ผู้บริหารทีเอ ออเร้นจ์เปิดโต๊ะ แจงสี่เบี้ย กรณีเจดับบลิวที เอเยนซี่ที่รับสร้างแบรนด์ออเร้นจ์จนเป็นที่รู้จักในปัจจุบันบอกเลิกสัญญา เหตุเพราะได้โวดาโฟนคู่แข่งสำคัญในอังกฤษเป็นลูกค้า ยันแผนงานไม่สะดุด เพราะเป็นแผนที่วางไว้ตลอด ทั้งปี พร้อมเร่งหาเอเยนซี่ใหม่ เดินหน้าทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ บริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด ผู้ให้บริการมือถือ ระบบ Wirefree ภายใต้ชื่อออเร้นจ์ เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท เจวอลเตอร์ธอมป์สันหรือเจดับบลิวที เอเยนซี่ที่รับหน้าที่สร้างตราผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของออเร้นจ์บอกเลิกสัญญาว่า เจดับบลิวทีมีสัญญากับออเร้นจ์ 1 ปีในการสร้างแบรนด์หลังออเร้นจ์เริ่มทำตลาดโทรศัพท์มือถือในไทย ซึ่งตามสัญญาสิ้นสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่การเปิดตัวของออเร้นจ์มีการเลื่อนและล่าช้าออกไป จึงต้องยืดสัญญาถึงสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะมีการคัดเลือกเอเยนซี่ใหม่ เพื่อเข้ามาดำเนินการแทนเจดับบลิวที ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 4 ราย

"เอเยนซี่ที่จะเข้ามาทำงานกับเราต้องมีบุคลิกภาพคล้ายๆกับเรา แต่การที่เจดับบลิวทีบอกเลิกสัญญาเชื่อว่าการดำเนินงานคงไม่สะดุด เพราะทุกอย่าง เป็นการดำเนินการตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว" นายอติรุฒม์กล่าวและว่าภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้จะรู้ว่าใครเป็นเอเยนซี่ให้กับออเร้นจ์ เพราะกระบวนการคัดเลือกของคณะกรรมการจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ แต่การคัดเลือกเอเยนซี่ใหม่เข้ามาก็ต้องทำงานใกล้ชิดกับออเร้นจ์ และต้องรับการถ่ายทอดความเป็นออเร้นจ์ด้วย

ส่วนเหตุผลที่เจดับบลิวทีไม่ต่อสัญญา เพราะได้ลูกค้ารายใหม่คือโวดาโฟนใน 14 ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของออเร้นจ์ในอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาออเร้นจ์พอใจกับการทำงานของเจดับบลิวที แต่ก็ต้องยอมรับ ในเหตุผลเพราะการที่เจดับบลิวทีได้โวดาโฟนใน 14 ประเทศเป็นลูกค้า แล้วไม่ต่อสัญญากับ ออเร้นจ์เพราะไม่ต้องการมีลูกค้าที่ทำธุรกิจ ที่เป็นคู่แข่งกัน นอกจากนี้ การที่ได้โวดาโฟน 14 ประเทศจะมีความคุ้มกว่าการที่ได้ออเร้นจ์ในไทยเพียงเจ้าเดียว

สำหรับผลงานที่จีดับบลิวทีที่ร่วมสร้าง แบรนด์มากับออเร้นจ์ประกอบด้วยหลายกิจกรรม โดยเริ่มจากวันที่ 24 พ.ค.2544 ที่มีการ เปิดแถลงข่าวและเปิดตัวแบรนด์ออเร้นจ์ที่สวน ลุมพินี 30 ม.ค. 2545 ตกแต่งขบวนรถไฟฟ้ารวมถึงสถานีรถไฟฟ้าหลักๆ อีกหลายแห่งด้วยรูปลักษณ์ตามแบบของแบรนด์ออเร้นจ์

1 ก.พ. แพร่ภาพภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุดแรกคือ "get closer" ความยาว 90 วินาที ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากแก่นแท้ของแบรนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จจากตลาดทั่วโลกมาแล้วคือ Bright Human Future ที่สรุปความหมายไว้ด้วยสโลแกนที่ว่า "อนาคตสดใส อนาคตออเร้นจ์"

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ชุดที่ 2 และ 3 ตามมา ก่อนจะเปิดให้บริการสู่สาธารณชน อย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา และตามด้วยการแพร่ภาพภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์เรื่อง "Supersound" ในเดือนเม.ย.ภาพยนตร์เรื่อง "Bridge" และ "Kite" ในเดือนก.ค.เพื่อนำเสนอแนวคิดที่เป็นรูปแบบชีวิตง่ายๆ สไตล์จัสทอล์ก ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้บริการจ่ายแล้วโทร.จากออเร้นจ์ จากนั้นตามด้วยแคมเปญโฆษณาชุดใหม่เพื่อรองรับแผนการตลาดการให้บริการไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

จากนั้นได้เริ่มแพร่ภาพภาพยนตร์โฆษณา DoYou Speak Orange ตอนสวัสดีภูเก็ตในวันที่ 16 ส.ค.ตอนสวัสดีโคราช สวัสดีนครปฐมในเดือนก.ย.ตามที่ออเร้นจ์ได้ทยอยเปิดให้บริการ ในพื้นที่ต่างๆ 7 พื้นที่ ส่วนที่เหลืออีก 6 พื้นที่ การทำภาพยนตร์โฆษณาจะเป็นหน้าที่ของเอเยนซี่ รายใหม่

สำหรับงบที่ออเร้นจ์ใช้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในรอบปีนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดจะใช้ในระดับเดียวกัน โดยในงบส่วนนี้เป็นงบด้านการสื่อสารการตลาดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ สื่อต่างๆ