Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2543
BIG 2000             
 





Bangkok International Gift & Houseware 2000 หรือ (BIG 2000) กระตุ้นให้ผู้ประกอบการกระตือรือร้น ในการพัฒนาสินค้า เพื่อแข่งกับตลาดโลก

ปีนี้ทางกรมส่งเสริมการส่งออกผู้จัดงาน BIG 2000 ยืนยันว่าจัดงานได้ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้า ที่กว้างขวางถึง 20,000 ตารางเมตร ของศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไบเทค มีบริษัท ที่ร่วมแสดงสินค้าทั้งไทย และต่างประเทศ ประมาณ 650 บริษัท จำนวน 1,300 ร้าน ในขณะที่ปีที่แล้วมีบริษัท ที่เข้าร่วมงานประมาณ 493 บริษัท จำนวน 815 ร้านเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเสียงบ่นจากเจ้าของร้านค้า ที่เข้าร่วมงานมาค่อนข้างหนาหูว่า ปีนี้นักธุรกิจ ที่เป็นลูกค้าประจำหลายรายหายหน้าไป เพราะเวลาของการจัดงานในเมืองไทยนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับประเทศฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และจีน จัดงานแสดงสินค้าในคอนเซ็ปต์เดียวกันกับทางเมืองไทย ทำให้นักธุรกิจบางราย เดินทางเข้ามาดูงานไม่ทัน โดยฟิลิปปินส์ได้จัดไปเมื่อวันที่ 13-16 เมษายน 2543 ฮ่องกงจัดเมื่อวันที่ 17-20 เมษายน ส่วนจีนจะจัดยาวตลอดครึ่งเดือนเมษายน

"ลูกค้าของเราจะดูงาน ที่ฟิลิปปินส์ แล้วเดินทางต่อไป ที่ฮ่องกง แล้วไปจีนเลย โดยไม่เข้าไทย" เจ้าของร้านรายหนึ่งบ่นกับ "ผู้จัดการ"

ปีหน้ากรมส่งเสริมการส่งออกก็เลยชิงกำหนดวัน และประกาศให้ทราบกันไปเลยว่า จะจัดขึ้นในวันที่ 18-22 เมษายน 2544 ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี

ร้านค้าทั้งหมดแข่งขันกันสุดเหวี่ยงในเรื่องไอเดียการดีไซน์สินค้าใหม่ๆ ออกมาเสนอขาย รวมทั้งการจัดร้านให้โดดเด่นเป็นที่สะดุดตา เช่น ร้าน Thai Pottery Industry เจ้าของ สินค้ายี่ห้อ "jaliang" สินค้าเซรามิกชื่อคุ้นหูจากเชียงใหม่ ซึ่งมีร้านค้าใหญ่ในกรุงเทพฯ ถึง 3 แห่ง คือ ที่เวิลด์เทรด, เซ็น ทรัลชิดลม และ ที่ดิเอ็มโพเรียม

ชะเลียงสร้างจุดเด่นในงานนี้ด้วยพื้นที่ใหญ่ถึง 8 คูหาติดต่อกัน หรือประมาณ 72 ตารางเมตร สินค้าใหม่ ที่อวดโฉม ไม่ว่าแจกันรูปทรงแปลกๆ กรอบรูป หรือชุดกาแฟ จะเป็นโทน สีขาว ม่วง ครีม โดยมีพนักงานในชุดโทนสีเดียวกันยืนหน้าหวานแฉล้มคอยต้อนรับ

การัณยา ร้านนี้สะพรั่งไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสัน ที่บรรจุในภาชนะต่างๆ กัน "มุก สถิตธนากร" ผู้ดูแลเรื่องการผลิตเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่า เมื่อ 10 ปีก่อนบริษัทจะทำดอกไม้ พลาสติกจัดช่อเป็นหลักในการส่งออกต่อมาเมื่อมีผู้ผลิตดอกไม้ ประเภทดังกล่าวมากขึ้น ก็ได้พัฒนาสินค้าเป็นดอกไม้ ที่ทำด้วยกระดาษสา และเป็นงาน ที่ทำด้วยมือทั้งหมด ตลาดส่งออก ที่ใหญ่ของการัณยาคือ ประเทศอเมริกา ฝรั่งเศส และอิตาลี

วาสนา คอลเล็คชั่น สินค้าหลักของร้านนี้เป็นของตกแต่งบ้านเช่นกัน แต่ทำด้วยวัสดุ ที่เป็นโลหะ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม และไม้เป็นส่วนใหญ่ แรกเริ่มเมื่อ 12 ปีก่อนนั้น ทำขายในประเทศอย่างเดียว ต่อมาได้ทำเป็นธุรกิจส่งออกด้วยสินค้ารูปแบบเดิม ที่เคยมียอดออร์เดอร์สูงคือ กล่องใส่ของหลากหลายขนาด ที่ตกแต่งด้วยแผ่นอะลูมิเนียม แต่ปัจจุบันสินค้าดีไซน์ใหม่ จะเน้นไป ที่กรอบรูป กรอบกระจก และแจกันมากขึ้น โดยมีประเทศเยอรมนี และแคนาดา เป็นลูกค้ารายใหญ่

ภามรี เป็นร้านส่งออกน้องใหม่ ที่เริ่มทำธุรกิจมาประมาณ ปีกว่าๆ สินค้าหลักของร้านคือ เทียน แต่จะแตกต่างจากเทียนของร้านอื่นๆ ตรง ที่มีขนาดใหญ่มาก และมีภาชนะ ที่ใส่สวยงาม และแปลกตา และเป็นสิ่งของ ที่ประดับบ้านได้เลย

ซินดี้ ภมรมนตรี เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนไทยได้ไปเติบโต และใช้ชีวิตในประเทศฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ และได้พบเห็นว่าคนในยุโรปนิยมจุดเทียนในบ้าน ในร้านค้ากันมาก และ ที่สำคัญตัวเองก็ชื่นชอบบรรยากาศภายใต้แสงเทียนอย่างมากๆเช่นกัน ทุกวันนี้เทียนของภามรี มีสำหรับส่งออกอย่างเดียว ใน ราคาตั้งแต่ 1 พันดอลลาร์ขึ้นไป แต่คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะมีร้านในเมืองไทยแน่นอน เพราะขณะนี้เจ้าของกำลังหาทำเลเหมาะๆ ในการเปิดร้าน

Thachan Gagenda เป็นร้านขายของตกแต่งบ้าน ที่จัดบูทเล็กๆ แต่น่ารัก สินค้าอาจจะไม่มีหลากหลายมากนัก เอวัจน์ วงศ์อนันต์ ดีไซเนอร์หนุ่ม ที่เพิ่งเรียนจบมาทางด้าน อินทีเรียร์ จากมหาวิทยาลัยรังสิตมาหมาดๆ บอกว่า สินค้าทุกชิ้นจะเน้นในเรื่องแนวความคิดใหม่ในการดีไซน์ และสินค้าเด่นของร้าน ที่มียอดออร์เดอร์มากๆ ในงานนี้จะเป็นโคมไฟตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นรูปต้นกระบองเพชร

สำหรับแนวโน้มของสินค้าของขวัญ และเครื่องใช้ประดับ ตกแต่งบ้านในปี ค.ศ.2000 นั้น ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการส่งออกได้ระบุไว้ว่า ความต้องการของผู้บริโภคจะเน้นไป ที่สินค้า ที่สร้างความผ่อนคลาย และการนำธรรมชาติมาผสมผสานกับ ชีวิตความเป็นอยู่ในบ้านมากขึ้น ดังนั้น ลวดลายของป่า ต้นไม้ สัตว์จะเป็นที่นิยมมากขึ้น และสีในปีนี้จะเป็นสีเงิน สีเทา สีฟ้าน้ำทะเล และสีน้ำตาล

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us