ปัญหาข้อพิพาทสัมปทาน "ดอนเมืองโทลล์เวย์" บานปลาย รัฐโดดอุ้มเอกชนด้วยเม็ดเงินกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทแลกกับหุ้น 450 ล้านหุ้น หรือ 60% บวกกับหนี้สินอีกกว่า 1.2 หมื่นล้านบาทหลังการเจรจาประสบความล้มเหลว โดยเสนอให้ตั้งที่ปรึกษาเพื่อหาราคาซื้อขาย ที่เหมาะสม ระบุ "สมบัติ พานิชชีวะ" ผู้ถือหุ้นกว่า 30% รับเละ ขณะที่ ครม.อนุมัติตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชน มี "พงษ์ศักดิ์" นั่งเป็นประธาน รวบอำนาจเบ็ดเสร็จแก้ปัญหาความขัดแย้งระบบรถไฟฟ้า
นายประกอบ ตันติยาพงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหา ข้อพิพาทสัญญาสัมปทานบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ เปิดเผยภายหลังประชุมวานนี้ (13 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อยุติ เรื่องการขยายสัมปทานเพื่อแลกกับการลดค่าผ่านทาง โดยคณะกรรมการและบริษัทสามารถบรรลุข้อตกลง เฉพาะการขยายระยะเวลาสัมปทานอีก 6 ปีเพื่อแลกกับการลดค่าผ่านทางในช่วง 5 ปีเท่านั้น
ส่วนประเด็นการกำหนดราคาค่าผ่านทางหลังครบกำหนด 5 ปียังไม่สามารถตกลงกันได้ โดยคณะกรรมการต้องการให้มีการกำหนดราคาค่าผ่านทางที่แน่นอนตลอดอายุสัมปทานที่เหลืออยู่ เพื่อไม่ให้ตกเป็นภาระของประชาชนผู้ใช้บริการหากบริษัทปรับราคาค่าผ่านทางในระดับที่สูงเกินไป ขณะที่บริษัท ต้องการกำหนดราคาค่าผ่านทางเองแต่ไม่เกินเพดาน ที่กำหนดไว้ในสัญญาสัมปทาน เพราะเกรงว่าหากกำหนดแน่นอนอาจจะมีความเสี่ยงมากจนเกินไป
นายประกอบกล่าวว่า เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ คณะกรรมการจึงเสนอให้มีการซื้อหุ้นทั้งหมด ที่กระทรวงการคลังไม่ได้ถืออยู่จำนวน 450 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ และเชื่อมโยงโครงข่ายทางด่วนตามนโยบายรัฐบาล โดยให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)ไปทำรายละเอียดราคาหุ้น ซึ่งในส่วนของรัฐบาลได้เร่งให้ที่ปรึกษาฯ สรุปราคาเสนอคณะกรรมการอีกครั้งภาย ในสัปดาห์หน้าเพื่อใช้ในการเจรจาซื้อหุ้นต่อไป
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นของดอนเมืองโทลล์เวย์ปัจจุบัน ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง 40% นายสมบัติ พานิชชีวะ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท 30% ผู้ถือหุ้นต่างชาติ 15% และผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกัน 15%
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะสรุปเรื่องเพื่อเสนอกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ซื้อหุ้นนั้น นายประกอบกล่าวว่า จะนำมาจากเงินกองทุนของกรมทางหลวงที่มีอยู่จำนวน 8,000 ล้านบาท หากซื้อในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ หรือราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท จะต้องใช้เงินจำนวน 4,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถใช้ได้ อย่างเพียงพอ แต่หากไม่สามารถใช้เงินดังกล่าวได้ จะต้องหาจากแหล่งเงินอื่นโดยต้องคำนึงถึงเรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะด้วย
ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ซื้อคืนจะต้องต่ำกว่าราคาพาร์ แต่คงไม่สามารถนำมูลค่าตามบัญชี (Book Value) ที่หุ้นละ 2 บาทมาเป็นราคาซื้อคืน เพราะการคำนวณ ราคาจะต้องนำระยะสัมปทานที่เหลือ 17 ปี และระยะเวลาสัมปทานที่ขยายเพิ่มให้อีก 6 ปีตีกลับมาเป็นค่าผ่านทางที่จะสามารถเก็บได้ รวมกับค่าเสียหาย ที่ภาครัฐอาจจะต้องชดใช้ให้บริษัทกรณีที่ขอให้มีการลดค่าผ่านทางลงด้วย
"จากการคำนวณคร่าวๆ คาดว่าใช้เงินประมาณ 4,000 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้น 450 ล้านหุ้น และรวมกับหนี้ของบริษัทจำนวน 12,000 ล้านบาท เท่ากับเรามีต้นทุนประมาณ 16,000 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าจะมีรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท 17 ปีก็ประมาณ 17,000 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอีกเล็กน้อย ก็เป็นระดับที่ใกล้เคียงกัน คงจะไม่ขาดทุน"
นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชน โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม เป็นประธาน น.พ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เป็นรองประธานฯ นายพรชัย นุชสุวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานฯ ร่วมกับคณะกรรมการอื่นๆ รวม 21 คน เพื่อทำหน้าที่ใน การเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชนของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า หลังจากนี้ไปเรื่องที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด เช่น โครงข่าย สายทาง รวมถึงการลงทุนการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาดำเนินการจะอยู่ภายใต้การพิจารณาของคณะกรรม-การชุดนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการทำงาน และมีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ข้อสรุปที่ได้จากคณะกรรมการชุดนี้ยังจะต้องนำสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ จัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ในวันนี้ (14 ก.ย.) ตนจะประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชน ซึ่งเบื้องต้นสำนักนโยบาย และแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จะนำ ผลศึกษารถไฟฟ้ามาเสนอเพื่อพิจารณารายละเอียดก่อนรวบรวมข้อมูลเสนอต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ พิจารณาต่อไปด้วย
|