Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 ตุลาคม 2545
"ชอปปิ้ง สตรีท" ฝันที่ใกล้เป็นจริงศูนย์กลางชอปปิ้งเอเชีย             
 


   
www resources

โฮมเพจ สยามเซ็นเตอร์

   
search resources

สยามพารากอน ดิเวลลอปเม้นท์, บจก.
ชฎาทิพ จูตระกูล




โครงการชอปปิ้ง สตรีท เป็นความฝันของคน ไทยและคนเมืองหลวง ที่จะสร้างให้กรุงเทพฯโดยเฉพาะในย่านสี่แยกปทุมวันไปจนถึงถนนสุขุมวิท เป็นศูนย์กลางการชอปปิ้งของเอเชีย เนื่องเพราะบริเวณดังกล่าวมีศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ที่เปิดให้บริการเรียงรายไปตามสองข้างถนน และที่สำคัญจะมีโครงการใหญ่ระดับประเทศ ที่จะเปิดให้บริการในปลายปี 2548 คือ โครงการสยามพารากอน ที่จะเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ช่วยดึงนักท่อง เที่ยวให้เดินทางมาชอปปิ้งในกรุงเทพฯมากขึ้น

โครงการสยามพารากอน จะมีส่วนช่วยพัฒนาศูนย์กลางการชอปปิ้งของไทยได้หรือไม่

โครงการสยามพารากอน มีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วน คือ ศูนย์การค้าและแหล่งชอปปิ้งสมบูรณ์แบบ ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท และในส่วนของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท และเมื่อพิจารณารวมกับ 2 ศูนย์การค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว คือ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เท่ากับว่าเรากำลังทำแผนพัฒนาเมืองเล็กๆขึ้นมาใจกลางมหานคร ซึ่งวัตถุประสงค์หลักไม่ได้ต้องการทำโครงการเพื่อแข่งขันกับโครงการที่มีอยู่แล้วในกทม. แต่เป้าหมายสูงสุดของเราคือต้องการสร้างภาพลักษณ์ของโครงการขนาดใหญ่ ที่จะไปแข่งขันกับฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นเค้กก้อนใหม่ที่สยามพารากอนจะมีส่วนช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมาที่เมืองไทย ที่มาแล้วได้ทุกสิ่งทุกอย่างครบถ้วน

มีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจจะเข้ามาเปิดร้านมากไหม

ตอนนี้มีสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำทั้งของไทยและต่างชาติเข้ามาจองพื้นที่มากกว่า 1,000 ราย แต่เรามีพื้นที่ให้แค่ 400 รายเท่านั้น ซึ่งมีบางรายขอเช่า พื้นที่เพื่อเปิดขายสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยนำเข้ามาขาย ในไทยมาก่อน โดยบินเข้ามาติดต่อขอเช่าพื้นที่โดย ตรงที่บริษัท ซึ่งเป็นนิมิตหมายดีที่ความเชื่อมั่นของ ชาวต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยมีมากและกล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุน โดยสิ้นเดือนตุลาคมนี้ก็จะหาผู้เช่าได้ครบทั้งหมด

โครงการนี้เน้นที่ความแตกต่างหรือความใหญ่

ในส่วนของศูนย์การค้าจะมีร้านค้าชั้นนำที่เป็น สุดยอดของโลกมาเปิด และเป็นศูนย์กลางอัญมณีและนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งสินค้าประเภทอัญมณี เป็นที่ต้องการของคนทั่วโลก ที่แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้ออัญมณีของไทยเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยวหาสินค้าได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และยังมีส่วนของสินค้าไทย บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร รวมทั้งศูนย์การรับประทานที่ครบครันที่สุดด้วย

หลังจากโครงการนี้เสร็จแล้ว โฉมหน้าของโครงการชอปปิ้ง สตรีท จะเป็นอย่างไร

เราประสานงานกับรัฐบาล เพื่อโปรโมตชอปปิ้ง สตรีท ให้เหมือนกับสิงคโปร์ ที่มีออร์ชาร์จ โรด, ฮ่องกง มีนาธาน โรด หรือมีเซ็นทรัล ในขณะที่มาเลเซีย มีเคแอลซีที เราอยากให้รัฐบาลโปรโมต ตั้งแต่สี่แยกปทุมวันไปจนถึงเอ็มโพเรียม เพราะว่าย่านนี้มีแหล่งชอปปิ้งมากมายไม่แพ้ต่างประเทศ มีรถไฟฟ้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ได้ตลอดสาย เชื่อว่าถ้าโปรโมตดีๆ พร้อมกับความ ร่วมแรงร่วมใจของผู้ประกอบการศูนย์การค้า และการประชาสัมพันธ์ไปในต่างประเทศภายใต้แผนงาน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชื่อว่าโครงการชอปปิ้ง สตรีท จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

แล้วสยามพารากอน มีแผนจะโปรโมตอย่างไรบ้าง

สยามพารากอน จะเปิดให้บริการในปี 2548 เราได้เตรียมแผนงานโปรโมตไปในต่างประเทศด้วย สื่อโฆษณา โดยได้ว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์ในเอเชีย เพื่อโปรโมตในกลุ่มเอเชียก่อน ทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และยุโรป และร่วมมือกับททท. เผยแพร่สยามพารากอนออกไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งเราเตรียมงบประมาณเป็นเงินจำนวนมากเพื่อจะทำให้โครงการนี้เป็นที่รับรู้ของคนทั่วโลก

จะแข่งขันกับฮ่องกง และสิงคโปร์ได้หรือไม่

เรามั่นใจจะแข่งขันได้อย่างแน่นอน เพราะว่าตอนนี้ชาวต่างชาติมองเห็นประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่ดีกว่ามาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และตอนนี้เรามีโอกาสทัดเทียมฮ่องกง เพราะว่าค่าครองชีพของไทยถูกกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทย มีสถานที่เที่ยวมากมาย ซึ่งโอกาสของการลงทุนในเมืองไทยต้องถือว่าเป็นดาวรุ่ง และรัฐบาลก็สนับ สนุนอยู่แล้ว ซึ่งหากใช้เวลาโปรโมตอีกสัก 3 ปี การท่องเที่ยวของไทยจะเป็นหนึ่งในเอเชียได้อย่างแน่นอน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us