทศของภาครัฐทั้งหมดขึ้น

นอกจากนี้ ยังเร่งการพัฒนาระหว่างหน่วย งานรัฐกับภาคเอกชน ในลักษณะวันสต็อปเซอร์วิส หรือบริการจุดเดียว ให้เกิดขึ้นให้ได้ โดย เฉพาะการทำธุรกรรมของภาคเอกชนกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ให้สะดวก และรวดเร็วที่สุด รวมทั้งการพัฒนาอี-โพรเคียวเมนต์ หรือการจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยปราศจากขั้นตอนที่ต้องผ่านตัวบุคคลตัดสินใจ และก่อให้เกิดการทุจริตเช่นอดีต และระหว่างหน่วยงานรัฐ กับประชาชนกระทรวงจะเร่งการทำบัตรประชาชน อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทุกหน่วยงานรัฐได้

3. ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ จะตั้งคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ลักษณะเช่นเดียวกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยจะมุ่งเน้นพัฒนา ศักยภาพบุคลากรที่ยังขาดแคลนปัจจุบัน พร้อม กับส่งเสริมธุรกิจซอฟต์แวร์ให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาการส่งเสริม ธุรกิจโลคัลแบรนด์ หรือยี่ห้อท้องถิ่นให้เข้มแข็ง มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันไทยถือเป็น ประเทศผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์อันดับ 2 ของโลก การ ผลักดันผู้ผลิตให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ย่อมเป็นผลประโยชน์ชาติที่จะได้รับ

"กระทรวงไอซีทีนี้นับเป็นกระทรวงที่ถูกคาดหวังอย่างมากว่าจะมีบทบาทพัฒนาประเทศ ที่ผ่านมาก็มีข่าวคราวต่อเนื่อง ซึ่งจุดนี้ทำให้ เราต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าพร้อมจะเข้ามาทำงาน จริง เพื่อยกระดับการแข่งขันของประเทศไทยให้ เกิดขึ้น"

"รวมทั้งเรื่องที่ถูกมองว่าเป็นกระทรวงที่ มีผลประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจมาก เมื่อผมรับ ผิดชอบหน้าที่นี้ ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นนโยบายของผมคือ ต้องทำงานด้วยความสุจริต และถือเป็นนโยบาย ที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงใหม่แห่งนี้ ต้องมีไว้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะผลักดันการทำงานตามแนวทางที่วางไว้ได้"

9 คนชิงดำปลัดฯไอซีที

ด้านการจัดการโครงสร้างภายในกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขณะนี้อยู่ ระหว่างการพิจารณาสัมภาษณ์ผู้เหมาะสม 9 ราย ที่สมัครตำแหน่งปลัดกระทรวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง นายแพทย์สุรพงษ์ จะสัมภาษณ์ด้วย ตนเอง เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อการทำงานภายในกระทรวงอย่างมาก คาดว่าจะสามารถพิจารณาให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งเร่งตั้งกรมใหม่อีก 3 กรม ตามแผนที่วางไว้ สิ่ง เหล่านี้ต้องเร่งรีบทำงานเร็วที่สุด เพื่อให้กระทรวง สามารถดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us