Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 ตุลาคม 2545
"ไวไว"ขอ5ปีเทียบชั้นสหพัฒน์             
 


   
search resources

โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย, บจก.
ปรีชา นภาพฤกษ์ชาติ
Instant Food and Noodle




"ไวไว"ประกาศขอใช้เวลา 5 ปีเทียบชั้น"สหพัฒน์"ด้านผู้นำอาหารครบวงจร พร้อมรายได้ที่โตอีกเท่าตัว หรือกว่า 5,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าบุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสไตล์ตะวันตก ประเภทพาสต้าอย่างน้อย 2 รสชาติ และไวไวควิก รสชาติใหม่ต่อเนื่อง หวังเป็นผู้นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในอีก 4 ปีข้างหน้านี้ด้วยส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 45% ล่าสุดเปิดตัวต้มยำกุ้งน้ำข้น-น้ำใส พร้อมดึงสองพ่อลูก ม.ร.ว.ถนัดศรี และม.ล.ศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

นายปรีชา นภาพฤกษ์ชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องภายใต้นวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การออกอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋อง หรือการขยายประเภทของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปสู่อาหารแนวตะวันตก เช่น พาสต้ากึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น โดยจะใช้เงินลงทุนทางด้านเครื่องจักรอีกประมาณ 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ การผลิตอาหารใหม่ๆลงสู่ตลาด จะเน้นทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ โดยคาดว่าในระยะ 5 ปี บริษัทจะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำ เทียบเท่ากับสหพัฒน์ ที่เป็นผู้นำด้านอาหารทั้งจำหน่ายในและประเทศและต่างประเทศเช่นเดียวกัน ทั้งนี้คาดว่ารายได้โดยรวมของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีอัตราเติบโตจากปัจจุบันอีกเท่าตัว หรือคาดว่าน่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีกว่า 2,500 ล้านบาท

"การที่บริษัทสนใจรุกธุรกิจอาหารอย่างมากนั้น เพราะอาหารเป็นสินค้าที่ทุกคนจะต้องบริโภคอยู่แล้ว และเทรนด์ในตลาดอาหารก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น เป็นกลุ่มที่ต้องการลองของแปลกใหม่ตลอดเวลา ซึ่งหากค่ายใดทำสินค้าใหม่และเป็นที่ถูกใจก็จะเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทได้"

นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทจะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ให้แก่วงการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยจะเน้นแนวตะวันตก ด้วยการเปิดตัวพาสต้ากึ่งสำเร็จรูปชนิดซองอย่างน้อย 2 รสชาติ เนื่องจากเห็นว่ายังไม่มีคู่แข่งขันรายใดทำสินค้าชนิดนี้ออกมาจำหน่าย โดยขณะนี้บริษัทกำลังพิจารณาเรื่องราคา ที่จะพยายามขายในราคาซองละ 5 บาทเท่านั้น เพื่อจับกลุ่มคนทันสมัย อายุ 20-35 ปี โดยจะใช้งบการตลาดประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 250 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือน

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา ไวไวสองรสชาติใหม่ หรือเรียกว่า Dual Product คือ ต้มยำกุ้งน้ำข้น และต้มยำกุ้งน้ำใส พร้อมกัน นอกจากนี้ยังได้นำม.ร.ว.ถนัดศรี และม.ล.ศิริเฉลิม (หมึกแดง) สวัสดิวัตน์ สองพ่อลูกผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยนายปรีชา กล่าวว่า การเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งน้ำข้นในช่วงนี้ไม่นับว่าล่าช้ากว่าตลาด เพราะแม้ว่าสองค่าย คือมาม่า และ4-me จะเปิดตัวก่อนหน้าไปแล้ว 1 เดือน แต่ไวไวถือโอกาสเปิดตัวรสชาติใหม่พร้อมกับ ถึง 2 รสชาติ ซึ่งยังไม่เคยมีบริษัทใดที่ออก รสชาติใหม่พร้อมกัน 2 รสชาติเช่นไวไวมาก่อน

ไวไวได้ใช้งบการตลาด รวมทั้งโฆษณาส่งเสริมการขายสำหรับสองรสชาติใหม่นี้ 80 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำยอดขายได้ 250 ล้านบาทในช่วง 3 เดือนแรก และจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของไวไวอีก 3% ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของไวไวโดยรวมเป็น 31-32% ในสิ้นปี 2545 จากมูลค่าตลาดรวม 9,500 ล้านบาท และบริษัทมั่นใจว่า รสต้มยำน้ำข้นและน้ำใส จะช่วยให้ส่วนแบ่งการตลาดของไวไวในปีหน้าเพิ่มขึ้น อีก 8-10% ในปี 2546 ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 37-38%

สำหรับการนำสองพ่อลูกคือ ม.ร.ว.ถนัดศรี และม.ล.ศิริเฉลิม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์พร้อม กันนั้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์ของไวไว และที่สำคัญไม่มีค่ายใดที่ใช้พรีเซ็นเตอร์พร้อมกันถึง 2 คน มาก่อน ซึ่งทำให้บริษัทเป็นผู้นำทั้งด้านการออกรสชาติใหม่และการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ด้วย

ส่วนกรณีที่มีค่าย 4-me ได้เคยพูดถึง ม.ร.ว.ถนัดศรี ในการเป็นผู้การันตีรสชาติให้แก่บะหมี่ยี่ห้อดังกล่าวนั้น หลังจากที่ไวไวเปิดตัวสองรสชาติใหม่พร้อมพรีเซ็นเตอร์แล้ว บะหมี่ค่ายอื่นจะไม่สามารถใช้ม.ร.ว.ถนัดศรีไปเป็น พรีเซ็นเตอร์ได้อีก

นายปรีชา กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาว่า บริษัททำยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.5% คิดเป็นยอดขาย 1,640 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ยอดขายรวมของทั้งบริษัทน่าจะทำได้กว่า 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 15-20%

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดบะหมี่กึ่งสำเรจรูปไวไวและควิกไว้ปีละ 6% ซึ่งหากทำได้ตามเป้าหมาย คาดว่าใน 4 ปีข้างหน้า บริษัทจะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้อย่างแน่นอน

"ปัจจุบันมาม่าเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 50-51% ซึ่งหากไวไวสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาเป็น 45% ก็จะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของมาม่าลดลงด้วย นั่นจะทำให้ไวไวเป็นผู้นำตลาดในทันที ซึ่งวิธีการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดนั้น ก็คือ การออกรสชาติใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องนั่นเอง" นายปรีชา กล่าวในตอนท้าย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us